บ้านหลังคาจั่วสไตล์นอร์ดิก

สำหรับบางคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนใครมีแบบนี้เพียงคนเดียวในโลก ก็อยากมีตัวตนที่เห็นปุ๊บจะจำได้ทันที “บ้าน” ก็เช่นเดียวกัน บางคนอาจพอใจกับหน้าตาที่ออกแบบมาเป็นพิมพ์เดียวกัน แต่เจ้าของบ้านหลังนี้ใน Cheongdo-gun ประเทศเกาหลีใต้ ได้ขอให้ Rieuldorang Atelier ออกแบบบ้านที่แปลกออกไปด้วยการแยกบ้านออกจากกัน ใส่ช่องว่างระหว่างอาคารล้อมรอบด้วยธรรมชาติ เป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร นอกจากแตกต่างจากอพาร์ตเมนต์ที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ในเมืองแล้ว ยังไม่เหมือนใครในแถบนี้หรือที่ไหนๆ

ออกแบบ : Rieuldorang Atelier
ภาพถ่าย : Yoon, Joonhwan
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

แม้ว่าดูเหมือนโจทย์จะง่าย แต่เมื่อหันกลับมามองพื้นที่ไซต์ จะเห็นอุปสรรคใหญ่เป็นทางลาดชันมีภูเขาอยู่ด้านหลัง ซึ่งสถาปนิกไม่ต้องการที่จะตัดดินหรือปรับโครงสร้างดินให้เท่ากัน (ซึ่งเป็นงานหินพอสมควร) ทางออกที่ทีมงานเลือกคือการปรับแบบ้านให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและที่ดินโดยรอบแทน โดยวางตัวบ้านตามความลาดชันของที่ดินและพลิกแนวคิดของอาคารในรูปแบบที่ผู้คนทั่วไปอาจไม่คิด ด้วยการแยกอาคารออกเป็นสองส่วน ชุดหนึ่งของบ้านเหมือนฝังตัวลงในดิน แล้วเชื่อมต่อกันด้วยหลังคาสีเขียวขนาดใหญ่ ได้ออกมาเป็นตัวบ้านที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม แต่การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ก็ดูโดดเด่นและทันสมัยด้วยชุดหลังคาหน้าจั่วไม่มีชายคาสไตล์นอร์ดิก ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ป๊อปอาร์ตที่สนุกสนาน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

อาคารสไตล์นอร์ดิกพื้นที่ 188 ตารางเมตรที่ลดหลั่น มีช่องว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าให้ต้นไม้ แสง ลม เป็นบ้านอยู่ในดิน มีธรรมชาติอยู่ในบ้าน อาคารที่หมุนรอบไซต์คล้ายเปลือกหอยสีขาวทรงบ้านโอบรับธรรมชาติ พื้นที่ที่อยู่อาศัยที่มีทั้งต่ำกว่าระดับพื้นดิน ระดับเดียวกับดิน และสูงกว่าดิน จะช่วยให้เกิดประสบการณ์เชิงพื้นที่ที่หลากหลายที่ไซต์อื่นๆ ไม่มี เป็นการทำข้อด้อยให้กลายเป็นจุดเด่นอย่างน่าสนุก

มุมมองนี้แสดงให้เห็นว่าซุ้มจั่วแหลมด้านหน้าแยกออกจากส่วนที่เหลือของบ้านเ รูปแบบหน้าจั่วของอาคารนี้ถูกหั่นเป็นชิ้นเปิดที่ทางเข้าเพื่อเผยให้เห็นต้นไม้ที่จัดวางอย่างจงใจในระหว่างกลาง อาคารหลังนี้มีสี่ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และห้องครัว ส่วนพื้นที่ใช้สอยหลักตั้งอยู่ในอาคารที่สอง

จากส่วนใช้งานกลางแจ้ง จะมีประตูกระจกขนาดใหญ่เชื่อมต่อเข้ามายังครัวและห้องทานอาหารที่เปิดโล่งเชื่อมต่อแนวนอน และเจาะโถงสูงขึ้นไปในแนวตัง บรรยากาศอบอุ่นจากไม้หุ้มเพดานห้องครัว ครอบคลุมบันได เลยขึ้นไปกำหนดพื้นที่ช่องแสงห้องนอนที่ชั้นบน ตัดกรอบสายตาด้วยสีดำของช่องแสงอลูมิเนียม ทำให้บ้านมีทั้งความอบอุ่นและคมชัดทันสมัย เสริมด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ในบริเวณบ้านก็มีพื้นที่ต่างระดับ ซึ่งเกิดจากการออกแบบพื้นที่ภายในให้สอดคล้องกับสัณฐานของไซต์เช่นกัน

ช่องเจาะขนาดใหญ่บนหลังคาหน้าจั่ว ทำให้เกิดพื้นที่ว่าง ซึ่งสถาปนิกเชื่อมต่อกับดาดฟ้าที่จัดเป็น roof garden ให้ขึ้นมาชื่นชมทัศนียภาพ มองออกไปเห็นท้องฟ้า ภูเขาในระยะไกล ในขณะเดียวกันบ้านที่มีหลังคาจั่วแหลมไม่มีชายคาก็กลายเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ภูเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แสงกลางคืนเน้นรูปแบบที่น่าทึ่งของอาคารในทุกจุด ทำให้บรรยากาศกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สถาปนิกออกแบบบนพื้นฐานความคิดที่ว่า “เป็นแนวคิดทั่วไปที่ว่าโลกเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติเป็นที่อยู่อาศัย และบ้านก็มีความชอบธรรมที่จะอยู่แทรกในธรรมชาตินั้น หรืออาจจะต้องทำลายธรรมชาติลงเพื่อให้บ้านแทนที่” เพื่อที่จะล้มล้างแนวคิดนี้ สถาปนิกจึงวางแผนให้โลกเป็นพื้นที่สำหรับมนุษย์อย่างเป็นมิตร และบ้านต้องเป็นพื้นที่สำหรับธรรมชาติ ทั้งสองส่วนจะอยู่กันได้อย่างเกื้อกูล ซึ่งผลงานที่ออกมาพิสูจน์สิ่งที่ตั้งใจได้เป็นอย่างดี