บ้านโมเดิร์นโชว์อิฐ

หากถามถึงจุดประสงค์ของการสร้างบ้านในแง่มุมที่ลึกกว่าการมีที่อยู่ที่อาศัย ผู้อ่านตอบได้มั้ยครับว่าจุดประสงค์ที่ว่าในการสร้างบ้านของเราคืออะไร บางคนสร้างบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ บางคนสร้างบ้านเพราะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น และบางคนสร้างบ้านเพื่อต้องการหยุดพัก ปล่อยวางความทะเยอทะยาน ให้บ้านเป็นแลนด์มาร์คสุดท้ายในการพักพิง เช่นเดียวกับคู่รักสามีภรรยาหลังนี้ ที่ต้องการสร้างบ้านเพื่อมองเห็นความเติบโตของลูก ๆ ไปพร้อมกับการค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปของบ้าน

ออกแบบ : Hinz Studio
ภาพถ่าย : Quang Tran
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

Chivihouse คือชื่อของบ้านอิฐแดงหลังนี้ ทำการตั้งชื่อตามชื่อของลูกสาวกับโต Chi และลูกสาวคนเล็ก Vi ผสมรวมกันเป็น Chivi House จุดประสงค์ของการสร้างบ้านสื่อสารออกมาทางชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ่อแม่ต้องการให้บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงและเติบโตไปพร้อม ๆ กับลูก โดยการนำเส้นสายที่เฉียบคมแบบโมเดิร์น มาผสมผสานคละเคล้าเข้ากับวัสดุท้องถิ่นที่เรียบง่ายและมีเสน่ห์

อิฐแดง เหล็ก ไม้ และคอนกรีต คือวัสดุที่นำมาใช้เป็นหลัก สีสันของสิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แม้จะผ่านร้อน ผ่านหนาวหรือผ่านฝน แม้ความเก่าจะมาเยือน แต่เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์จะไม่จางหาย เป็นการต้องการที่จะบอกลูก ๆ ว่า ช่วงเวลาที่เติบโตขึ้น แม้จะผ่านเรื่องราวใด ๆ ก็ตาม ก็อย่าลืมตัวตนที่แท้จริง

ลักษณะของอาคารสองชั้น วางฟอร์มตามความกว้างของที่ดิน หลังคาแบนทำให้บ้านมีรูปทรงสี่เหลี่ยมเรขาคณิต มีการยื่นในบางส่วนและเว้าในบางส่วนเพื่อเติมเต็มมิติให้สมบูรณ์มากกว่า ผนังภายนอกโดดเด่นด้วยอิฐแดง ก่อเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและสวยงาม ตรงผนังของโรงจอดรถด้านข้าง ให้วิธีการก่อแบบเว้นช่องลม เพื่อให้แสงและอากาศลอดผ่านเข้ามาได้

บ้านสองชั้นขนาดกะทัดรัดหลังนี้ มีพื้นที่ใช้สอยเพียง 137 ตารางเมตรเท่านั้น ชั้นล่างจัดผังแบบ Open Plan เปิดโปร่งยาวจากฟากหนึ่งไปสู่ฟากหนึ่ง เรียงตัวกันตามรูปแบบที่สะดวกต่อการใช้งาน ห้องครัว ทานอาหารและมุมนั่งเล่น พื้น เพดานคอนกรีตทำให้ภายในบ้านแลดูเป็นกันเอง ไม่ต้องพิธีรีตรองให้มากความ

เคาน์เตอร์เตรียมอาหารหรือไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งเดียวกันกับโต๊ะทานอาหาร แตกต่างกันที่ระดับความสูงและวัสดุที่นำมาใช้ รอบ ๆ ห้อง ไม่มีทางไร้แสง เนื่องด้วยการออกแบบให้มีช่องประตูกระจกขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เสริมทัพด้วยหน้าต่างบานกระจก การออกแบบช่องลมไว้อย่างเหมาะสม จะทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกตลอดทั้งวัน

ทางเดินบันไดขึ้นสู่ชั้นบน เปิดช่องแสงจากหลังคา เมื่อแสงธรรมชาติกระทบกับสีของคอนกรีตและหินที่นำมากรุผนัง จะมองดูคล้ายเป็นคลื่นน้ำตกไหลลงมา เป็นความครีเอทของสถาปนิกที่พยายามใส่อารมณ์ที่ชวนให้คิดถึงธรรมชาติไว้ในทุก ๆ จุดของบ้าน

มีพื้นที่อเนกประสงค์โล่ง ๆ โปร่ง ๆ ที่สามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่ตรงคอร์ทได้แบบเต็มตา ทั้งยังมีระเบียงด้านหน้าให้ออกไปชมความเคลื่อนไหวภายนอกได้อย่างสะดวกด้วย

ห้องนอนของพ่อและแม่ ถูกแบ่งแยกกับห้องนอนของลูกให้อยู่คนละฝั่งของบ้าน กั้นกลางด้วยห้องอเนกประสงค์ที่ใช้ร่วมกัน ตกแต่งด้วยธีมธรรมชาติ เรียบง่าย และอบอุ่น โดยเฉพาะภายในห้องน้ำที่มีการแบ่งโซนเปียกกับโซนแห้ง ทำการออกแบบให้พื้นที่อาบน้ำมีลักษณะเหมือนสวน เลอะเทอะได้เต็มที่ มีผนังอิฐที่ก่อด้านบนให้เปิดเป็นช่องลม คอยระบายอากาศและรับแสงเข้ามาไล่ความอับชื้น อีกทั้งยังจัดสวนริมกำแพงไว้อย่างสวยงามด้วย

ห้องนอนของลูกสาวทั้งสองคน บิลท์อินเตียงนอนให้เหมือนกรอบสามเหลี่ยมสองใบ สีฟ้าของลูกสาวคนโต และสีเหลืองของลูกสาวคนเล็ก มีช่องหน้าต่างกระจกเป็นของตัวเอง เพื่อรับแสงสว่างให้ปลุกในยามเช้า ส่วนผนังแต่ละด้านใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ แม้ทั้งสองจะเติบโตขึ้นแต่ด้วยการจัดฟังก์ชันลักษณะดังกล่าว ห้องนี้ก็จะใช้งานร่วมกันได้เช่นเดิม