Rooftop Garden

เพราะเรารู้ดีว่าบ้านที่ขาดพื้นที่สีเขียวนั้น ดูไร้ชีวิตชีวาและแข็งกระด้างเพียงใด ในบริเวณบ้านจึงต้องมีพื้นที่สวนปลูกต้นไม้ประดับเอาไว้เพิ่มความรู้สึกสดชื่นและมีสีสัน แต่ไม่ใช่ว่าบ้านทุกหลังจะมีบริเวณในการทำสวน ด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่บางไซต์อาจจะมีเพียงพอสำหรับการทำตัวอาคารเท่านั้น ไม่มีบริเวณรอบด้านในการทำสนามหญ้า สวนดอกไม้ ทำให้ความฝันในการมีสวนก็ถูกพับทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งปัญหานี้สถาปนิกรุ่นใหม่ๆ ได้มองหาแนวทางการใส่สวนลงในบ้านที่ไม่มีพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ เช่น การปลูกต้นไม้ลงในตัวบ้านเลย การเปิดหลังคาทำคอร์ทภายใน หรือจัดสวนเอาไว้บนหลังคาเสียเลย แค่เปลี่ยนมุมมองก็ได้ฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตได้เหมือนกัน

ออกแบบ : Mamm Design
ภาพถ่าย : Takumi Ota
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านหลังนี้หันหน้าไปทางถนนด้านทิศตะวันตก ด้านอื่น ๆ ทั้งหมดล้อมรอบด้วยบ้านเรือน ด้านตะวันออกและทิศใต้ มีอาคารอพาร์ตเมนต์ขนาดกลางทางด้านทิศเหนือ หลังจากพิจารณาทุกสิ่งที่ลูกค้าต้องการสำหรับบ้านแล้ว ก็มีพื้นที่ดินไม่เพียงพอสำหรับสวน จึงต้องปรับฟังก์ชันใหม่ให้สอดคล้องกับสิ่งที่คาดหวัง โดยออกแบบให้ตัวอาคารแยกปริมาตรออกเป็นกล่องสีเหลี่ยมหลังคาแบนเล็กๆ และวางไว้ในตำแหน่งต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะที่อึดอัด โดยให้แต่ละกล่องมีการระบายอากาศตามธรรมชาติและควบคุมแสงแดดผ่านช่องว่างระหว่างกล่อง ความสูงที่แตกต่างกัน และการเลื่อนในแนวนอนและแนวตั้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดเอฟเฟกต์นี้เช่นกัน ขั้นตอนสุดท้ายก็คือยกให้หลังคาและระเบียงเกือบทั้งหมดเป็นพื้นที่สวนปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวๆ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ไฮไลท์ของบ้านอยู่ที่ Roof gearden หรือสวนบนหลังคาที่ไล่ระดับลดหลั่นกันเหมือนบันได ทีมงานจัดสวนในลักษณะที่จูงใจให้ครอบครัวทำกิจกรรมกลางแจ้งได้หลากหลาย สามารถใช้พื้นที่สีเขียวเหล่านี้เป็นห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง พื้นที่เล่นสำหรับเด็ก และแม้แต่พื้นที่สำหรับฝึกซ้อมกอล์ฟ ชนิดของพืชที่ปลูกก็มีตั้งแต่หญ้า สวนดอกไม้ ผลไม้ตามฤดูกาล สมุนไพรบางชนิดที่นำมาใช้ปรุงอาหารได้ทุกวันเช่นกัน ต้นไม้สูงในบางจุดทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นจากถนนและจากสายตาเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่าง ดินหรือเครื่องปลูกบนหลังคายังทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติและการคายน้ำของพืชมีส่วนอย่างมากต่อสภาพแวดล้อมทางความร้อนของบ้าน

ชีวิตประจำวันของครอบครัวนี้มีอยู่ทั้งภายนอกและภายใน สำหรับพื้นที่ภายในจัดแบบ open plan ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องนอนสำหรับเด็ก แต่ละพื้นที่ไหลเข้าหากันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีผนังทึบที่สร้างการแบ่งแยกที่ชัดเจน แต่ใช้ตัวเฟอร์นิเจอร์เองและการเล่นระดับของพื้นบ้านเป็นตัวบ่งบอกขอบเขต บ้านจึงโปร่ง โล่ง สว่าง และรู้สึกอบอุ่นด้วยงานไม้สีอ่อนๆ

โครงสร้างบ้านที่เห็นงานไม้ บันไดเหล็กบางๆ และบันไดลิง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความสวยงามสไตล์มินิมอลเท่านั้น แต่ความเรียบง่าย เบา บาง และมีความยืดหยุ่นนี้มีผลอย่างมากกับการต้านทานแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ

ขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง จะพบว่าสถาปนิกสร้างกรอบมุมมอง ตำแหน่งของต้นไม้ และความเขียวขจีที่มองเห็นได้จากด้านในผ่านหน้าต่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกจัดวางและจัดวางอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนในรูปแบบที่น่าสนใจ ครอบครัวนี้เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตกลางแจ้งในวันที่อากาศเป็นใจ และชมวิวของดอกไม้และผลไม้ตลอดจนสัมผัสประสบการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีตามฤดูกาลได้ แม้จะเป็นช่วงที่สภาพอากาศไม่ดีทำให้ต้องอยู่ในตัวบ้านก็ตาม

เวลาที่ใครสักคนในครอบครัวอยากนั่งคนเดียวก็สามารถปลีกตัวมาอยู่เงียบๆ ที่ห้องนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่น หรือเวลาที่อยากอยู่กับคนอื่นก็เลือกได้ โดยที่ห้องพักแสนสงบก็ยังสามารถมองเห็นกันและมองเห็นวิวได้ สมกับความตั้งใจของสถาปนิกที่ต้องารให้บ้านนี้”มีพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอ แต่ยังสามารถสัมผัสได้ถึงการมีครอบครัวของคุณได้ทุกที่”