บ้านพักเมทัลชีทสีขาว มีทางลาดสำหรับรถเข็น
บ้านพักเล็ก ๆ บางหลัง แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับสร้างมาตรฐานสำหรับการอยู่อาศัยได้สูง เช่น กรณีของ Selenite ซึ่งเป็นบ้านพักในป่าตั้งอยู่ใน Eastern Townships รัฐควิเบก เจ้าของซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่สร้างบ้านอยู่ด้วยตัวเอง แต่เมื่อจะทำโครงการบ้านพักให้เช่าก็ต้องการทำงานร่วมกับสถาปนิก เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการผสมผสานสถาปัตยกรรมเชิงนิเวศ สุขภาพ และประสบการณ์รีสอร์ทที่ไม่เหมือนใคร โดยเน้นการพักผ่อนและความเป็นอยู่ที่ดี
ออกแบบ : naturehumaine
ภาพถ่าย : raphaelthibodeau
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งสำหรับเจ้าของ คือ ความต้องการให้เช่าบ้านพักตากอากาศที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน โดยไม่ลดทอนคุณภาพของพื้นที่ อันที่จริง การเช่าบ้านพักตากอากาศอาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้สูงวัยที่มีความคล่องตัวลดลงหรือทุพพลภาพ ซึ่งหลาย ๆ บ้านไม่ได้ใส่ใจตรงจุดนี้ ดังนั้น สถาปนิกจึงออกแบบทางเดิน อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดให้สามารถสัญจรผ่านได้และปลอดภัยสำหรับผู้คนที่มาเยือนมากที่สุด
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เจ้าของตั้งชื่อบ้านนี้ว่า Sélénite หรือ “เซเลไนต์” ตามชื่อแร่ผลึกที่เรียกว่า “มูนสโตน” ซึ่งเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติของ “หินแห่งการรักษาและการป้องกัน” ช่วยปลอบประโลมใจให้พลังงานบวก เช่นเดียวกับบ้านกลางป่านี้ ด้วยลักษณะของเซเลไนต์จะโปร่งใสมีเนื้อเป็นเสี้ยน ๆ วาวคล้ายใยไหม จึงมีการกำหนดไว้ตั้งแต่แรกว่า อาคารนี้จะใช้สีขาวล้วนเพื่อตอกย้ำแนวคิดของเซเลไนต์และคุณสมบัติที่ผ่อนคลายของสี ทั้งด้วยเหตุผลเชิงสัญลักษณ์และสภาพภูมิประเทศ จึงได้นำแผนผังแบบสี่เหลี่ยมมาใช้ รูปแบบนี้ทำให้สามารถเพิ่มความกะทัดรัดของโครงการและกระจายความต้องการหลักของโปรแกรมได้อย่างเหมาะสม
ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงดูเหมือนลูกบาศก์สีขาวขนาด 11×11 เมตร พร้อมหลังคาเมทัลชีท seamless สีขาวที่เห็นเส้นลาดเอียงสองชุด ดูคล้ายกับผลึกสองก้อนที่มีขนาดเท่ากันคว่ำลงจากแกนกลาง เมื่อเดินออกจากที่พัก ในบางมุมเราจะเห็นเหมือนปริซึมคู่สองอันที่โผล่ออกมาจากชั้นหินโดยรอบ หลังคาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเจาะทะลุยอดเขาแต่ละยอด เน้นย้ำถึงความสมดุลและความสมมาตร ส่วนภายนอกของอาคารเป็นแบบเรียบง่ายและเป็นสีเดียว ประกอบด้วยแผ่นไม้ บานหน้าต่างบานใหญ่ ในขณะที่ส่วนประกอบทางกลไกทั้งหมดได้รับการทาสีขาวอย่างพิถีพิถัน เพื่อเสริมแนวคิดโทนสีเดียวของโครงการ
ในการตกแต่งภายในก็ตอกย้ำแนวคิดเรื่องความสมดุลและความกลมกลืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ของโครงการ โดยส่วนกลางที่รวมห้องนั่งเล่น มุมรับประทานอาหาร ครัว และห้องน้ำ จะเป็นห้องสองห้องใหญ่ๆ ที่มีหลังคาโปร่งแสง ดังนั้นจึงทำเพดานเฉลียงสูงแล้วตีฝ้าตามแนวเหมือนปล่อง ให้ความรู้สึกโอ่โถง ในขณะที่ผนังต้องการเพิ่มความเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ วัสดุกระจกใสตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด ในบางมุมต่อกระจกชนมุม 90 องศา โดยไม่มีเสาทำให้ปลอดอุปสรรคบดบังสายตา
การตกแต่งแต่ละโซนของส่วนกลางยังคงนำเสนอโทนสีขาวเป็นหลัก เสริมด้วยแผ่นหินสีเบจเพิ่มความเป็นธรรมชาติที่เข้ากันได้ดีกับงานไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นของ “บ้าน” สำหรับพื้นบ้านเป็นปูนเปลือยขัดมันสีเทาเรียบๆ และยังมีสเปซกว้างมากพอสำหรับผู้ที่ต้องใช้รถเข็นในการหมุนตัว แต่ละจุดจะมองเห็นและเข้าถึงกันได้ง่าย สมาชิกในครอบครัวสามารถนั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทานอาหาร ชมวิว พร้อมๆ กันได้ในพื้นที่นี้ เป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
มุมครัวโถงสูงเฉียงเอียงเป็นเหมือนปล่องไฟที่มีช่องแสงสกายไลท์อยู่ที่ปลายสุด ทำหน้าที่ดึงแสงจากบนหลังคาให้กระจายส่องลงมาภายใน โดยที่องศาเฉียงรอบๆ ของปล่องจะช่วยเบี่ยงทางเดินของแสงให้เอียงและตกกระทบลงจุดที่ต้องการใช้งาน จึงไม่ทำให้รู้สึกว่าแสงรุนแรงจนแยงตาหรือทำให้บ้านร้อน
ที่นี่ยังมีห้องอบไอน้ำ ห้องซาวน่า สปา อ่างน้ำเย็น และห้องเกลือ นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติภายในบ้านแบบครบวงจรสำหรับนักเดินทาง ซึ่งควบคุมแสงโดยรวมให้สอดคล้องกับจังหวะชีวภาพ
นอกจากนี้วัสดุหลัก ๆ อย่าง หลังคาเมทัลชีทแล้ว สถาปนิกยังเลือกใช้วัสดุในท้องถิ่นที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและคงทนยาวนาน เช่น ฉนวนผนังที่ทำจากใยป่าน กรงฟาราเดย์ (Faraday) ที่หุ้มบ้านช่วยป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับผู้ที่แพ้ไฟฟ้า วัสดุตกแต่งภายในทั้งหมดปลอดสารอินทรีย์ระเหยง่าย ในขณะที่ไม้เป็นวัสดุที่นิยมใช้ทำตู้ครัวของโครงการ ครัวได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสะดวกสบาย ปรับเปลี่ยนได้ และครอบคลุมทุกความต้องการ โดยออกแบบโดยเวิร์กช็อป À hauteur d’Homme
แปลนบ้าน
