
คอร์ทกลางบ้าน
จัดสวนกลางบ้าน ไม่ขาดการติดต่อกับธรรมชาติ
บ้านแต่ละหลังให้ความสำคัญกับพื้นที่สวนค่อนข้างมากนะครับ เพราะสวนช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านดูสดชื่น จึงนิยมจัดสวนหน้าบ้านบ้าง หลังบ้านบ้าง แต่เดี๋ยวนี้บ้านหลายหลังที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการจัดสวน หรือเจ้าของบ้านต้องการสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นไปอีก จึงมีไอเดียการจัดสวนเป็นมุมเล็ก ๆ เอาไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วบ้านที่เราเรียกว่า pocket garden หรือจัดเป็นลานเอาไว้กลางบ้าน (courtyard) เสียเลย ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็ไม่ขาดการติดต่อกับธรรมชาติ อย่างบ้านหลังหนึ่งในเวียดนามที่แทรกความเขียวขจีเอาไว้ในทุกที่ ทำให้บ้านน่าอยู่อย่างสบายไม่ร้อนด้วยครับ
ออกแบบ : 3 Atelier
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพเพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่
บ้านหลังนี้สร้างอยู่ใน Lam Dong ประเทศเวียดนาม เสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางของปีพ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านตั้งใจว่าจะสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นของขวัญกับภรรยาและลูก สถาปนิกจึงคิดคอนเซ็ปในการดีไซน์บ้านให้ทุกคนในบ้านอยู่ร่วมกันได้สบาย มีความร่วมสมัยใช้วัสดุพื้นบ้านผสมสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ทำให้ใช้งานได้ดีแม้เมื่อเวลาผ่านไปอีกหลาย ๆ ปี นอกจากนี้ยังเพิ่มความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้วยการทำสวนเอาไว้ใจกลางบ้านและแทรกต้นไม้เอาไว้ตามจุดต่าง ๆของบ้าน คนในบ้านจึงรู้สึกได้ถึงความสดชื่นไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหน
ตัวบ้านเป็นอาคารสองหลังติดกันแต่หันหน้าออกไปคนละด้าน หลังคาด้านหนึ่งพับลงมาเพื่อปิดตัวบ้านเอาไว้ นอกจากได้ความเก๋แล้วยังปิดบังแสงที่ส่องมาทิศทางนั้นได้ด้วย ภายในเน้นสร้างความรู้สึกสบายจึงเต็มไปด้วยช่องลม และประตูขนาดใหญ่ อย่างในห้องนั่งเล่นก็ติดประตูบานเฟี้ยมและบานสไลด์ที่เปิดออกได้กว้าง ทำให้ระบบการไหลเวียนอากาศภายใน-ภายนอกบ้านทำได้ดี เหมาะกับภูมิอากาศเขตร้อนชื้น
ผนังติดบานชัตเตอร์ทำจากไม้ สามารถเปิดออกรับบรรยากาศสดชื่นของสวน หรือเลือกปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ทำได้ตามต้องการ
วัสดุที่ใช้หลัก ๆ ที่ใช้สร้างบ้านเป็นอิฐแดงธรรมดา ซึ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่นและราคาถูก ผนังบางส่วนฉาบทับและทาสี แต่บางส่วนโชว์แนวการเรียงตัวดิบ ๆ โดยไม่ต้องฉาบ เพิ่มลูกเล่นให้บ้านด้วยการวางอิฐให้เกิดช่องว่างโปร่งๆ เป็นช่องลมที่ช่วยเพิ่มอากาศให้บ้านหายใจได้ และทำหน้าที่เป็น Facade ที่กั้นความเป็นส่วนตัวให้บ้านโดยไม่ต้องปิดให้บ้านทึบ วัสดุง่าย ๆ ที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นอิฐ ไม้ ไม่ฉูดฉาดแบบนี้ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและดูน่าสบาย
สิ่งที่พิเศษที่สุดในบ้านหลังนี้คือ ภายในตัวบ้านจะเว้นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าเอาไว้เป็นจุด ๆ เพื่อจัดเป็นสวนเขียว ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลางบ้าน ระหว่างฟาซาดกับตัวบ้าน ห้องนอน หรือแม้แต่ในห้องน้ำ เพิ่มทัศนียภาพที่สบายตา และกระจายความสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าไปทั่วบริเวณ ไม่ว่าคนในบ้านจะอยู่มุมไหนของบ้านก็สัมผัสธรรมชาติได้ง่าย ๆ
ห้องนอนชั้นบนโปร่งและเย็นสบายด้วยตัวช่วย 3 สเต็ป หนึ่งคือ การติดผนังกระจกสีตัดแสง ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องไม่อึดอัดจากผนังคอนกรีตแล้ว ยังช่วยตัดแสงและดูดซับความร้อนที่ผ่านกระจกเข้ามาภายในได้ดี สองคือ ปราการฟาซาดอิฐช่องลมช่วยกรองแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ห้อง และความพิเศษอันดับสุดท้ายคือ สถาปนิกใช้พื้นที่ว่างในบริเวณนี้ทำสวนที่มีต้นไม้เขียว ๆ เติมความเย็นให้พื้นที่ห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างฟาซาดกับห้องนอน หรือมุมในห้องอาบน้ำ
ช่องลมที่วางตัวเป็นจังหวะอยู่ทั่วบ้าน ทำให้บ้านถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ปิดทึบ ในขณะที่มีความเป็นส่วนตัว
ในช่วงกลางวันแสงห้องนั่งเล่นดูสบายด้วยสเปซที่สูงโปร่งขนาดใหญ่ แต่เรียบง่ายด้วยวัสดุธรรมชาติ แต่ในยามค่ำคืนแสงไฟจากสวนและโคมไฟระย้ากลับสร้างความรู้สึกที่แตกต่าง ทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นอีกนิด
สวนกลางบ้านรับแสงจากช่องแสงสกายไลท์ที่ส่องเข้ามาตรง ๆ ทำให้ต้นไม้ได้รับแสงจากธรรมชาติได้เต็มที่ บริเวณรอบ ๆ บ้านก็พลอยได้รับประโยชน์จากช่องแสงนี้ด้วย บ้านจึงดูสว่างเหมือนเป็นบ้านที่เปิดเอาท์ดอร์