ตกแต่งห้องนอนเด็ก
แต่งห้องนอนเด็กชาย ให้เป็นโลกแห่งจินตนการและการเรียนรู้
เมื่อเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้นถึงวัยที่อยากแยกห้องนอนมามีโลกส่วนตัว คุณพ่อคุณแม่ก็คงอยากแต่งห้องให้ลูก ๆ มีความสุข พร้อมรองรับจินตนาการและเสริมการเรียนรู้ไปในคราวเดียวใช่ไหมครับ การแต่งห้องนอนให้สนุกเล่นและเพลินเรียนรู้แบบนี้ไม่ยากเลยถ้ารู้ทริกดี ๆ อย่างเช่น จัดช่องแสงให้พอเหมาะ การถ่ายเทอากาศดี สีสบายตา ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับวัยและการใช้งาน รวมถึงการตกแต่งที่ตรงกับความสนใจของเด็ก ๆ ก็จะเป็นห้องที่ตอบโจทย์ได้พอดี
บทความนี้นำตัวอย่างการตกแต่งห้องนอนมาให้ชมกัน เป็นห้องของเด็กผู้ชายที่จัดสรรการใช้งานและเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสม ทำให้มีพื้นที่ว่างให้ความคิดสร้างสรรค์ได้โลดแล่น ส่วนหน้าตาของห้องจะออกมาแบบไหน ตามไปชมกันเลยครับ
สนับสนุนโดย : SB Design Square
ห้องนี้อยู่ในทาวน์โฮมขนาด 3 ชั้น เจ้าของบ้านเลือกห้องเล็กบนชั้น 3 ให้เป็นห้องนอนของลูกชายคนโต ซึ่งชื่นชอบซุปเปอร์ฮีโร่ ฟุตบอล และโมเดล การตกแต่งจึงต้องเอื้อให้วางของสะสมได้ โดยยังมีพื้นที่แบ่งให้มุมทำการบ้านและเตียงนอน แต่ด้วยรูปร่างห้อง 4 เหลี่ยมจตุรัสที่มีพื้นที่ไม่มาก หากจัดวางตู้หลาย ๆ ใบ หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ห้องจะดูแคบ ทางเลือกที่ดีคือ ใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น ขนาดกระทัดรัด มีหลากฟังก์ชั่นในชิ้นเดียว โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานห้องออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1.มุมพักผ่อน
โซนหลัก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญคือ มุมนอนพักผ่อน เพราะเป็นส่วนที่เด็ก ๆ จะได้ผ่อนคลายเต็มที่ จึงเลือกเตียงและที่นอนที่กว้างและรองรับสรีระได้ดี ห้องนี้ใช้เตียงสีเทารุ่น Econi ขนาด 6 ฟุต เลือกขนาดใหญ่เพื่อให้เด็กนอนได้สบาย เมื่อหลับสนิทเต็มอิ่ม ก็พร้อมที่จะตื่นเช้าทำกิจกรรมเรียนรู้ได้อย่างสดชื่น ตัวเตียงมาพร้อมฟังก์ชั่นที่วางบริเวณหัวเตียงให้โชว์โมเดลชุดโปรดได้หลายตัว ใต้เตียงเสริมลิ้นชักให้จัดเก็บของเล่นและของใช้ได้อีก ชุดเครื่องนอนเป็นลายฟุตบอลสีฟ้า-น้ำเงินเข้ากับโทนสีฟ้าของผนังห้อง เป็นโทนสีเย็น ๆ ดูสบายตาที่เด็กผู้ชายมักจะชอบ
2. มุมจัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้
ห้องที่พร้อมจะเลอะจากการเล่นซนและกองเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ จึงต้องมีตัวช่วยจัดระเบียบดี ๆ อย่าง ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน รุ่น Minimo ที่ลึกเพียง 63 ซม. ทำให้เหลือเนื้อที่สัญจรระหว่างเตียงกับตู้ได้สบาย หน้าบานตู้เป็นบานสไลด์ ช่วยประหยัดพื้นที่ตอนเปิดตู้และไม่ต้องกังวลเรื่องการกระแทก ความกว้าง 120 เซนติเมตรเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเสื้อผ้าหรือของเล่นก็จัดเก็บได้หมดโดยไม่ต้องซื้อตู้เพิ่ม แถมมีกระจกเงาส่องได้เต็มตัวเอาไว้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านด้วย
3. มุมทำการบ้านอ่านหนังสือ
บริเวณที่วางโต๊ะทำการบ้านควรเป็นมุมที่สงบ ซึ่งจะทำให้เด็ก ๆ มีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขึ้น ถ้าอยู่ใกล้หน้าต่างก็ช่วยถนอมสายตาเพราะได้รับแสงสว่างที่เพียงพอ เลือกโต๊ะเขียนหนังสือรุ่นที่ไม่เทอะทะ จะทำให้ห้องดูโปร่งตาไม่อึดอัด ห้องนี้ใช้โต๊ะดีไซน์แบบเพียวบางรุ่น Trapez ขนาด 90 x 60 x 75 ซม. ความสูงของโต๊ะพอดีกับสรีระของเด็ก ช่วยให้รู้สึกสบายเวลาวางแขนทำการบ้าน ส่วนของบอดี้และหน้าท๊อปโต๊ะเรียบ ๆ วางสมุดหนังสือและเครื่องเขียนได้มาก มีพื้นที่สำหรับว่างวางขาด้านล่าง ส่วนข้างโต๊ะสามารถเสริมชั้นวางหนังสือและของสะสมได้
Trick ที่คุณพ่อคุณแม่แฝงการเรียนรู้เข้าไปในห้องนี้ คือ หาคมความคิดดี ๆ มาติดผนังส่วนที่ว่างอยู่ เด็ก ๆ ก็จะซึมซับจากการได้อ่านทุกวัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการมองโลกในแง่ดี ผนังตรงหัวนอนติดสติ๊กเกอร์แผนที่โลก เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ จากโลกกว้างนั่นเองครับ
เห็นไหมครับว่าห้องนอนของเด็กยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่ห้องพักผ่อนเท่านั้น ถ้าจัดตกแต่งให้เหมาะสมก็จะเป็นเหมือนกล่องวิเศษที่อัดเต็มด้วยของที่ชอบ พร้อม ๆ กับเสริมการเรียนรู้ได้อย่างแนบเนียน สำหรับผู้อ่านท่านใดที่เห็นตัวอย่างห้องนี้แล้ว รู้สึกอยากนำไอเดียไปตกแต่งห้องลูก ๆ สามารถเลือกชมเฟอร์นิเจอร์ได้ที่เว็ปไซต์หรือโชว์รูมใกล้บ้านเลยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เว็บไซต์ : sbdesignsquare.com | แฟนเพจ : SB Design Square Thailand http://www.tb-credit.ru/zaimy-na-kartu.html
