
บ้านคลาสสิคไร้กาลเวลา
เวลาเป็นสิ่งที่เดินหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่มีย้อนกลับ ในทุก ๆ วันจึงมีความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ บ้านก็เช่นกัน วันนี้ผู้คนอาจชอบรูปแบบบ้านสไตล์นี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นความเก่า เชย ตกยุค แต่ก็มีบ้านบางอหลังที่ดูแล้วเหมือน “ไร้กาลเวลา” ทั้งๆ ที่สร้างมานานหลายสิบปี นั่นอาจจะเป็นเพราะการออกแบบที่ใช้ดวงตาของอนาคต หรือมองหาสิ่งที่กลางๆ สิ่งที่สามารถเอื้อต่อการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและการทรานส์ฟอร์ม เหมือนที่ La Shed นำเสนอพื้นที่อยู่อาศัยที่ผ่านการปรับปรุงทั้งภายในภายนอกให้ดูโดดเด่นในความเรียบง่าย ความชัดเจน ดูสมาร์ทในทุกยุคสมัย
ออกแบบ : La Shed Architecture
ภาพถ่าย : Maxime Brouillet
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านชั้นเดียวเรียงยาวหน้ากระดานหลังนี้เดิมเป็นบ้าน Mid century สร้างในปี 1950 ซึ่งมีเค้าโครงสวยงามอยู่แล้ว La SHED ได้เข้ามาเติมชีวิตชีวา สร้างความโดดเด่นด้วยหลังคาสีดำสนิทตัดกับผนังสีขาวสะอาด เกิดความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างการออกแบบสไตล์วินเทจและร่วมสมัย งานรีโนเวทออกมามีความปราณีต ภายนอกสอดคล้องกับยุคสมัยภายในสอดรับกับไลฟ์สไตล์ แนวคิดหลักคือ เพิ่มความโปร่งสบายให้บ้าน ปรับเปลี่ยนผนังบางจุดเป็นกระจกสร้างการเชื่อมโยงให้มองเห็นวิวได้ทั้งสองด้าน ในขณะที่บ้านดูมีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างมากขึ้นก็ยังมีความเป็นส่วนตัว เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียบ ง่าย แต่โดยรวมกลับมีพลังมาก
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
จากประตูทางเข้าจะพบกับโถงโล่ง ๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องหินสีดำริ้วลาย Texture สวย ให้ความรู้สึกต่อเนื่องกับภาพลักษณ์ภายนอกแต่แฝงความเป็นธรรมชาติ พื้นในส่วนโถงทางเดินที่นำเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวจะเปลี่ยนเป็นไม้ ซึ่งเป็นของเดิมอยู่แล้ว จากโซนนี้จะมีฉากกั้นวัสดุโปร่งแสงมากั้นแบ่งขอบเขตใช้งาน ลักษณะที่เป็นกระจกฝ้ามองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างหลังลาง ๆ ทำให้บ้านดูแปลกใหม่น่าสนใจ
พื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอยู่ที่ใจกลางของบ้าน ประกอบด้วยห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นสีกลาง ๆ ดีไซน์เรียบง่ายแต่สง่างามสลับไปมาระหว่างโทนสีอ่อนและสีเข้ม โดยมีผนังบิลท์อินบานไม้วอลนัทที่ทำห้องเก็บของขนาดใหญ่สองจุดเป็นตัวแบ่งและกั้นพื้นที่เปิดโล่งนี้ ให้มีขอบเขตแยกออกจากกันและไม่จำเป็นต้องก่อผนังปิดทึบแยกเป็นห้อง ๆ ให้ดูทึบ การจัดแปลนใหม่แบบ open plan รวมฟังก์ชันหลักในบริเวณเดียวจะทำให้เข้าถึงง่ายขึ้น บ้านมีความลื่นไหลและยืดหยุ่น
ในห้องครัว มีตู้กระจกโปร่งแสงแขวนไว้วางอย่างท้าทายสายตา เคาน์เตอร์ครัวที่มีขอบยกสูงช่วยซ่อนความยุ่งเหยิงบนไอส์แลนด์ไม่ให้คนที่อยู่บริเวณโต๊ะทานข้าวมองเห็น ด้านหลังเป็นตู้เก็บของบานไม้ลักษณะเฉพาะ ด้วยลายเส้นธรรมชาติที่คมชัดของไม้วอลนัท และโทนสีคาราเมลอบอุ่นตัดกับเคาน์เตอร์ครัวสีขาว เป็นชุดสีกลางๆ ที่ให้อารมณ์ของบ้านที่เป็นมิตร อ่อนโยน ร่วมสมัย ดูไม่เบื่อไม่ว่ากี่ปีผ่านไปก็ไม่มีตกยุค
ถัดจากพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นโซน private คือห้องนอนและห้องน้ำ ที่มีการจัดแปลนและฟังก์ชันน่าสนุกหลายอย่างเหมือนค่อย ๆ เปิดอ่านหนังสือทีละหน้า อย่างเช่น เหนือหัวเตียงจะมีฉากโปร่งแสงกั้นแบ่งเว้นพื้นที่เอาไว้ให้เดินได้สองด้าน ทำให้เกิดเส้นทางสู่กิจวัตรประจำวันที่เป็นธรรมชาติระหว่างเตียง ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว และห้องส้วม
ห้องน้ำโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์ซิงค์ล้างหินขนาดใหญ่ การจัดวางที่ทันสมัยแยกจากห้องนอนด้วยผนังกระจกฝ้า ไม่ต้องเดินเปิดปิดประตูให้เสียเวลา พื้นที่ภายในสว่างไสวด้วยแสงผสมผสานกับวัสดุชั้นดีและเป็นธรรมชาติอย่างหินอ่อนดูหรูหรา ข้างๆ เคาน์ตอร์ด้านซ้ายจะมีประตูเปิดเข้าไป walk-in closet ส่วนอีกด้านมีบานประตูสีขาวซ่อนห้องน้ำรอง (ห้องอาบน้ำ,ห้องส้วม) เอาไว้อีกชั้น
ห้องน้ำและห้องส้วมจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนผ่านขนาด วัสดุ เส้นโค้งและกระเบื้องโมเสคชิ้นเล็ก ๆ แสนประณีต ผลลัพธ์ที่ได้คือมีความสไตล์ ดูแข็งแกร่งแต่ก็มีความละเอียดอ่อนและเป็นสากล ไม่เพียงทำให้การอยู่อาศัยง่ายขึ้น ยังทำให้คุณภาพในการใช้ชีวิตและสุขภาพดีขึ้นด้วย
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : หลักการสร้างบ้านที่ให้ความรู้สึกไร้กาลเวลาและเป็นสากล (Timeless & Universal) นั้นทำได้ไม่ยาก เพียงลองมองหารูปแบบบ้านที่เรียบง่าย เส้นสายตรงไปตรงมา อย่างบ้านหลังคาจั่ว บ้านหน้ากระดานเรียงยาว แล้วเลือกชุดสีกลาง ๆ อย่างเช่น สีขาว ดำ น่้ำตาล ครีม มีวัสดุคลาสสิคมาผสมผสานกับวัสดุใหม่ ๆ เช่น แผ่นหิน งานไม้ กระเบื้อง subway มาจับคู่กับกระจกใส กระจกฝ้า บล็อกช่องลม ก็จะทำให้บ้านมีทั้งความเรียบง่ายแต่สง่างาม ไม่ตามสมัยแต่ก็ไม่ล้ำสมัย |