ออกแบบเปลือกอาคารปกป้องบ้าน

ถ้าคนเรามีผิวหนังและเสื้อผ้าเพื่อป้องกันร่างกายจากสภาพแวดล้อม “บ้าน” เองก็ต้องการปราการปกป้องเช่นเดียวกัน เพราะบ้านต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากฝน แดด ลม หรือมลพิษต่างๆ ทุก ๆ วันไม่เว้นวันหยุดราชการ เราจึงเห็นบ้านบางหลังมีเปลือกชั้นนอกทำหน้าที่กรองแสง พรางสายตาจากผู้คนที่ผ่านไปมา และไม่ลืมที่จะมีพื้นที่สีเขียวช่วยเพิ่มความสดชื่น เหมือนกับบ้านหลังนี้ที่เราจะพาชมในอินโดนีเซียก็มีปราการที่จะช่วยให้บ้านมีสุขภาพดีไปพร้อมกับผู้อยู่อาศัย

ออกแบบ : Atelier Bertiga
ภาพถ่าย : Ernest Theofilus
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านนี้สร้างอยู่ในเตเบต ประเทศอินโดนีเซีย พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม ภาพที่เห็นภายนอกวัสดุที่ใช้ในบ้านหลังนี้หลัก ๆ จะมีสองโทนสี คือฟาซาดบล็อกช่องลมสีเทาเข้มรูปร่างสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ และไม้สีน้ำตาลบนส่วนหน้าอาคารหลัก เพื่อสร้างความประทับใจฟีลแบบผู้ชาย ๆ และมีต้นไม้ที่ช่วยปกป้องภายในจากฝุ่นและสภาพอากาศ ส่วนภายในบ้านนั้นเน้นการใช้สีขาวและสีไม้สีอ่อนพร้อมกับกระจกและหน้าต่างที่กว้างพอที่จะทำให้บ้านดูกว้างขึ้นและอบอุ่นขึ้น

บริเวณชั้นสองหน้าบ้านมีพื้นที่ระเบียงโล่งสำหรับพักผ่อนสบาย ๆ พร้อมกระถางต้นไม้สามกล่อง ซึ่งตกแต่งด้วยพื้นผิวไม้ให้มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เนื่องจากบ้านหลังนี้อยู่ในบริเวณที่มีประชากรหนาแน่น ทำให้ต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วย หน้าที่หลักๆ ของบล็อกช่องลมที่เป็นแผงสูงหลายเมตร จึงตอบโจทย์การลดมุมมองจากพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่ลดการเปิดหน้าต่างบ้านทำให้ยังหายใจและรับแสงได้ นอกจากนี้การจัดวางกล่องกระถางบนผนังยังลดความรู้สึกแข็งกระด้างให้อาคารด้วย

เจ้าของบ้านให้โจทย์มาตั้งแต่แรกว่าอยากได้บ้านที่เน้นความกะทัดรัด การระบายอากาศ และแสงธรรมชาติสูงสุด แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวด้วย เพื่อตอบคำถามและความต้องการเหล่านี้ สถาปนิกพยายามที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการการออกแบบภายในโดย แบ่งออกเป็นสองส่วนเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่โล่งตรงกลาง ซึ่งจะตรงกับห้องทานข้าวเพื่อให้จุดนี้เป็นโซนรับแสงในใจกลางอาคาร

ภาพตัดข้าง แสดงให้เห็นวิธีการแยกอาคารออกเป็นสองส่วนแล้วใส่ช่องว่างรับแสงตรงกลาง

เมื่อเข้าสู่อาคารชั้นล่างจะเป็นโรงจอดรถที่มีผนังโปร่งๆ กั้นสายตา ก่อนจะมีบันไดนำขึ้นมาบนชั้น 1 ที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่แบบ 3 in 1 คือ Family room ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร โดยที่จะพบกับห้องรับประทานอาหารก่อน ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น และส่วนครัวไม่ได้อยู่ใกล้กับโต๊ะทานข้าวเหมือนเลย์เอาต์ปกติ แต่ทั้งหมดก็สามารถเข้าถึงกันได้

บริเวณโต๊ะอาหารที่จัดวางในพื้นที่เปิดโล่งสูงสองเท่านี้ จัดสวนวางต้นไม้ใบเขียวสดเอาไว้ด้วย หลังคาที่เป็นบานเกล็ดกระจกทำหน้าที่ดึงแสงธรรมชาติลงสู่ภายใน ทำให้รู้สึกเหมือนได้บรรยากาศแบบการทานอาหารกลางสวนแบบ Inside out-outside in และยังช่วยให้การระบายอากาศในบ้านดีขึ้นอย่างที่ตั้งใจ เพราะหลังคาใช้ตะแกรงเปิดปิดอัตโนมัติ ลมร้อนสามารถถ่ายเทขึ้นด้านบนและระบายออกนอกบ้านง่ายๆ

จากห้องครัวจะมีบันไดไต่ระดับไปยังห้องนอนหลัก ตกแต่งเรียบง่ายด้วยงานไม้สีอ่อนๆ ภายในเน้นความโปร่งโล่ง มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องน้ำ และเพื่อสร้างความกะทัดรัดในพื้นที่เหล่านี้ ชั้นบนสุดจึงใช้แนวคิดชั้นลอยที่มีเตียงและโต๊ะทำงานอยู่คนละด้านของบันได โดยที่ทั้งเตียงและพื้นที่ทำงานต่างมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวได้ เปิดรับแสงและลมได้ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะมีเปลือกอาคารที่เป็นช่องตารางถี่ๆ ปิดพรางสายตาให้นั่นเอง