บ้านสองชั้นทรอปิคอล

ในยุคที่เศรษฐกิจค่อนข้างฝืดเคืองแบบนี้ การทำงานมีรายได้ทางเดียวมักไม่พอ เราจึงได้เห็นหลายๆ บ้านปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นร้านค้าขายของ หรือเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ แบบที่ชอบมากขึ้น เพื่อเป็นรายได้เสริมโดยที่ไม่ต้องเสียค่าเช่า ในชนบทของเวียดนามตามทางหลวงแผ่นดินและถนนในต่างจังหวัด ก็มีบ้านพักอาศัยหลายหลังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ด้านหน้าอาคารรวมบ้านกับธุรกิจเหมือนกัน ซึ่งโดยปกติแล้วเจ้าของบ้านจะต่อเติมเองตามใจโดยไม่ปรึกษาสถาปนิก ทำให้การใช้ชีวิตในบ้านขาดความเป็นส่วนตัว และการจัดการร้านกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก เจ้าของบ้านนี้ที่อยากเปิดร้านกาแฟจึงเสนอแนวคิดให้นักออกแบบดีไซน์บ้านอย่างเป็นสัดส่วนตั้งแต่แรก

ออกแบบ : Story Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

โครงการบ้าน “Song Hinh House” เป็นอาคารสองชั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 19C อำเภอซงฮิง จังหวัดฟู้เอี้ยน ประเทศเวียดนาม เจ้าของคู่หนุ่มสาวที่มีลูกสาวตัวน้อย ทั้งคู่มีความฝันว่าอยากจะเปิดร้านกาแฟและน้ำอัดลมเล็ก ๆ ในบ้าน ขายกาแฟให้ผู้สัญจรไปมาได้พักนั่งดื่ม และจะได้มีเวลาดูแลลูกที่บ้านไปพร้อมกันได้ด้วย สถาปนิกจึงจัดพื้นที่ด้านหน้าทำซุ้มเครื่องดื่มชั้นเดียว พื้นที่ 75 ตารางเมตรด้านหน้า ส่วนด้านในเป็นบ้านพักอาศัยสองชั้นพื้นที่ก่อสร้างบ้าน 125 ตารางเมตร

รูปแบบสถาปัตยกรรมภายนอกของบ้านมีหลังคากระเบื้องสีแดงแบบดั้งเดิม ใช้วัสดุในท้องถิ่นเพื่อให้เข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบและจังหวะของวิวภูเขาที่เป็นฉากหลัง เป็นการออกแบบรายละเอียดที่ใส่ใจในจุดเล็ก ๆ น้อยๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และน่าสนใจให้กับบ้าน

เพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจและความสะดวกสบายในการทำงานบ้านอย่างเป็นส่วนตัว สถาปนิกได้นำเสนอโซลูชั่นมากมายในการออกแบบการจราจรภายในและพื้นที่บ้าน โดยสถาปนิกแบ่งประตูออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ประตูจากลานไปยังห้องนั่งเล่นส่วนตัวและประตูแยกสำหรับคาเฟ่ วิธีนี้จะช่วยแยกการจราจร พร้อมความเป็นส่วนตัวสำหรับเจ้าของไปพร้อมกัน

ระหว่างร้านกับบ้านจะมีลานโล่ง ๆ ที่ทำบ่อปลาและสวน ที่ไม่ได้มาทำหน้าที่เพิ่มความเย็นลดความร้อน สร้างบรรยากาศดี ๆ ในระหว่างที่ลูกค้าแวะเวียนมาใช้ริการเท่านั้น แต่ยังถูกจัดไว้เพื่อใช้เป็นตัวกลางแยกพื้นที่ระหว่างร้านกาแฟกับตัวบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวแบบไม่ดูเป็นทางการ บ้านและร้านก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน

ข้าง ๆ อาคารชั้นเดียวด้านหน้าที่ใช้เป็นห้องครัวและแคชเชียร์สำหรับร้าน จะมีประตูเหล็กสีดำโปร่งๆ เปิดนำไปสู่ตัวบ้าน โดยจะมีลานโล่งๆ ยาวก่อนถึงประตูกระจกโค้งสูงหลายเมตรที่รอต้อนรับอยู่

สถาปนิกจัดวางฟังก์ชันครัวและห้องทานข้าวโปร่งโล่งเอาไว้ตรงกับประตูกระจก เมื่อเข้ามาใช้งานโซนนี้จะสังเกตเห็นห้องทำงานและร้านค้าได้ด้วย ซึ่งตรงกับแนวคิดในการออกแบบที่ตั้งใจให้พื้นที่ในร่มชั้นล่างและชั้นบน มีช่องเปิดหน้าต่างกระจกโปร่งๆ ตามตำแหน่งต่างๆ ภายในบ้าน ช่วยให้เจ้าของดูแลร้านได้ง่ายและรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของแขกที่เข้าออกได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของบ้าน

ในส่วนของห้องนั่งเล่นที่อยู่ในอีกโซนของบ้านจะเบื้องกับบ่อปลา และจุดที่วางโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้า ช่วงที่ต้องการรับไอเย็นสดชื่นจากน้ำก็เปิดประตูบานเลื่อนออก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาของแขกที่มา และด้านหลังห้องที่ตรงกับบันไดยังทำระแนงไม้ช่วยบังสายตาเมื่อสมาชิกในบ้านเดินขึ้นลงด้วย

ใจกลางบ้านเจาะพื้นเพดานให้ทะลุขึ้นในแนวตั้ง เพื่อให้พื้นที่โปร่งโล่งสบายและช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี บ้านจึงไม่ร้อนมากในฤดูร้อน เพียงแค่เปิดพัดลมก็สามารถอยู่อาศัยได้สบายๆ ความสูงเป็นสองเท่า Double Space นี้ยังทำให้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นง่ายขึ้นด้วย

หน้าต่างโค้งๆ ติดกระจกบานสูงหลายๆ บาน ทำให้สังเกตร้านกาแฟได้ง่ายและยังช่วยให้แสงเข้าสู่ส่วนกลางของบ้านได้รอบด้าน เหนือส่วนนี้จะมีช่องแสง skylight กลมๆ และช่องแสงสกายไลท์บนโถงบันได ที่ให้ทั้งความสว่างจากธรรมชาติและมิติของแสงเงาสวยๆ ในแต่ละช่วงของวัน

สำหรับการตกแต่งภายในบ้านยังคงใช้วัสดุไม้ธรรมชาติโทนสีน้ำตาล ที่ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่นและความเป็นธรรมชาติ และยังนำเสนอบรรยากาศแบบดั้งเดิมของท้องถิ่น แต่ออกแบบให้บางชิ้นดูเรียบง่ายทันสมัย

ทุกจุดหลัก ๆ ในบ้านถูกออกแบบให้สามารถโฟกัสสายตาไปที่หน้าบ้านได้จริงๆ แม้กระทั่งจากห้องนอนก็สามารถมองผ่านหน้าต่างทะลุออกไปที่ประตู Arch โค้งสูงสองชั้นที่จัดตำแหน่งให้มีมมุมองรับกันทั้งหมด จึงสังเกตเคาน์เตอร์ร้านกาแฟได้อีกทาง