
บ้านคอนกรีต ปิดด้านนอก เปิดด้านใน
โจทย์การสร้างบ้านของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะรสนิยม ความต้องการ ความชอบ ไปจนถึงข้อจำกัดต่าง ๆ บางคนที่บริเวณรอบ ๆ มีความเป็นส่วนตัวรั้วรอบขอบชิดอยู่แล้วก็อาจจะอยากเปิดบ้านให้ดูโปร่งสบาย แต่สำหรับบ้านที่อยู่ติดริมถนนที่มีทั้งรถและผู้คนสัญจรผ่านไปมาทั้งวัน การเปิดบ้านให้สามารถมองทะลุปรุโปร่งเห็นความเคลื่อนไหวของคนในบ้านย่อมไม่ปลอดภัย จึงต้องสร้างปราการปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเลือกที่จะปิดหมดก็ดูเหมือนจะอึดอัดและถูกตัดขาดจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง สถาปนิกหลาย ๆ ท่านจึงแก้ไขปัญหานี้ด้วยการปิดภายนอกแต่เปิดภายใน เหมือนเช่นบ้านที่เราจะพาไปชมในเนื้อหานี้ครับ
ออกแบบ : Fengchuan Xiuya Architect
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านคอนกรีตโชว์ร่องรอยความดิบของวัสดุ
อาคารที่ดูเรียบเท่ด้วยสีเทาของปูนเปลือยและร่องรอยแม่แบบดิบ ๆ นี้สร้างอยู่ในนครเจียอี้ ประเทศไต้หวัน พื้นที่ใช้สอย 240 ปิง หรือประมาณ 793.38 ตารางเมตร มีทั้งหมด 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ เนื่องจากตัวบ้านติดกับถนนที่ผู้คนและรถราขวักไขว่ จึงใส่คอนเซ็ปในการออกแบบให้ “ปิดเป็นส่วนตัวด้านนอกและเปิดโล่งด้านใน” ทั้งนี้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวออกจากถนนชั้นล่างจึงใช้กำแพงสูงเป็นกรอบคอนกรีตใส่ประตูแผ่นเหล็กแนวตั้งสีเทาเข้มสูงถึง 4 เมตร และมีประตูทางเข้าเล็ก ๆ ด้านข้าง ส่วนภายในกลับใช้วัสดุที่สร้างความรู้สึกเปิดโปร่งเบาให้กับบ้าน ที่ดูต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง
จากด้านข้างอาคารจะเห็นว่าสถาปนิกไม่ได้ออกแบบให้ตัวอาคารปิดทั้งหมด แต่มีการตัดพื้นที่บางส่วนเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างกลางอาคารให้เป็นรูปตัว T เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปจะเห็นเป็นช่องว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้ดูมีชีวิตชีวาและลูกเล่นมากขึ้นเท่านั้น ยังช่วยให้เกิดการไหลเวียนของอากาศในบ้านที่ดีขึ้นอีกด้วย
จากประตูเล็กหน้าบ้านเปิดเข้ามา จะพบกับทางเดินปูแผ่นหินขนานไปกับสวนหิน ที่ตกแต่งด้วยอ่างน้ำเล็ก ๆ สไตล์ zen ต้อนรับกลับบ้านด้วยความสงบผ่อนคลาย ดานบนปกคลุมด้วยหลังคาโปร่งแสง จึงยังคงรู้สึกได้ถึงความเปิดและโปร่งแม้จะปิดอยู่ก็ตาม สวนนี้ยังเป็นกันชนเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวให้บ้านออกจากความวุ่นวายภายนอกได้อีก 1 ระดับ
ผนังกระจกโปร่ง ๆ เปิดรับแสง สวน และอากาศเข้าสู่ภายใน
ภาพภายนอกอากาศให้ความรู้สึกปิด ดิบเย็น และหนักแน่น เจ้าของบ้านจึงต้องการสร้างความสมดุลให้ตัวบ้านไม่ดูกระด้างเกินไป จึงปูพื้นชั้นล่างสุดด้วยไม้เพิ่มสัมผัสละมุนอ่อนโยน เติมแต่งเรื่องราวให้บ้านด้วยโซฟาโครงไม้บุผ้า เฟอร์นิเจอร์สไตล์นอร์ดิก ตู้เก่า เก้าอี้หนัง เครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเป็นของสะสมส่วนตัวที่ได้มาจากจีน ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ส่วนของผนังแทนที่จะใช้ผนังแบบก่อฉาบปิดก็เปลี่ยนมาเป็นกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานติดผ้าม่านกรองแสงสีเทา ช่วยลดความหนักของอาคารและเชื่อมต่อภายในภายนอกได้ดี
ผนังกระจกและบานประตูกระจก เป็นตัวกลางดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน สร้างบรรยากาศที่ว่างและสดชื่น มองทะลุออกไปซึมซับความเป็นธรรมชาติจากสวนและเห็นทิวทัศน์ด้านนอกที่ไกลออกไปได้ชัดเจน
ผสมความใหม่และของเก่าเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้การจัดพื้นที่ภายในบ้านต้องเปลี่ยนตาม จากเดิมที่เน้นแบ่งพื้นที่ด้วยผนังแยกเป็นห้องย่อย ๆ ก็กลายมาเป็นการเชื่อมพื้นที่ใช้งานหลาย ๆ ส่วนเข้าด้วยกันแบบไร้ผนังแบ่ง กลายเปนห้องโถงใหญ่ ๆ ที่ใส่มุมนั่งเล่นดูทีวี โต๊ะนั่งทานข้าว ครัว เข้ามาไว้ด้วยกัน ทำให้สมาชิกแต่ละคนสามารถทำกิจกรรรมที่หลากหลายได้พร้อม ๆ กัน เป็นการทลายทั้งกำแพงบ้านและกำแพงในใจให้คนหลากเจเนอเรชั่นมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
ในระหว่างความเรียบคมแบบโมเดิร์นของเฟอร์นิเจอร์ไม้สี่เหลี่ยม ผนังคอนกรีตโชว์แนวกริดไลน์และร่องรอยรูน็อตสลับกับผนังไม้ ถูกแทรกด้วยของสะสมอย่าง รูปปั้นจีนโบราณ ตู้ไม่แกะสลักฝีมือประณีตอ่อนช้อย โต๊ะกาแฟแบรนด์นอร์ดิก นาฬิกาตั้งพื้นแบบโบราณของเยอรมัน บ้านจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีตสไตล์เรโทรที่ซ่อนตัวอยู่ได้อย่างไม่ขัดตา
บ้านทุกหลังไม่ว่าจะเป็นบ้านเดียวหรืออาคารแนวตั้งต่างก็ต้องการเข้าถึงธรรมชาติที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับสถาปัตยกรรม นักออกแบบจึงวางแผนจัดสวนในพื้นที่ว่างเท่าที่จะอำนวย เช่น ในพื้นที่สาธารณะในชั้นหนึ่ง สวนติดห้องนั่งเล่น ห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง และห้องลูกชายคนโตบนชั้นสี่ สร้างบรรยากาศที่สดใสเพลิดเพลินต้นไม้ แสง และอากาศบริสุทธิ์ แม้ว่าจะอยู่บนอาคารสูง
แปลนบ้าน