บ้านโมเดิร์นของครอบครัวใหญ่
บ้านที่อยู่อาศัยและทำธุรกิจไปพร้อม ๆ กับเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่ว ๆ ไปในเมือง ซึ่งมักจะมีสมาชิกหลายเจเนอเรชัน เมื่อคนมากขึ้น พื้นที่ที่เคยใช้ได้พอสบายตัว ก็เริ่มคับแคบอึดอัดและอาจจะซ้อนทับกัน จนไม่เหลือความเป็นส่วนตัว บางครอบครัวจึงเลือกที่จะขยับขยายบ้านออกมาอยู่นอกเมือง คงเหลืออาคารแนวตั้งเอาไว้ทำธุรกิจอย่างเดียว เพื่อให้อยู่สบายขึ้น เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่ตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ที่ออกแบบพื้นที่ใช้สอยพร้อมฟังก์ชันให้ตอบสนองการใช้งานครบถ้วนสำหรับคน 7 คน เน้นการเปิดพื้นที่แบบ Open Space เพื่อให้บ้านได้มีที่ว่าง สามารถมองเห็นวิวและลมได้ทุกด้านผ่านประตูและหน้าต่างบานเลื่อนกระจกไม่ว่าจะอยู่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องครัว
ออกแบบ : Poetic Space Studio
ถ่ายภาพ : Songtam Srinakarin
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมขยายใหญ่
บ้านโมเดิร์นหลังคาหมาแหงนหันหน้าเข้าหากัน
บ้านใหม่แถวตลิ่งชันที่สร้างขึ้นเพื่อสมาชิก 7 คน ที่พักอาศัยเดิมของเจ้าของบ้านเป็นตึกแถวย่านสีลม ซึ่งเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน ทำให้การอาศัยในพื้นที่อาคารทรงกล่องเต็มไปด้วยความอึดอัด เพราะต้องแบ่งปันพื้นที่ใช้งานร่วมกัน และลดพื้นที่ส่วนตัวลงให้มากที่สุด เมื่อสัญญาเช่าตึกแถวหมดลง ทุกคนจึงตัดสินใจหาพื้นที่สร้างบ้านในพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของสมาชิกทั้งหมด สถาปนิกออกแบบบ้านในสไตล์โมเดิร์นหลังคาเพิงหมาแหงนสองด้านหันหน้าเข้าหากัน ข้อดีของการสร้างบ้านแบบนี้คือ ตัวบ้านที่หันเข้าหากันช่วยปิดบังแสงแดดให้ฝั่งตรงข้าม ในขณะที่สามารถมองเห็นกันและกันได้แบบไม่ขาดการติดต่อ
โจทย์หลักของบ้านหลังนี้คือ ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเป็นห้องนอนพร้อมห้องนํ้า 6 ห้อง และพื้นที่ส่วนกลาง ( living area) ใช้งานร่วมกันโดยทั่วไป ซึ่งจุดนี้สถาปนิกต้องทำงานค่อนข้างหนัก เนื่องจากสมาชิกทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว ดังนั้นจึงต้องจัดการเชื่อมพื้นที่ให้ยังเข้าถึงกันได้ไม่ถูฏตัดขาดจากกัน เพื่อยังคงความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านให้เกิดความสมดุล ของการใช้พื้นที่ private และ public คำตอบของสร้างความสมดุลนั้นคือ การแบ่งอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง ใช้ Courtyard หรือลานโล่ง ๆ เป็น GAP หลาย ๆ จุดที่ทำหน้าที่ทั้งเป็นที่ว่างเพื่อแบ่งแยกสัดส่วนบ้านออกจากกัน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่จะดึงสมาชิกในบ้านออกมาใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว
foyer ที่เป็นส่วนต้อนรับออกแบบให้เป็นลักษณะคล้ายห้องโถงโล่ง ๆ แบบ semi outdoor ให้นั่งเล่นได้สบาย ๆ ตรงมุมปลูกต้นไม้เอาไว้ 1 ต้น รอวันเติบโตสร้างร่มเงาและช่วยเพิ่มความสดชื่นในโซนหน้าบ้าน บริเวณทางเดินก่อนเข้าสู่ตัวบ้านบิวท์ม้านั่งยาวที่ต่อเชื่อมกับห้องนั่งเล่น
ชั้นล่างระหว่างอาคารทั้ง 2 จะมีห้องนั่งเล่นผนังกระจกเป็นหนึ่งจุดที่เชื่อมอยู่ตรงกลางติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งทุกคนสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ จากจุดนี้จะผ่านเข้าสู่ห้องส่วนตัวในแต่ละโซน หรือเดินออกไปนั่งเล่นหน้าบ้าน จะเดินไปว่ายน้ำเล่น หรือเข้าไปทานอาหารในห้องทานข้าวต่อเนื่องไปห้องครัวก็ทำได้ง่าย ๆ และยังมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในบ้านแต่ละจุดได้ผ่านผนัง ประตู หน้าต่าง ที่เป็นกระจก
ผนัง 2 ชั้น Double skin
การออกแบบภายในบ้านจะมีหลาย ๆ จุดที่ดีไซน์ผนังแบบ Double Skin คือ ใส่ผนัง 2 ชั้น เป็นฟาซาดไม้ระแนงหรือประตูบานกระจกชั้นนอก (ขึ้นอยู่กับความต้องการปิดเป็นส่วนตัวมากหรือน้อย) และผนังห้องชั้นในอีก 1 ชั้น ระหว่างผนังทั้ง 2 ชั้นจะมีช่องว่างเป็นทางเดินในบ้าน ซึ่งจะทำให้บ้านมีตัวช่วยปิดกั้นกรองแสง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในจุดที่บ้านต้องการ
สุขใจไปกับการใช้ชีวิตที่ชื่มชมธรรมชาติได้แม้กระทั่งอยู่ในครัว ครัวโมเดิร์นที่สร้างอย่างเรียบง่ายด้วยฟังก์ชันและหน้าตาที่เปลี่ยนแนวคิดไปจากครัวเดิม ๆ ซึ่งเคยซ่อนตัวอยู่ชั้นใดชั้นหนึ่งในตึกแถว มาเป็นห้องโล่ง ๆ ที่เปิดผนังได้ทั้งสองด้าน มองเห็นสวนเขียว ๆ ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งติดกับสระว่ายน้ำ ในช่วงที่แดดแรงก็สามารถเลื่อนฟาซาดไม้ระแนง ซึ่งทำเป็นฉากบานเลื่อนมาปิดได้ในจุดที่ต้องการ เป็นประสบการณ์การใช้ชีวิตใหม่ ๆ ที่เรียบง่ายและสะดวกสบายมากกว่าเดิมหลายเท่า
คอร์ทยาร์ด 3 จุดในบ้าน
ในบ้านหลังนี้มีประกอบด้วยที่ว่างที่จัดเป็น courtyard อยู่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ คอร์ทกลางบ้านซึ่งกินพื้นที่มากที่สุด เป็นสระว่ายนํ้าและปลูกต้นไม้ และอีก 2 คอร์ทเล็กๆ อยู่คั่นกลางระหว่างกลุ่มห้องนอนสองฝั่งทางทิศเหนือและทิศใต้ ที่เปิดหน้าต่างขนาดใหญ่เข้าหากัน จึงได้รับความสดชื่นจากธรรมชาติเท่า ๆ กันทั้ง 2 ฝั่ง ลานและสวนนี้นอกจากจะเติมความมีชีวิตชีวาให้บ้าน ยังช่วยแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งสองฝั่งของตัวบ้านออกจากกันได้ โดยที่ยังมีความต่อเนื่องของพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางการทำกิจกรรมร่วมกันได้แบบอเนกประสงค์
คอร์ทเล็ก ๆ ที่อยู่คั่นระหว่างห้องนอน เมื่อเปิดหน่าต่างออกมาก็จะได้รับวิวและความสดชื่นของต้นไม้เท่า ๆ กัน
ห้องนอนสไตล์มินิมอลไม่มีเฟอร์นิเจอร์เกินความจำเป็น ใช้โทนสีกลาง ๆ ของไม้สีอ่อน ชุดเครื่องนอนสีเทา ขาว ทำให้ห้องนอนดูโปล่งโปร่ง แม้บางห้องจะมีพื้นที่เล็ก ๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสบาย
บริเวณพื้นที่ว่างที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สาธารณะ อย่างเช่น Foyer, ม้านั่งหน้าบ้าน, ที่นั่งข้างสระว่ายนํ้า, court กลางบ้าน, terrace ด้านหลังบ้านติดกับครัวที่มีม้านั่งยาว ทั้งหมดล้วนเป็นความตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อพฤติกรรมภายนอกและภายในบ้านให้มีความลื่นไหลต่อเนื่อง ทำให้สมาชิกในบ้านยังคงมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอบอุ่นเหมือนครั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านตึกในแบบที่เป็นอิสระมากกว่าเดิม
แปลนบ้าน
