บ้านเวียดนามโปร่งสบาย

ในบ้านหนึ่งหลังของผู้อ่านมีสมาชิกในบ้านกี่รุ่นกันบ้างครับ สำหรับบ้านเดี่ยวครอบครัวตั้งต้นใหม่เล็ก ๆ อาจจะมีแค่ 2 คน หรือมีลูกเพิ่มขึ้นมา แต่บางหลังก็ยังคงเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีคุณพ่อคุณแม่และผุ้สูงวัยรวมอยู่ด้วย การจะสร้างบ้านจึงควรคำนึงถึงคนในทุกวัย เพราะบ้านเป็นของทุกคนไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งจึงไม่ควรมีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การออกแบบบ้าน Quang เป็นการแสดงออกถึงแนวคิดของบ้านสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเวียดนาม ที่เจ้าของบ้านร่วมมือกับสถาปนิกสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่แปลกใหม่แต่ยังคงกลิ่นอายคุ้นเคย เป็นการแสดงความเคารพตัวตนของคนทุกรุ่นเอาไว้อย่างน่าสนใจครับ

ออกแบบ : Chử Ngọc Anh, Nguyễn Huy Cường
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านใหม่หัวใจเก่า ให้เราทุกคนอยู่ด้วยกัน

Quang House เป็นวิลลาดูเพล็กซ์ทั่วไปที่เห็นได้ในเขตเมือง Gamuda Gardens ฮานอย ประเทศเวียดนาม บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว 3 เจเนอเรชั่น (สมาชิก 5 คน) ภาพรวมของครอบครัวดั้งเดิมยังมีความเป็นเวียดนามส่วนใหญ่ แต่ผู้อยู่อาศัยมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักธรรมชาติและรักการอ่านหนังสืออยู่ด้วย ข้อกำหนดในการออกแบบปรับปรุงบ้านใหม่ คือ บ้านสไตล์โมเดิร์นเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ แต่มีบุคลิกและวัฒนธรรมที่เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยรวมจึงแทบไม่ต้องวุ่นวายกับโครงสร้างเดิมเพียงแต่ปรับรื้อบางส่วน

ภาพบ้านก่อนปรับปรุง เหมือนอาคารหลายชั้นสมัยก่อนที่มักจะทำบันไดทึบ ๆ ผนังบ้านช่องแสงค่อนข้างน้อยและไม่ต่อเนื่องกับส่วนใช้งานกลางแจ้ง

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ขจัดความทึบเปิดพื้นที่โล่งโปร่ง

แผนการออกแบบปรับปรุงบ้านหลัก ๆ คือ การใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวของหญ้ารอบ ๆ บ้าน เพื่อขยายมุมมองหลักจากภายในบ้าน พร้อมกับเพิ่มพื้นที่ของแสงเปิดรับธรรมชาติและลมที่ดีให้กับตัวบ้าน เดิมในชั้นล่างมีพื้นที่จำกัดและถูกวิสัยทัศน์จากผนังที่ก่อทึบ ในขณะที่ความต้องการฟังก์ชั่นมีค่อนข้างมาก สถาปนิกจึงคิดวิธีการเพิ่มความลึกของบ้านโดยการรื้อห้องเดิมออกขยายบ้านในแนวนอน แล้วเพิ่ม sunroom หรือห้องกระจกออกไป 2 ด้าน ภายในจัดบ้านแบบ open plan ทำให้ครัว ห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่นในบ้านต่อเชื่อมกันหมด

ครัวสีขาวสไตล์โมเดิร์นแบบน้อยแต่มากตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ มีฮู้ดดูดควันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเหนือไอส์แลนด์ เมื่อรวมกับผนังกละหลังคากระจกโปร่ง ๆ ทำให้ลุคของบ้านดูทันสมัยขึ้นทันที

ห้องกระจกที่เติมเพิ่มมาจุดหนึ่งอยู่ตรงที่ส่วนท้ายของบ้าน ต่อเนื่องจากครัวตรงกลางบ้านเป็นครัวเปิดทำให้บ้านสามารถรับแสงธรรมชาติ และวิวที่จัดสวย ๆ รอบบ้านได้ชัดเจนขึ้น สามารถเชื่อมต่อภายนอกภายในได้ใกล้ชิดกว่าที่เคย และยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยออกไปตามโจทย์ที่ต้องการ รวมพื้นที่ใช้สอยชั้นแรกหลังปรับปรุงบ้านประมาณ 60 ตร.ม.

มุมโปรดที่มองเห็นสวน

ห้องพักผ่อนเป็นสถานที่อ่านหนังสือที่เจ้าของชื่นชอบ สิ่งที่พิเศษคือเป็นเรือนกระจก 3 ด้าน ระบบประตูสองด้านถูกจัดวางให้เปิดและพับเก็บได้ เพื่อลบขอบเขตภายในและภายนอกบ้าน พร้อมทั้งดูดซับลมตะวันออกเฉียงใต้ได้เต็มที่ ห้องกระจกทั้งสองห้องจะวางแนวตามทิศทางแสงและลมที่ดี หลีกเลี่ยงทิศตะวันตกที่ร้อน ถ้ามุมไหนเริ่มรับแสงมากขึ้นก็สามารถเปลี่ยนมุมชื่นชมบรรยากาศสวนได้ รอบ ๆ พื้นที่นี้ยังมีร่มเงาของต้นไม้ช่วยลดทอนความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ เป็นทางออกที่จะทำให้บ้านเย็นลงอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อน

แม้จะมีฟังก์ชันและการใช้วัสดุที่ดูทันสมัยขึ้น แต่บ้านนี้ก็ไม่ลืมที่จะหยิบจับวัสดุแฮนด์เมดแบบดั้งเดิมมาตกแต่ง เช่น อิฐเซรามิก กระเบื้องผนังลายเกล็ดปลา กระเบื้องปูพื้นลายโบราณ โคมไฟเซรามิก โคมไฟหวาย ผนังทาสีซีเมนต์ พื้นคอนกรีตขัดมัน เฟอร์นิเจอร์หวาย พรมผักตบชวาสาน ภาพของซุ้มประตูหน้าต่างโค้งและประตูไม้โค้งๆ ถูกนำเข้ามาในพื้นที่สถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างลงตัว สร้างความประทับใจแปลกใหม่ แต่ยังคงความคุ้นเคยในแบบที่คิดถึง

เชื่อมสิ่งใหม่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย

ความคิดของบ้านสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเวียดนามถูกส่งโดยสถาปนิก ผ่านส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้านนี้ เป็นความสำเร็จที่นำคุณค่าทางอารมณ์มาสู่ผู้ใช้อย่างมาก อย่างชั้นสองนี้เป็นห้องนอนผู้สูงวัย ก็ถูกห่อหุ้มด้วยผนังไม้ระแนงที่เลื่อนเปิดปิดได้ บางส่วนของด้านหลังระแนงเป็นวัสดุโปร่งใสอย่างแผ่นโพลีคาร์บอเนตง ซึ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวแต่ยังคงให้แสงสว่างได้ดี ดูปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่าย แม้จะเป็นสิ่งใหม่สไตล์เอเชียโมเดิร์น แต่วัสดุที่่ใช้ทำให้คุณตาคุณยายไม่รู้สึกแปลกแยก

การใช้ผนังไม้แบบเปิดและปิดเก็บเข้าด้านข้างได้ ช่วยเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่นพร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงห้องนอนลับที่มีผนังปิดอีกต่อไป เมื่อปิดระบบผนังไม้จะสร้างห้องนอน 2 ห้องแยกกัน แต่เมื่อเปิดออกจะกลายเป็นเป็นห้องส่วนกลางที่กว้างขวางสำหรับให้เด็ก ๆ เล่นกับปู่ย่าตายายของพวกเขาได้อย่างใกล้ชิด ความโค้งมนอ่อน ๆ ของผนังไม้ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งที่น่าดึงดูด ซึ่งเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาด