บ้านไอเดียแฟมิลี่
เชื่อหรือไม่ว่าบ้านลุคโมเดิร์นร่วมสมัยโปร่งสบายหลังนี้ เคยมืดทึมทึบจนใครที่เคยเห็นภาพก่อนปรับปรุงต่างก็บอกบ้านดูหลอน ๆ เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในซอยนันทาราม ต.ช้างคลาน จ.เชียงใหม่ เจ้าของบ้านคือ คุณธีรัฐและคุณทักษวรรณ โรจนสกุลพิสุทธิ์ หรือพี่กร พี่หน่อย เจ้าของบ้านที่อัธยาศัยน่ารัก ก่อนจะได้มาเยี่ยมเยือน ผู้เขียนผ่านไปผ่านมาแถวนี้บ่อย แต่ทำไมถึงไม่เคยเห็นบ้านหลังนี้เลย เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านสักพักจึงได้ทราบว่าบ้านเพิ่งปรับปรุงเสร็จเมื่อ 2 เดือนกว่านี้เอง หลังจากที่เข้ามาในบ้านไม่ถึง 10 นาที พอรู้ตัวอีกทีก็มีข้าวเหนียวสังขยามารออยู่ตรงหน้า พร้อมกาแฟดริปที่เจ้าของบ้านบรรจงทำเอง ใส่แก้วกาแฟลวดลายวิจิตรมาให้พร้อม และเรื่องราวความเป็นมาของบ้านหลังนี้ก็เริ่มถูกถ่ายทอด
เจ้าของบ้าน : คุณธีรัฐ | คุณทักษวรรณ โรจนสกุลพิสุทธิ์
งบประมาณ : ประมาณ 8 แสนบาท
ภาพ | เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
ก่อนจะเข้าชมบ้าน ย้อนกลับไปก่อนหน้า ก่อนที่ทำงานบ้านไอเดียจะรู้จักบ้านหลังนี้ คุณนัท สมาชิกกลุ่มบ้านไอเดีย ได้ลงผลงานการรีโนเวทได้ชมกันในกลุ่ม ภายในเวลาไม่กี่นาที สมาชิกในกลุ่มต่างสนใจ และต้องการที่จะชมรีวิวทั้งหลังแบบจัดเต็ม ด้วยคุณนัทเองเป็นเพื่อนใน facebook ของทีมงานอยู่แล้ว บ้านไอเดียจึงติดต่อประสานงานโดยทันที จึงทราบว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่ชายคุณนัท และตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไม่ห่างจากออฟฟิศบ้านไอเดียนัก จึงทำการนัดหมายเจ้าของบ้านเพื่อทำการรีวิวทันที
บ้านสองชั้นมีชั้นดาดฟ้ามองเห็นวิวยอดพระธาตุของวัดที่อยู่ใกล้เคียง และวิวดอยสุเทพที่เห็นอยู่ลิบ ๆ สร้างบนที่ดินขนาด 30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 245 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ทีมงานได้เห็นภาพ Before แล้วบอกเจ้าของบ้านว่า บ้านปรับปรุงแล้วเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้เลย พี่กรยิ้มรับคำชมแล้วเล่าที่มาที่ไปให้เราฟังว่า
ภาพก่อนทำการปรับปรุง
“บ้านหลังนี้เดิมเป็นของคุณยายพี่หน่อย ส่วนบ้านพี่กรและพี่หน่อยอยู่อีกหลังติด ๆ กัน (ขวามือ) ต่อมาเมื่อคุณยายเสียชีวิตลงและไม่มีคนอยู่อาศัย คุณป้าของพี่หน่อยจึงขายต่อให้ในราคาพี่น้อง ตั้งใจว่าจะซื้อเก็บไว้ให้ลูก แต่รูปลักษณ์ของบ้านที่ดูทรุดโทรม ประกอบกับลูกสาวคนโตเรียนจบแล้วทำงานอยู่ต่างจังหวัด ส่วนลูกชายคือน้องภูพิงค์ ยังเรียนชั้นมัธยม จึงคิดว่าจะปรับปรุงบ้านให้ดูดี แต่จะทำบ้านทั้งทีก็อยากให้มีรายได้กลับคืนมาด้วย” จึงเป็นที่มาของการปรับปรุงบ้านใหม่ โดยเพิ่มห้องนอนเป็น 4 ห้องนอน สำหรับทำเป็นที่พักให้เช่า
ทุบผนังด้านหน้าออก เพิ่มความโปร่งให้กับบ้าน
ทุบผนัง รื้อกระเบื้อง ตกแต่งสวนหลังบ้าน
บ้านเดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น เมื่อ 28 ปีก่อน บ้านหลังนี้จัดได้ว่าเป็นบ้านที่โมเดิร์นที่สุด สวยที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ ด้านหน้ามีโรงรถ ติดกับโรงรถเป็นประตูเปิดเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งจะพบกับเป็นห้องรับแขกที่ปิดทึบ มุขปูนปั้นยื่นออกมาเล็กน้อย จึงทำให้ส่วนหน้าของบ้านค่อนข้างมืด จึงรื้อทุบออกให้กลายเป็นพื้นที่โล่ง ๆ จัดเป็นมุมนั่งเล่น ทานอาหารหน้าบ้านโปร่ง ๆ และปรับปรุงภายในบ้านทุกชั้น โดยเริ่มขั้นตอนรีโนเวทเดือนกันยายน 2561 แล้วเสร็จกลางเดือนกุมภา 2562 รวมทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 เดือน
หน้าบ้านในส่วนที่เป็นมุมทานข้าวนอกบ้านนี้หันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งทิศนี้ได้รับแสงแดดพาดผ่านบ้างในช่วงบ่าย แต่มีข้อดีคือรับลมได้ดี ติดกระจกสีสันต่าง ๆ ให้อารมณ์เหมือนบ้านยุคก่อน ทั้งยังช่วยบังแดดได้ด้วย ซึ่งในมุมนี้เจ้าของบ้านมีโครงการที่จะทำระแนงปลูกไม้เลื้อยในอนาคต เพื่อให้เป็นปราการช่วยกั้นกรองแสงและพรางตาเพิ่มความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ยังคงรับลมเย็นได้เช่นเดิม
ไม้เก่าจากวงกบ เป็นเก้าอี้และโต๊ะไม้
เก้าอี้โต๊ะทานข้าวชุดใหญ่ที่วางไว้เป็นมุมรับแขกหน้าบ้าน มีเรื่องราวความเป็นมาคือทำมาจากไม้วงกบประตูหน้าต่างเก่าที่่รื้อออกมา เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าไม้เนื้อแข็งสภาพยังดีและใช้งานได้ หากทิ้งให้เปล่าประโยชน์ก็เสียดาย จึงนำไม้ไปให้ญาติที่ทำงานช่างไม้ส่งขายที่บ้านถวายอยู่แล้ว ทำเป็นชุดโต๊ะอาหาร และเก้าอี้นั่งในบ้าน ในสนนราคาค่าแรงช่างประมาณ 4,000-5,000 บาทเท่านั้น
แต่งรั้วด้วยอิฐโบราณ
จากประตูรั้วเข้ามาด้านซ้ายมือจัดสวนมีอ่างน้ำเล็กๆ ปลูกต้นหนวดปลาดุกแคระ รั้วบ้านปลูกต้นคริสติน่า เมื่อโตเต็มที่จะสูงในระดับที่พอจะสร้างความเป็นส่วนตัว
ผนังด้านข้างใช้อิฐอิฐก้อนใหญ่แบบโบราณ ซึ่งพี่กรลงมือก่อเองแล้วทาเคลือบกันชื้นและฝุ่นด้วยน้ำยา A100
คอนเซ็ปต์ในการตกแต่งบ้านคือ “ตามใจเจ้าของบ้าน” คิดจะปรับปรุงส่วนไหนของบ้านก็นำไปปรึกษากับคุณนัท (น้องชาย) เพื่อให้ทำออกมาถูกใจที่สุด โดยไม่ได้มีแบบภาพ 3D เป็น reference งานตกแต่งจึงมาจากภาพที่อยู่ในหัวเกือบทั้งหมด ซึ่งพี่กรเป็นคนลงมือเดินเลือกซื้อของแต่งบ้านและวัสดุเองตั้งแต่ อิฐ กระถางต้นไม้ กระเบื้องปูพื้นบ้าน กระเบื้องครัว ผ้าม่าน โคมไฟ ด้วยตัวเอง
“กล้าที่จะเล่น และไม่ถือ” เป็นคำอธิบายที่พี่กรบอก เมื่อเราถามถึงคอนเซ็ปต์ในการเลือกโทนสีบ้านหลังนี้ เพราะนอกจากจะเห็นสีขาว เทา น้ำตาลแล้ว ยังมีบางจุดที่ใช้สีดำและสีขาว ซึ่งค่านิยมของคนรุ่นเก่าในบ้านเรามักจะยึดถือว่าเป็นสีที่ไม่เหมาะจะให้แต่งบ้าน แต่พี่กรกล้านำมาใช้ตกแต่งในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน เช่น มุมครัว ที่เต็มไปด้วยกระเบื้องสีดำสลับขาว
กระเบื้องในห้องน้ำที่พี่กรใช้เวลาเดินเลือกดูโทนสีที่ชอบด้วยตัวเองถึง 3 วัน กว่าจะลงตัวออกมาเป็นแบบที่เห็น
งานตกแต่งภายในแม้จะมีความทันสมัยแต่ก็มีกลิ่นอายความเป็นล้านนาอยู่ในทุกแห่ง “ความตั้งใจแรก ตั้งใจจะตกแต่งในสไตล์ Modern loft แต่ก็รู้สึกว่าบ้านคงจะดิบและดูแข็งกระด้าง ประกอบกับความชอบในศิลปะวัฒนธรรมล้านนาอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้อยากจะสอดแทรกสิ่งที่รักเข้าไปในตัวบ้านด้วย จึงออกมาเป็นสไตล์ร่วมสมัย เน้นโทนสี ขาว เทา ดำ แซมน้ำตาลเล็กน้อย ทำให้บ้านยังอยู่ในธีมเดียวกันทั้งหลัง ไม่กระโดดไปมา แต่ก็ยังมีรายละเอียดความเป็นลอฟท์ในบางจุด เช่น ผนังโชว์แนวเรียงอิฐในห้องน้ำ ผนังฉาบปูนขัดมัน งานโชว์ท่อ ชั้นวางเหล็ก ” เป็นความเรียบง่ายของการตกแต่งที่พี่กรถ่ายทอดออกมาได้พอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป
หาคู่ให้ม้านั่ง
ที่ว่างหลังบ้านประมาณ 3 เมตร ก่อนปรับปรุงเป็นลานดินที่เต็มไปด้วยหญ้ารก จึงปรับภูมิทัศน์ใหม่ด้วยการจัดสวนริมผนัง ก่อแปลงสำหรับปลูกผักสวนครัวเล็ก ๆ พื้นปูด้วยอิฐแดงก้อนใหญ่เดินเท้าเปล่าได้สบายไม่ร้อน วางโต๊ะทานอาหารตัวยาวเป็นพิเศษเอาไว้ 1 ชุด ซึ่งชุดโต๊ะนี้มีที่มาจากที่เดิมมีเก้าอี้ยาว 3 เมตรอยู่ก่อนแล้ว จึงทำโต๊ะท็อปกระจกขึ้นมาใหม่เพื่อให้เป็นชุดที่เข้าคู่กันได้อย่างพอดี
หลังจากชมสวนเก็บบรรยากาศแสนรื่นรมย์เรียบร้อย ก็กลับเข้ามาในบ้านเตรียมขึ้นไปทัวร์บนชั้นสองกันต่อ จะสังเกตเห็นที่ว่างข้างบันได ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเล็ก ๆ ที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก ใช้กระเบื้องลายไม้มากรุฉากหลัง แล้ววางตู้โบราณ ข้าวของเครื่องใช้ของคุณยาย ถ้วยชาม กระโถนลายดอก มาตกแต่งทำให้ได้ระลึกถึงวันวานอีกครั้ง
เราเดินตามบันไดขึ้นมาจนถึงพื้นที่ชั้นสอง ซึ่งทำให้ทีมงานแปลกใจมาก เพราะไม่คิดว่าพื้นที่บ้านชั้นบนจะดูกว้างขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะผนังบางส่วนติดกระจกขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกเหมือนไร้ผนังในบางจุด ในส่วนพื้นบ้านพี่กรรื้อของเดิมที่เป็นกระเบื้องยางออกทีละแผ่นแล้วปูพื้นกระเบื้องใหม่ทั้งหมด เนื่องจากพื้นเดิมผุพังจนใช้งานไม่ได้ จัดสรรพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นที่นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสืออีกหนึ่งมุมของบ้าน และแบ่งซอยห้องนอนใหม่เป็น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่ละห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว ซึ่งบางชิ้นก็ได้จากไม้เก่าที่ทำการรื้อออก เปลี่ยนโฉมใหม่ให้ใช้งานได้ดี
ระเบียงหน้าบ้านต่อเติมด้วยโครงสร้างเหล็ก ลักษณะที่ยื่นออกไป ช่วยบังแดดกันฝนให้กับบริเวณหน้าบ้าน
มุมพักผ่อนในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายพื้นเมืองผสมผสานความโมเดิร์น ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นความคลาสสิกที่ลงตัว
ชั้นสองมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำรวม 1 ห้อง และห้องน้ำในห้องนอนอีก 1 ห้อง ทั้งสองห้องตกแต่งอย่างเรียบง่ายเข้ากับขนาดของพื้นที่อย่างลงตัว ติดตั้งผ้าม่านเพื่อแบ่งแยกโซนเปียกโซนแห้งอย่างง่าย ๆ แต่ใช้สอยได้จริงและประหยัดงบการตกแต่งได้ด้วย
บันไดทางขึ้นไปสู่ชั้นดาดฟ้า
โปรเจกต์ต่อไป นั่งเล่นบนดาดฟ้า
ดาดฟ้าผนังเดิมปิดทึบด้านหน้า ทำให้ไม่มีลมเข้า ทำให้อากาศบนดาดฟ้ายิ่งอบอวลด้วยความร้อน จึงออกแบบใหม่เจาะให้เป็นช่องแล้วใส่ระแนงเหล็กเพื่อให้ลมเข้าได้ดีขึ้น พื้นดาดฟ้ามีปัญหาความชื้น เนื่องจากพื้นไม่ได้สโลป ทำให้สีลอกล่อนออกมาเป็นแผ่นและมีแนวโน้มที่จะรั่วซึมลงมาสู่ชั้นสองได้ จึงให้ช่างแก้ไขปรับสโลปและเจาะช่องระบายน้ำใหม่ ทากันกันซึมเพิ่ม ปิดช่องระบายน้ำเดิมที่ไม่ได้ใช้ ทำให้น้ำระบายได้ดีขึ้น พื้นแห้งเร็วไม่มีปัญหาน้ำขังชื้น
โปรเจกต์ต่อไปคือ การปรับปรุงดาดฟ้าให้มีหลังคาเป็นห้องออกกำลังกายเล็ก ๆ ที่มองเห็นวิวชุมชน ภูเขา และทำพื้นที่นั่งเล่นชิล ๆ ชมบรรยากาศธรรมชาติ และตั้งใจจะติดหลังคาโซล่าเซลล์ เพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด เหมาะกับตัวบ้านที่หันไปในทิศทางที่รับแสงได้มาก
จักรยานโบราณสีแดงสุดคลาสสิกที่จอดอยู่หน้าบ้าน
สมาชิกครอบครัวพี่กร พี่หน่อย น้องภูพิงค์ ในพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้าน
หลังจากที่ทีมงานเดินชมบ้าน ถ่ายรูป เก็บรายละเอียด feeling ของบ้านเรียบร้อยทุกจุด พี่กรและพี่หน่อยเจ้าของบ้านก็เลี้ยงอาหารเหนือแสนอร่อยอย่าง ข้าวกั้นจิ๋น ขนมจีนน้ำเงี้ยว พร้อมเต้าฮวยนมสดจนอิ่มแปล้แทบไม่มีแรงเดินกลับบ้านเพราะหนักพุง และยังได้ฟังเกล็ดความรู้ดี ๆ เรื่องราวของล้านนา บริเวณกำแพงโบราณฝั่งตรงข้ามคลองลำน้ำไหว ไปจนถึงเรื่องราวตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่อพยพมาจากสิบสองปันนายุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บผ้าใส่เมือง การมาเยี่ยมบ้านในวันนี้จึงจบทริปแบบอิ่มทั้งเรื่องราวของบ้าน เรื่องราวของเมือง ไปพร้อม ๆ กับอิ่มท้อง สำหรับโปรเจ็คหน้าเราจะพาไปชมบ้านหลังไหน อย่าลืมติดตามดูตอนต่อไปกันนะครับ ^_^
