Eco–Houses
“ประหยัดเวลา เคลื่อนย้ายได้ ใช้งบประมาณไม่เยอะ” นับเป็นจุดเด่นของบ้านน็อคดาวน์หรือบ้านสำเร็จรูปเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งไม่ได้เป็นที่นิยมกันแค่รีสอร์ท ที่พัก สำนักงานหรือคาเฟ่เท่านั้น เจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้บ้านสำเร็จรูปเป็นทั้งที่อยู่อาศัยหลักและบ้านพักตากอากาศหลังที่สองอีกด้วย อาจเนื่องด้วยในปัจจุบันบ้านสำเร็จรูปได้ทำการออกแบบให้มีดีไซน์สวยงาม รองรับการอยู่อาศัยจริงได้มากขึ้นและมีวัสดุที่ได้มาตรฐานแข็งแรงมากกว่าเดิม
อย่างบ้านสำเร็จรูปจากแบรนด์ Eco-Houses ที่จัดแสดงภายในงานบ้านและสวนแฟร์ 2020 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกบูธที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม ด้วยดีไซน์บ้านที่โดดเด่น ทันสมัย สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยก็ได้หรือจะประยุกต์ใช้งานด้านพาณิชย์ก็เหมาะเช่นกัน จึงทำให้บ้าน Eco-Houses ถูกจองภายในงานมากกว่า 50 หลัง บ้านไอเดียจึงอาสาพาไปสำรวจให้ผู้อ่านที่ไม่มีโอกาสมางานบ้านและสวนแฟร์ ได้ชมย้อนหลังกันครับ
ภาพ | รีวิว : บ้านไอเดีย
สถานที่ : งานบ้านและสวนแฟร์ 2020
ข้อมูลเพิ่มเติม : Eco-Houses
“ก่อนหน้าที่จะถ่ายทำบ้านหลังนี้ ทีมงานได้เดินสำรวจมาก่อนหน้าแล้วหนึ่งวัน สิ่งที่เห็นภายในงานคือผู้เข้าชมที่ล้นหลาม ยากที่จะถ่ายเฉพาะตัวบ้านให้ชมกันได้ จึงต้องนัดหมายทาง Eco-Houses เพื่อขอถ่ายทำช่วงเช้าก่อนเปิดงานในวันถัดไป เพื่อให้ได้ภาพรายละเอียดเฉพาะตัวบ้านมาให้ผู้ชมได้เห็นกันชัด ๆ ครับ”
Eco-Houses บ้านสำเร็จรูปโครงสร้างเหล็กที่มีเสาและคาน
บ้านตัวอย่างของแบรนด์ Eco-Houses ภายในงาน ดีไซน์เป็นบ้านสองชั้นให้อารมณ์เสมือนบ้านตู้คอนเทนเนอร์ แต่จริง ๆ แล้วเป็นบ้านโครงสร้างเหล็กที่มีทั้งเสาและคานในการรองรับน้ำหนักและเสริมความแข็งแรง ใช้เหล็กหนา 2.5 มิลลิเมตรเป็นโครงสร้าง ช่วยป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดสนิม หลังคามุงด้วยแผ่นเมทัลชีท บุฉนวนกันความร้อนด้วยไฟเบอร์ใยแก้ว ช่วยลดความร้อนของแสงอาทิตย์ไม่ให้ลงสู่ภายในบ้านมากเกินไป
ดีไซน์โมเดิร์น ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย
แบบบ้านตัวอย่างที่นำมาให้ชมภายในงานมีชื่อว่า 3SW รูปทรงภายนอกเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม 3 กล่องมาวางเป็นผังแบบตัว U หน้ากว้าง 9×6 เมตร รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 82.2 ตารางเมตร ออกแบบเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ห้องรับประทานอาหารพร้อมครัวเบา ชั้นล่างแบ่งออกเป็นสองส่วน ปีกซ้ายคือห้องนอน มีห้องน้ำในตัว และปีกขวาคือ พื้นที่ส่วนรวม ห้องรับประทานอาหารพร้อมครัวเบา สามารถประยุกต์เป็นห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน ส่วนชั้นบนดีไซน์ไว้สำหรับเป็นห้องนอนที่มีระเบียงสามารถออกมานั่งชมวิวได้อย่างผ่อนคลาย
ตัวผนังบ้านคือเหล็กแผ่นเคลือบป้องกันสนิมพร้อมมีฉนวนในตัว ทำการกรุทับชั้นนอกด้วยผนังอลูมิเนียมสำเร็จรูป ที่มีลวดลายให้เลือกมากกว่า 10 แบบด้วยกัน ทำการติดตั้งแบบเรียบเนียนซ่อนหัวสกรู จึงช่วยป้องกันปัญหาน้ำไหลย้อนเข้าสู่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งยังกันความร้อนได้ด้วย เพราะมีฉนวน PU Foam หนา 16 มิลลิเมตร ติดแนบอยู่ภายใน น้ำหนักเบา ไม่กระทบกับโครงสร้าง ทั้งยังทนทานต่อการเกิดสนิม วางในได้ในทุกสภาพอากาศเมืองไทยเลยครับ
ห้องนอนชั้นล่าง รุ่น 1BG ราคา 254,000 บาท รวมเฟอร์นิเจอร์ (ยกเว้นเบาะที่นอน)
เข้าชมพื้นที่ภายในบ้านกันบ้าง เริ่มจากห้องนอนชั้นล่าง ขนาด 3×6 เมตร ประตูกระจกอลูมิเนียมอบสีดำ และคุมบรรยากาศภายในด้วยสีเข้ม ๆ ปูพื้นด้วย SPC Laminate ลายไม้ ซึ่งมีผิวสัมผัสคล้ายไม้จริง ทนน้ำ ทนความชื้น ไม่บวม ไม่โก่ง ปลวกไม่กิน ปิดผิวผนังด้วยไม้สังเคราห์ลายผ้าสีเทาและลายหินอ่อนสีขาวตรงผนังหัวเตียง
ออกแบบให้มีหน้าต่างกระจกสองด้าน เป็นช่องทางระบายอากาศ ลดความอบอ้าวภายในห้องได้เป็นอย่างดี ฝ้าสูงประมาณ 2.5 เมตร กรุด้วยแผ่นอลูมิเนียมสำเร็จรูปสีขาว เส้นที่ยาวและร่องที่ชัดเจน ทำให้บ้านแลดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น จัดวางเตียงนอนเหล็กสีดำไว้ใจกลางห้อง ผนังหัวเตียงมีทั้งไฟกล่องและไฟซ่อนให้แสงสว่างยามค่ำคืน ราคาที่แจ้งไว้รวมระบบไฟซ่อนแล้วด้วยครับ
มีตำแหน่งติดเครื่องปรับอากาศไว้ให้ โดยเจ้าของบ้านไม่ต้องทำการเจาะใหม่ในภายหลัง ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ต้น
ห้องน้ำขนาด 1.5 เมตร ประตูห้องน้ำ uPvc กันน้ำ กันปลวก 100% จัดโซนเปียก โซนแห้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยทำการตกแต่งด้วยเฉดสีขาว เพิ่มความสว่างและความรู้สึกกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาว ลวดลายสีดำข้าวหลามตัด วางเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มีลิ้นชักเก็บของ พร้อมติดกระจกเงาไว้ส่องหน้าส่องตา
จุดที่ทีมงานชอบมากที่สุดของบ้านหลังนี้ คือส่วนกลางบ้านที่ทำหน้าที่เสมือนใต้ถุนรับลม ช่วยให้ลมไหลผ่านได้อย่างสะดวกตลอดทั้งวัน ทำการตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยที่นั่งยกระดับพื้นขึ้นมา ปูด้วย WPC Decking เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ภายนอกบ้าน จึงสามารถใช้เป็นมุมรับแขกหรือมุมพักผ่อนชิล ๆ ได้เลย
ออกแบบบันไดบ้านแบบวน เพื่อประหยัดพื้นที่
Dining Room รุ่น 1DW ราคา 284,000 บาท รวมเฟอร์นิเจอร์
ห้องรับประทานอาหารพร้อมครัวเบากันก่อน ขนาดพื้นที่ 3×6 เมตร เท่ากับห้องนอนฝั่งตรงกันข้าม ตกแต่งด้วยสีสว่างเพื่อสร้างความแตกต่างกับห้อนอนที่ใช้โทนสีเข้ม ใช้ประตูกระจกบานเดี่ยวกรอบอลูมิเนียมอบสีขาว กระจกประตูรวมถึงหน้าต่างทุกบานของบ้าน เป็นกระจกเขียวตัดแสง หนา 6 มิลลิเมตร มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันรังสี UV และสะท้อนความร้อนที่ส่องมากระทบผิวกระจกได้สูงสุดถึงร้อยละ 50 ทั้งยังมีซีลยางที่ป้องกันน้ำรั่ว น้ำซึมได้ 100% โดยมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งรับลมทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
สร้างบรรยากาศให้มีความวินเทจเบา ๆ ด้วยสีสันของวัสดุตกแต่งผนังครึ่งล่างที่มีสีสันน่ารัก โดยใช้วัสดุไม้สังเคราะห์หุ้มฟิล์มพีวีซี สำหรับงานภายในโดยเฉพาะ ซึ่งมีหลายแบบหลายสไตล์ อาทิ ลวดลายผ้า, สีหินอ่อน, สีซีเมนต์, สีไม้โอ๊ค เป็นต้น มีคุณสมบัติทนชื้น ทนร้อน กันน้ำ กันปลวก รวมถึงช่วยในการป้องกันเสียงได้ด้วย ซึ่งได้นำไปใช้กับทุกห้องภายในบ้านตัวอย่างหลังนี้เลยครับ
มีชั้นวางของแบ่งแยกสัดส่วนของพื้นที่ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวบริเวณทานอาหารและบริเวณเคาน์เตอร์ครัวใช้กระเบื้องลวดลายสีขาวเทา เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด พร้อมจัดวางม้านั่งสีขาวรูปตัว L พร้อมโต๊ะกลางไว้สำหรับรับประทานอาหาร หรือใช้เป็นโต๊ะนั่งทำงานระหว่างวัน เคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ล้างจาน ติดตั้งเครื่องดูดควันเพิ่มสักหน่อย ก็สามารถทำอาหารได้เลย
มีห้องเก็บของหรือ Service Room ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวน โดยออกแบบให้ใช้ประตูทางเข้าจากนอกบ้าน
ห้องนอนชั้นสอง 1AW ราคา 299,000 บาท รวมเฟอร์นิเจอร์ยกเว้นเบาะที่นอน
ขนาด 3.4×6 เมตร ตกแต่งเป็นห้องนอนสองเตียงนอน ก่อนเข้าห้องนอนมีระเบียงปูสนามหญ้าเทียม พร้อมกับราวกันตกติดตั้งไว้อย่างเรียบร้อย สามารถใช้เป็นมุมปาร์ตี้ของครอบครัวได้เลย โดยรูปทรงภายนอกของห้องนอนชั้นบนจะแตกต่างจากชั้นล่าง เนื่องด้วยมีการออกแบบให้เป็นหลังคาทรงจั่วที่มีพื้นที่ใต้โถงหลังคามากกว่าทรงแบน ช่วยให้ห้องที่อยู่ชั้นบนดูโปร่งกว้างมากเป็นพิเศษ
คุมธีมสีภายนอกและภายในด้วยโทนสีขาว เพื่อให้ห้องดูปลอดโปร่งและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น วางเตียงคู่ขนาด 3.5 ฟุต เหล็กสีดำ โดดเด่นภายในห้องสีขาว มีชั้นแขวนเสื้อผ้าและชั้นวางของวางชิดติดผนังด้านใน
ออกแบบให้มีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกับห้องนอนชั้นล่าง จัดเรียงให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานจริง เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำ
มีระเบียงทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เหมาะกับการนำไปใช้เป็นที่พัก รีสอร์ทที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ
ในการตกแต่งภายในบ้าน Eco-Houses ได้มีบริการด้วยเช่นกัน เจ้าของบ้านสามารถเลือกตกแต่งในสไตล์ที่ชื่นชอบ เพื่อให้มีความสวยงาม ใช้งานได้สะดวกและอยู่ได้อย่างสบาย
ทำการเดินสายติดตั้งระบบไฟ ระบบน้ำไว้เรียบร้อย ติดกล่องไฟส่อง LED บนผนังภายนอกตามจุดต่าง ๆ นอกจากจะได้ความสว่างแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านอีกด้วย
จุดเด่นของบ้านสำเร็จรูป Eco-Houses
เรื่องระยะเวลาของการก่อสร้างนั้นเป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้ว ว่ามีความรวดเร็วกว่าบ้านก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ทำการผลิตมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงานหรืองบประมาณที่บานปลาย เพราะสามารถทราบราคาที่แน่ชัดได้ตั้งแต่เริ่มต้น เป็นบ้านที่มีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้าย โดย Eco-Houses มีทีมงานและอุปกรณ์ติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ทำให้บ้านไม่ได้รับความเสียหายในระหว่างดำเนินการติดตั้ง และหากอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องทำเลที่อาศัย ก็สามารถยกย้ายไปได้โดยง่ายเช่นกัน อีกทั้งยังมีรับประกันโครงสร้าง 5 ปี รับประกันการรั่วซึม 1 ปี มั่นใจได้ว่าหลังจากได้เข้าอยู่ไปแล้ว หากเกิดปัญหาตามมาจะได้รับการดูแลอย่างแน่นอน
เป็นเจ้าของบ้าน Eco-Houses ได้ในราคาเท่าไร
สำหรับราคาของบ้านตัวอย่างสองชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวม 82.2 ตารางเมตรหลังนี้ รวมตัวบ้าน, ตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ อยู่ที่ 1,299,000 บาท หรือหากต้องการซื้อแยกเป็นหลังเล็ก ๆ ใช้งบเริ่มต้นเพียงสองแสนกว่าบาท หรือใครที่อยากได้บ้านในรูปแบบอื่น ๆ สามารถเข้าไปปรึกษากับทางแบรนด์ได้เลยครับ มีทีมสถาปนิกคอยช่วยออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์กับเจ้าของโดยเฉพาะ และนอกเหนือจากบ้านสำเร็จรูปแล้ว Eco Houses ยังจัดจำหน่ายโดมเต้นท์ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในยุคสมัยนี้ด้วยครับ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจที่พักหรือรีสอร์ท โดยผู้อ่านที่สนใจอยากเข้าชมบ้านน็อคดาวน์หรือโดมเต้นท์ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่โชว์รูมของ Eco-Houses ตามพิกัดนี้ได้เลยครับ https://g.page/eco-houses-bangkok?share เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม
เว็บไซต์ : Eco-houses | แฟนเพจ : Eco-Houses | โทร : 061 773 0888 , 061 773 1888
