บ้านยั่งยืน จังหวะชีวิตที่ลงตัวกับธรรมชาติ
บ้านไม่ใช่สิ่งก่อสร้างที่อยู่กับเราเพียง 1-2 ปี แต่บ้านบางหลังอาจจะต้องอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิต ทำให้การวางแผนสร้างบ้านแต่ละครั้ง เจ้าของบ้านต้องมองหาสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับตัวเอง ทั้งในแง่ของดีไซน์ วัสดุ งบประมาณ และองค์ประกอบสำคัญที่ควรจะมีในงานบ้านใหม่คือ ความอยู่สบายอย่างยั่งยืน ประหยัดพลังงาน เพื่อให้บ้านพึ่งพาตนเองได้มากที่สุดและรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด
ออกแบบ : Archicentre
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้าน 2 ชั้น ต่อเติมบ้านแนวคิดยั่งยืน
บ้าน 2 ชั้นที่มีชื่อว่า S14 นี้เป็นโครงการต่อเติมจากอาคารเดิม ที่ตั้งอยู่ในเปตาลิงจายา รัฐเซอลาโงร์ ประเทศมาเลเซีย เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงมอบหมายให้สถาปนิกจาก Archicentre ต่อเติมโซนใหม่เพิ่มขึ้นให้แนบชิดไปกับของเดิม จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ การสร้างบ้านอย่างระมัดระวัง เพื่อคงสภาพแวดล้อมและต้นไม้เดิมโดยไม่ต้องตัดต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว รอบบ้านจัดภูมิทัศน์แวดล้อมด้วยสนามหญ้าเขียว ๆ และสร้างความเชื่อมต่อผ่านผนังและประตูกระจก ทำให้บ้านเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติอย่างที่ตั้งใจ
แนวคิดในการต่อเติมบ้านหลังนี้คือ การรับผิดชอบต่อธรรมชาติและโลก ดังนั้นนอกจากจะยึดแนวต้นไม้เดิมไว้เป็นหลักแล้ว เจ้าของบ้านและสถาปนิกยังให้ความสำคัญกับการก่อสร้างที่ต้องไม่มีเศษวัสดุเหลือทิ้ง ลดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนด้วยการหยิบวัสดุรีไซเคิลจากบ้านเก่ามาใช้ใหม่ เลือกวัสดุใหม่ ๆ ที่ไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการออกแบบหลังคาที่มีกังหันลม สามารถระบายความร้อนได้ตามธรรมชาติ ติดระแนงสำหรับบังแดดที่ชั้นบน และทำที่เก็บน้ำฝน ซึ่งทุก ๆ องค์ประกอบช่วยประหยัดพลังงานน้ำและพลังงานไฟฟ้าไปได้อย่างมาก
คลิกที่ภาพ เพื่อชมในขนาดขยายใหญ่
จากสนามหญ้าจะมีทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านเก่าเป็นเหมือนศาลามีหลังคาคลุม ดึงสายตาเป็นเป็นยาวนำเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งเป็นห้องโถงโล่ง ๆ ต้อนรับแสงสว่างด้วยประตูกระจกขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยวัสดุหลัก ๆ คือคอนกรีตและอิฐแดง ซึ่งเป็นวัสดุที่สถาปนิกหยิบจับไปใช้ในการตกแต่งพื้นที่ใหม่ เพื่อให้มีจุดร่วมทำให้บ้านหลังสองหลังมีความสอดคล้องแต่ต่อเนื่องกัน
ดีไซน์บ้าน รูปทรง และวัสดุสื่อสารตรงไปตรงมา
ด้านหลังของบ้านที่ติดอีกด้านหนึ่งของถนน จะเห็นเส้นสายเรขาคณิตที่เรียบง่ายอย่าง เส้นตรง แนวตั้ง ระนาบแนวนอน และวงกลมที่มาอยู่รวมกัน วัสดุหลักๆ ที่ใช้อย่างบล็อกช่องลม อิฐแดง ระแนงโลหะ คอนกรีต และกระจก แสดงเนื้อแท้ของตนเอง สื่อสารความรู้สึกและแสดงหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องต่อเติมแต่งแต้มสีสันใดๆ เป็นพิเศษ ใส่ความโมเดิร์นแฝงเข้าไปในวัสดุบ้าน ๆ จนกลายเป็นเสน่ห์น่ามอง
บล็อกช่องลม หาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก และก่อสร้างได้รวดเร็ว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นช่องว่างให้ลมไหลผ่านเข้าออกบ้าน เป็นช่องแสง หรือจะใช้งานเป็นปราการกั้นบ้านจากสายตาคนภายนอก เหมือนที่บ้านหลังนี้ทำก็ได้เช่นกัน
ใส่แพทเทิร์นในแนวอิฐ สร้างมิติที่แตกต่างให้ผนัง
อิฐแดง เป็นวัสดุที่มีทั้งความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถนำมาใช้ตกแต่งได้หลากหลายและอิสระ หากก่อวางแนวธรรมดาแบบที่เราคุ้นตาบ้านก็จะไม่มีจุดน่าสนใจ สถาปนิกจึงออกแบบแพทเทิร์นโปร่งสลับทึบ เพื่อให้เกิดช่องว่างให้แสงและลมเข้ามาภายในบ้านได้ แถมด้วยลูกเล่นที่วางอิฐยื่นออกมาจากผนัง ลวดลายไม่เรียบทําให้เกิดแสงเงาและ Texture ของผนังที่มีหลายมิติ ผนังด้านขวามือตัดความดิบปนอบอุ่นด้วยปูนเปลือย ติดไฟทรงกลมเหมือนพระจันทร์ช่วยขับเน้นความดิบ เท่ จากผนังอิฐก่อโชว์แนวและคอนกรีตที่ให้ความรู้สึกเรียบนิ่งได้เป็นอย่างดี
ห้องนั่งเล่นใหม่โปร่งสบายด้วยการใส่ผนังกระจก 2 ด้าน ให้ตัวห้องสามารถรับแสงธรรมชาติได้จาก 2 ทิศทาง ทำให้ห้องสว่างโดยแทบไม่ต้องพึ่งแสงไฟประดิษฐ์ในช่วงกลางวัน ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มาก ในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงก็มีผ้าม่านที่สัมผัสบางเบาเป็นตัวช่วยกรองความรุนแรงของแสง ประตูประจกที่เปิดได้กว้างยังช่วยให้บ้านรับอากาศใหม่จากภายนอกเข้าสู่ภายในได้สะดวก
ความน่าสนุกของการตกแต่งภายในอยู่ที่การใส่ความหลากหลายเข้าไปในบ้าน ทั้งวัสดุ สี และรูปทรง ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างคอนกรีตเรียบเท่ อิฐดิบ ๆ ดูอบอุ่น กระจกใสที่ทันสมัยเข้ากันได้กับพื้นแกรนิตโต้ให้อารมณ์หรูหรา โคมไฟรูปทรงสี่เหลี่ยม ที่ถูกลดทอนเส้นสายแข็งๆ ด้วยโคมไฟทรงโค้ง ใส่พรมหนังสัตว์ผืนใหญ่อารมณ์คันทรีเข้าไปเติมความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ทำให้ห้องนี้ดูเหมือนงานศิลปะชิ้นใหญ่
มุมมองภายในบ้านในส่วนที่ต่อเติมยามค่ำ เมื่อเปิดแสงไฟส่องสว่าง ยิ่งทำให้เห็นความสวยงามในมิติที่แตกต่างไปในภาพรวม ความใสของกระจกทำให้สมารถมองทะลุเข้าไปถึงพื้นที่ใช้ชีวิตภายใน ได้ซึมซับความสวยงามอย่างแตกต่างของแต่ละวัสดุที่สอดคล้องกันอย่างมีความหมาย
แปลนบ้าน
