สร้างบ้านแนวตั้งในพื้นที่เล็ก ๆ

จากนี้ไปเมืองใหญ่ในประเทศต่าง ๆ จะมีราคาที่ดินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ที่ดินถูกตัดแบ่งเป็นแปลงเล็ก ๆ หน้าแคบลึก และสร้างบ้านในแนวตั้งกันมากขึ้น Micro House หรือบ้านขนาดเล็กหลังนี้ก็เช่นกัน มีชื่อโครงการว่า Seroro หมายถึงแนวตั้ง ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซลที่ราคาที่ดินสูงมากจนแทบขาดใจ ชื่อบ้านได้มาจากรูปทรงของบ้านที่สร้างในแนวตั้ง เพราะพื้นที่มีน้อยไม่สามารถขยายออกด้านข้างได้ จึงต้องเพิ่มพึ้นที่ขึ้นด้านบนเป็นห้องเรียงซ้อนกันสูงขึ้นไป ซึ่งบ้านหลังนี้จะเป็นหนึ่งโปรเจ็คที่พิสูจน์ได้ว่าแม้พื้นที่จะมีน้อยก็ตอบโจทย์ชีวิตใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน

ออกแบบ : Smaller Architects
ภาพถ่าย : Byun Jongseok
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ที่ดินขนาดเล็กในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นของคู่รักหนุ่มสาว ภรรยาชื่ออายอง เป็นนักการศึกษาด้านไวน์ สามี Minwook Choi เป็นสถาปนิกจาก Smaller Architects ซึ่งตัดสินใจอย่างกล้าหาญ และท้าทายในการเลือกพื้นที่นี้สร้างบ้านหลังแรกของพวกเขา เพราะผู้คนทั่วไปคิดว่าที่ดินนี้ขนาดเล็กเกินไปที่จะก่อสร้างสิ่งใด แถมไซต์นี้ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน แต่พื้นที่นี้ก็มีข้อดีอยู่มากมาย เช่น ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะหลายสาย ใกล้กับสวนสาธารณะและยังหันหน้าเข้าหากำแพงป้อมปราการของเมืองเก่าโซล ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมตามประกาศของยูเนสโก จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหมือนกัน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านขนาดกะทัดรัดที่หุ้มด้วยสีขาวเปิดบ้านสู่เนินเขาเขียวชอุ่ม มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีฟังก์ชันต่างกันไป ตั้งแต่ ลานจอดรถชั้นล่าง, ห้องนั่งเล่นพร้อมห้องน้ำบนชั้น 1, ห้องครัวพร้อมพื้นที่รับประทานอาหารบนชั้น 2, ห้องนอนพร้อมห้องโถง ห้องน้ำห้องที่สองบนชั้น 3 และห้องแต่งตัวพร้อมอ่างอาบน้ำบนชั้น 4 อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมของบ้านนั้น มีผลอย่างมากต่อการออกแบบรูปทรงและช่องเปิดช่องแสง เช่น หน้าต่างส่วนใหญ่ของอาคารหันไปทางทิศใต้และทิศตะวันตก เพื่อรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสาธารณะตามลำดับ ในทางกลับกัน จำนวนหน้าต่างด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือจะลดลงเพื่อความเป็นส่วนตัว

โครงร่างโค้งด้านนอกของอาคารเป็นไปตามธรรมชาติของรูปทรงของที่ดิน ความโค้งมนดูเหมือนประภาคารที่มองเห็นได้จากระยะไกล จุดประกายความอยากรู้ให้กับผู้คนที่ผ่านไปมา

ขนาดของห้องแต่ละชั้นมีพื้นที่ 16 ตร.ม. แต่ละห้องถูกจัดวางโดยคำนึงถึง flow ในการใช้ชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ของคนทั้งคู่พวกเขา ว่าแต่ละวันชอบทำกิจกรรมอะไรอยู่จุดไหนจะสะดวกที่สุด เช่น ทั้งคู่จะจอดรถชั้นล่างแล้วขึ้นมาใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเล่นในตอนกลางวันบนชั้นหนึ่งและชั้นสอง ในขณะที่ตอนกลางคืนจะชอบเทควิวมุมสูง และชอบความเป็นส่วนตัวจากถนนจึงจัดห้องนอนอยู่บนชั้นสามและชั้นสี่

บันไดไม้โครงเหล็กทาสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกับการตกแต่งภายในที่เฉียบคม มีขนาดเล็กกว่าที่คุณคาดไว้ “เนื่องจากบ้านเป็นแนวตั้ง ฉันต้องการให้การเคลื่อนไหวระหว่างชั้นน้อยที่สุดเพื่อความสะดวก” มินวุกอธิบาย

แม้ว่าห้องจะมีขนาดเล็ก แต่กลับไม่รู้สึกว่าบ้านแคบ เพราะสถาปนิกใช้สีขาวเป็นสีหลัก เพื่อให้ช่วยสะท้อนแสงพรางตาว่าพื้นที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีประตูหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ช่วยเบลอขอบเขตระหว่างภายในกับภายนอก ลดความทึบให้ผนังบ้านเปิดมุมมองทางสายตาออกอย่างอิสระ ภายในยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เลือกเท่าที่จำเป็น จึงไม่ทำให้ห้องรกตา

ตำแหน่งช่องเปิดในชั้นต่าง ๆ ถูกกำหนดมาให้รับกับบริบทของเมืองเท่าที่จะเป็นไปได้แม้ในห้องนอนหรือห้องน้ำ “การมองออกไปในแต่ละชั้นแล้วเห็นเมือง ได้รับทิวทัศน์อันเขียวขจีของต้นไม้ในสวน ทำให้เรารู้สึกถึงฤดูกาลและเวลา” มินวุก กล่าว และด้วย COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนมีความจำเป็นต้องกักตัวอยู่ในบ้านหรือ work from home ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกขอบคุณบ้านที่มีมุมมองออกสู่ภายนอกได้ จึงอยู่บ้านได้นาน ๆ ไม่น่าเบื่อ

แม้ว่าบางคนอาจคิดว่าการใช้ชีวิตในแนวตั้งนั้นมีข้อจำกัด ดูแปลก ไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเข้ามาแล้ว Minwook ก็พบว่าที่นี่มีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ “มันทำให้เรามีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่มีเสียงรบกวนสมาธิกันระะหว่างชั้น แต่ละคนจึงสามารถเพลิดเพลินกับบ้านของเรา ที่จะมาใช้พื้นที่ด้วยกันหรือจะแยกอยู่คนเดียวก็ได้” ที่สำคัญคือ แมวสองตัวของพวกเขา คอนติและมาร์โกซ์ ก็ชอบเหมือนกัน อาจจะมากกว่าเจ้าของของมันด้วยซ้ำ “มันเหมือนสวนสนุกสำหรับพวกมัน เราว่ามันเป็นบ้านแมวที่ใหญ่ที่สุดในโลก” เจ้าของบ้านกล่าวทิ้งท้าย