ออฟฟิศสถาปนิกคอนกรีตเปลือย

บ้านเป็นสิ่งที่แสดงพื้นที่ชีวิต ความชอบส่วนตัว และยังเป็นศูนย์รวมสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงภาพรวมของบ้านก็จะมีความอบอุ่นและผ่อนคลาย ส่วนออฟฟิศหรือสำนักงานก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนจะมาพบปะ คุยงาน นั่งคิด ประชุม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีรูปแบบที่แบ่งสัดส่วนห้องทำงานชัดเจนดูเป็นงานเป็นการ บ้านจึงแยกกับงานอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบันเราพบว่าการสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้สามารถมองเห็นธรรมชาติได้ มีฟังก์ชันรองรับบรรยากาศเหมือนบ้านจะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น อาคารหลังนี้เป็นหนึ่งข้อพิสูจน์ว่านักออกแบบสามารถใช้ความเชี่ยวชาญของเขา สร้างแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความคิด การเรียนรู้ การรวมตัว การพักผ่อน การทำงาน และการใช้ชีวิตให้ออกมาลงตัวได้ โดยไม่ต้องใช้วัสดุที่หรูหรา ดูธรรมดาแต่ก็ตอบได้ทุกโจทย์การทำงานที่ได้ผ่อนคลายบ้างอย่างที่ต้องการ

ออกแบบ : Nestcraft Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

อาคารสองชั้นในอินเดียหลังนี้มีพื้นที่ 114.4 ตารางเมตร แนวคิดและบริบทการออกแบบคือ Man Cave หรือ ‘ถ้ำลับ’ เป็น Office สถาปนิกที่ตั้งใจให้ดูเป็นกันเอง เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย พื้นที่อบอุ่นแต่มีสมาธิ ในขณะที่รักษาอารมณ์ความสร้างสรรค์ในการทำงาน แต่ก็สามารถเดินไปมาใช้งานได้สบายใจเหมือนเป็นบ้านอีกหลังสำหรับทีมงานด้วย หลังจากค้นหาองค์ประกอบ อุดมการณ์ และปรัชญาในการออกแบบ จึงออกมาในรูปคอนกรีตเปลือยดิบ ๆ สองชั้น มีพื้นที่ทำงาน ชั้นลอย และครัว ในชื่อโปรเจ็คว่า ‘VIOLET’

วัสดุหลักเป็นคอนกรีตดิบ ๆ โชว์ร่องรอยของแม่แบบ ให้เห็นเสน่ห์ของเนื้อแท้โดยไม่ต้องฉาบเรียบ ดีไซน์เส้นสายทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ก็เลือกปูพื้นที่รอบๆ ด้วยกรวด ปลูกต้นไม้สีเขียวบริเวณกรอบของอาคาร เพื่อให้ธรรมชาติช่วยลดทอนความแข็งกระด้างลง ด้านล่างเปิดโล่งค่อนข้างมากเพื่อรับแสงและเพิ่มความโปร่ง แต่ชั้นสองออกแบบไม่เหมือนบ้านอื่น ๆ คือ เลือกปิดผนังด้านนี้ทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัวและเลือกเปิดด้านแทน

จากประตูหน้าทางเข้าด้านทิศใต้เปิดเข้ามาจะเป็นห้องโถง ติดกับประตูหลักมีห้องนั่งเล่นรอพบปะและโต๊ะผู้ดูแลระบบงานออฟฟิศ

การวางแปลนภายในชั้นล่างจะเปิดโล่งทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และไม่มีผนังแบ่งกั้นเป็นห้องเล็กห้องน้อย ภาพรวมจึงเหมือนเป็นห้องเดียวตรงกลางเปิดโล่งสูง 5 เมตร มีชั้นลอย 2 ด้านทางตะวันออกและด้านตะวันตก ในชั้นล่างแบ่งโซนเป็นที่ทำงานรวม 12 เวิร์กสเตชัน การวางแนวเชิงเส้นของอาคารอยู่แนวในทิศตะวันออก – ตะวันตกมีช่องเปิดขนาบข้างความกว้างของอาคาร (5 ม.) ประตูหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ช่วยให้อารมณ์ของแสงธรรมชาติภายในพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และทำให้เกิดการระบายอากาศแบบข้ามฟาก (Cross ventilation) ช่วยให้ความร้อนออกจากอาคารได้ง่าย

สถาปนิกกำหนดช่องแสงให้แสงตะวันออกในตอนเช้าส่องไปทางขวาผ่านความยาวทั้งหมด 15 ม. ของอาคาร ด้านหน้าเป็นผนังกระจกโปร่งเบายังช่วยลดทอนความรู้สึกหนาและหนักของคอนกรีตไปพร้อมกันด้วย แนวคิดสำนักงานแบบเปิดห้องเดียว ความโปร่งใส ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์การทำงานเป็นทีม การอภิปรายอย่างเปิดเผย และบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าองค์ประกอบของอาคาร ปริมาณ ความสูงของพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงภายในก่อให้เกิดความรู้สึกและประสบการณ์เชิงพื้นที่ที่หลากหลายได้เช่นกัน

ชั้นลอยด้านหนึ่งจะเป็นส่วนโต๊ะทำงานของหัวหน้าออฟฟิศและพื้นที่รองรับแขกชั้นบน ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแต่ก็มีปฏิสมพันธ์กับชั้นล่างได้

ในห้องมีหลายระดับไม่เท่ากันจากพื้นห้องค่อย ๆ ไต่ตามสเต็ปให้มีความลึกความสูง เพื่อเติมมีมิติของพื้นที่ที่หลากหลายน่าสนุก นอกจากนี้พนักงานยังสามารถใช้ขั้นบันไดในการนั่งเล่นทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงพักโดยไม่ต้องยกโต๊ะเก้าอี้วางให้เปลืองพื้นที่ ใกล้ ๆ กันเป็นมุมพักผ่อนที่เป็นหลุมลงไป ใช้นั่งอ่านหนังสือ ดื่มกาแฟ เล่นหมากรุก ผนังด้านซ้ายมือเป็นช่องว่างขนาดใหญ่เชื่อมต่อสายตาไปยังสวนเล็ก ๆ ผ่อนคลายพักสายตาจากเวลางาน

อีกด้านหนึ่งของบ้านทางทิศตะวันตกมีครัวขนาดเล็ก ๆ ที่เข้าถึงได้ผ่านบันไดเวียนแยกออกมาจากส่วนออฟฟิศ ซึ่งจะทำให้กลิ่นและควันไม่รบกวนพื้นที่ทำงาน ดู ๆ แล้วมีความสะดวกครบฟังก์ชันเหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านจริง ๆ มากกว่าเป็นสถานที่ทำงาน