โฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล

การดำเนินชีวิตของผู้คนบางทีก็ยากจะคาดเดานะครับ ยุคหนึ่งผู้คนหลั่งไหลจากชนบทไปสู่เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสี แต่เมื่อเวลาผ่านไป มาถึงวันนี้กลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ถอยกลับไปสร้างบ้านอยู่ในสถานที่อันเงียบสงบ ใช้ชีวิตเรียบง่าย และปลอดโรคระบาด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี ‘Stara’ โฮมออฟฟิศที่ผุดขึ้นในชานเมือง เป็นเสมือนอัญมณีเม็ดงามซ่อนตัวอยู่ในสถานที่อันเขียวขจีของ Malaparamba ประเทศอินเดีย ภายในออกแบบแบ่งโซนสำหรับรองรับกลุ่มผู้ใช้งานหลายกลุ่ม ให้อยู่ร่วมกันในพื้นที่เดียวได้ โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน

ออกแบบ : Stara Architects
ภาพถ่าย : Running Studios
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Stara เป็นทั้งบ้านที่อยู่อาศัยและสตูดิโอออกแบบที่ใช้ชื่อเดียวกัน ตั้งอยู่ในเมืองชายฝั่ง Kozhikode รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย บนพื้นที่ 2,400 ตร.ฟุต พื้นที่ห่างจากความเร่งรีบและวุ่นวายของเมือง ช่วยมอบบรรยากาศที่เงียบสงบให้กับผู้อยู่อาศัยและคณะทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ แนวคิดหลักในการสร้างอาคารจึงเน้นการมีปฏิสัมพันธ์ของแสงและช่องว่างที่สอดประสานกัน มีความเป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

เมื่อมองจากภายนอกเข้ามาจะเห็นส่วนหน้าบ้านเป็นอาคารสองชั้นหลังคาทรงจั่ว ตกแต่งด้านหน้าด้วยผนังอิฐช่องลมและหน้าต่างวงกลมบานไม้พลิกหมุนได้ สร้างพื้นที่รับแสงและลม พร้อมกับเติมจุดเด่นให้บ้านตั้งแต่แรกเห็น ภายในเข้ามาจะได้รับการต้อนรับจากลานโล่งและต้นไม้เขียวชอุ่ม

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักในการสร้างพื้นที่เปิดโล่ง และการแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนโดยมีสิ่งกีดขวางทางกายภาพน้อยที่สุด นักออกแบบจึงจัดชั้นล่างของบ้านในแปลนแบบ open plan ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ซึ่งจะมีประตูอลูมิเนียมบานใหญ่เปิดสู่ลานในร่มส่วนตัว วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกโล่งสบาย บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกก็เปิดรับแสงธรรมชาติที่มีคุณภาพยามเช้าได้เต็มที่ และทำให้บ้านประหยัดพลังงานอย่างที่ต้องการ

ห้องนั่งเล่นพักผ่อนเป็นพื้นที่ที่มีเฟอร์นิเจอร์จัดตกแต่งอย่างมีศิลปะ ด้วยวัสดุที่เป็นธรรมชาติและโทนสีสดใสจึงให้บรรยากาศแบบเขตร้อนที่มีกลิ่นอายความเปนอินเดียร่วมสมัย เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นมีที่มาจากทรัพย์สินดั้งเดิมของบรรพบุรุษบ้าง บางชิ้นสั่งทำตามความต้องการในการออกแบบ อย่างเช่น เตียงเก่าในห้องนอนห้องหนึ่ง หรือ Diwan (เฟอร์นิเจอร์รูปแบบเก่าที่สามารถพบได้ในบ้านทั่วไป ลักษณะคล้ายแหย่งในบ้านเรา) ในห้องนั่งเล่นเป็นของเก่าแกะสลักอย่างสวยงามอายุกว่า 150 ปีที่ลูกค้าได้รับสืบทอดมา

ถัดจากห้องนั่งเล่นพักผ่อนจะพบกับมุมทานข้าวโถงสูงสองชั้น และห้องครัวแบบเปิดสีเขียวตัดน้ำตาล เป็นองค์ประกอบที่ทำให้มองเห็นพื้นที่ทางสังคมได้ดีที่สุด โต๊ะกลางไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นเคาน์เตอร์อาหารเช้า แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวคั่นระหว่างส่วนรับประทานอาหารและครัว เปิดบานประตูขนาดใหญ่ออกไปจะเป็นเฉลียงเชื่อมต่อสวน จากจุดนี้จะมองเห็นต้นไม้เขียวๆ ซึ่งตั้งใจเป็นองค์ประกอบให้เชื่อมโยงสถาปัตยกรรมกับสภาพแวดล้อม โถงสูงที่ติดกระจกรอบๆ ยังให้ประโยชน์สูงสุดจากการเป็นช่องทางระบายอากาศและพื้นที่รับแสงธรรมชาติทำให้บ้านโปร่ง เบา สว่าง

หลังส่วนนั่งเล่น จะมีบันไดโครงสร้างเหล็กแบบพับผ้า มองเห็นเส้นสายซิกแซกของบันไดชัดเจน ซึ่งยังคงเน้นคอนเซ็ปสีสันด้วยการทำสีฟ้า Turquoise กรุทับด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มธรรมชาติ นำทางขึ้นมายังชั้นลอยที่เป็นจุดเริ่มต้นของมุมทำงานที่แยกขึ้นมาเพื่อความมีสมาธิในการทำงาน อย่างไรก็ตามหากมองจากห้องนั่งเล่นตามบันไดขึ้นมาจะเหมือนว่าบ้านกับที่ทำงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จริงๆ แล้วทางเข้าและออกออฟฟิศจะอยู่ส่วนหลังของบ้าน

ห้องทำงานกระจายตัวอยู่ตามพื้นที่แนวตั้ง ที่ค่อยๆ ไต่ระดับที่สูงขึ้นไปตามแนวหลังคา มีทั้งแบบห้องที่เป็นสัดส่วน และมุมเปิดเล็ก ๆ ในตัวอาคาร โดยทั้งหมดพยายามตกแต่งให้รู้สึกว่ายังมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีจุดแวะพักให้ไปนั่งทอดสายตาชมวิวและพักสมอง

ในช่วงพักกลางวันหรือหลังจากหมดเวลาทำงานของวันแล้ว พนักงานสามารถออกมานั่งชิลๆ จับกลุ่มพูดคุย ทานของว่าง พักให้หายเหนื่อยก่อนกลับไปที่บ้าน ทำให้ทุกวันที่มาทำงานยังมีช่วงเวลาที่ได้ “หยุด” และปรับทิศทางอารมณ์ ความคิด ในระหว่างวัน สถานการณ์และบรรยากาศในการจึงไม่เคร่งเครียดเกินไป ซึ่งจะทำให้การทำงานมีประสทธิภาพมากขึ้น