บ้านแฝดยกพื้นสูงผนังไม้เลื้อย

ถ้าเราพูดถึงบ้านจัดสรรตามโครงการต่างๆ คงพอนึกออกว่าส่วนใหญ่หน้าตาบ้านจะเหมือนกันไปหมด เหมือนออกมาจากเบ้าเดียวกัน ในภาษาต่างประเทศเรียกว่า cookie-cutter ที่เปรียบกับการใช้พิมพ์คุกกี้ตัดออกมาให้เหมือนกันทุกชิ้น ทั้ง ๆ ที่ความต้องการบ้านของแต่ละคนอาจจะต่างกัน สำหรับเจ้าของบ้านนี้ก็มีความคิดที่จะมองหาความต่างของบ้าน เมื่อมีพื้นที่พอสำหรับสร้างบ้าน 2 หลัง จึงมีแนวคิดที่จะออกแบบอาคารตามความชอบแบบที่แตกต่าง ไม่ใช่แบบพิมพ์นิยมเหมือนบ้านจัดสรรทั่วไป แต่ต้องเป็นแบบที่อยู่สบาย เหมาะกับคนจำนวนมาก และสามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมแปลนได้ง่ายในอนาคต

ออกแบบ : Jellway
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านสองหลังนี้อยู่ในแถบชานเมือง Tarragindi บริเวณวงแหวนรอบกลางอยู่ห่างจากใจกลางเมือง 6.5 กม. ซึ่งเจ้าของบ้านมีที่ดินขนาดกว้างขวาง จึงตัดสินใจที่จะทำบ้านสำหรับอาศัยอยู่ในหลังหนึ่งและให้เช่าอีกหลังหนึ่งผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็นบ้านแฝด 7.7 เมตร ยกสูงคู่หนึ่งที่แยกจากกันพร้อมพื้นที่ใต้อาคารอเนกประสงค์สำหรับจอดรถ เก็บของ และนั่งเล่นใต้ร่มเงา เป้าหมายคือสร้างแปลนบ้านที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับความหลากหลายของครอบครัว ที่สามารถต่อเติมได้ในอนาคต

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านตั้งอยู่บนถนนในละแวกใกล้เคียงที่ค่อนข้างพลุกพล่าน ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขในการออกแบบ ด้วยความที่บ้านไม่มีรั้วกั้น จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการทำโครงลวดคลุมตัวบ้าน ใช้ไม้เลื้อยเป็นตัวปกปิดตัวอาคาร ที่นอกจากจะสร้างความเป็นส่วนตัว ยังช่วยเพิ่มความสดลื่น ช่วยกรองแสง กรองฝุ่น แบ่งทางเข้าออกอย่างเป็นกันเอง สามารถโต้ตอบกับเพื่อนบ้านอย่างไม่เป็นทางการ การร่วมมือกับภูมิสถาปนิกทำให้โครงการนี้ดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชั้นล่างที่ยกสูงทำให้ลมสามารถลอดผ่านลดความชื้นได้ดี ระหว่างทางถึงบันไดขึ้นสู่ตัวบ้านจัดสวนทรอปิคอล ให้ความรู้สึกสดชื่นในทุกย่างก้าว

จากมุมมองของเจ้าของบ้าน เห็นว่าควรแยกห้องส่วนตัวออกจากพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นทางเข้าบ้านจะเป็นทางผ่านลานตรงกลางของแปลนบ้าน เพื่อตรงไปยังพื้นที่สาธารณะ โดยจะไม่เดินผ่านห้องพื้นที่ห้องนอนที่หน้าบ้าน แต่ยังให้โอกาสในการโต้ตอบกับเพื่อนบ้านและคอยสอดส่องดูแลทรัพย์สินของกันและกัน บันไดจะตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างใต้ถุนบ้านและชั้นบนที่เชื่อมเข้ากับชานไม้ แล้วนำเข้าสู่พื้นที่ทางสังคม ช่องว่างบริเวณบันไดและชานจะเปิดพื้นที่รับลม บนหลังคาใส่วัสดุโปร่งแสงทำให้ส่วนนี้มีแสงธรรมชาติ บนผนังบ้านก็มีช่องลมเป็นบานเกล็ดเรียงตัวยาวรับทั้งสองด้าน ดูแล้วคล้าย ๆ บ้านยุคเก่าแบบมีชานเรือนต้อนรับที่เราคุ้นตาในเมืองไทย แต่การใช้วัสดุ สี และดีไซน์เรียบง่ายทันสมัยกว่า

สถาปนิกพยายามสร้างบ้านขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยจำนวนห้องขั้นต่ำที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะพอใจและใช้วัสดุก่อสร้างน้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการนี้ จึงจัดลำดับความสำคัญในแง่ของขนาดและรายละเอียดใหม่ โดยแบ่งสัดส่วนพื้นที่สาธารณะในบ้านมากขึ้น เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และลานภายในที่มารวมกันในจุดเดียว ในขณะที่ห้องนอนมีขนาดเล็กกว่ามาก เป็นการส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งรวมถึงพื้นที่ทำงานที่มองเห็นลานทางเข้า

ส่วนของพื้นที่ใช้งานร่วมกัน เป็นห้องโล่งๆ พื้นผิวผนังและเพดานสีขาว ขับเน้นให้งานไม้บริเวณกรอบประตู พื้นบ้าน และสีดำของผนังบ้านภายนอกโดดเด่นขึ้นมา จากจุดนี้จะเห็นว่านักออกแบบใช้วัสดุผนังบางส่วนเป็นแผ่นโปร่งแสงลอนๆ ให้แสงทะลุผ่านได้บ้าง มีหน้าต่างบานเกล็ดค่อนข้างมากเพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถปรับองศาให้บ้านรับลม รับแสง ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีกระถางต้นไม้ใบสวยอย่างไทรเกาหลี ไม้เลื้อย ที่เพิ่มความสดชื่นให้ภายในบ้าน

ครัวสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีขาว ตัดเส้นสายตาสีดำ และตกแต่งไม้ ดูทันสมัยแต่อบอุ่นเต็มไปด้วยแสงสว่าง จากช่องแสงขนาดต่าง ๆ เล็กบ้างใหญ่บ้างที่มีอยู่รอบด้าน ภายในดีไซน์ในสไต์โมเดิร์นมินิมอล มีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่ได้หลายฟังก์ชัน เป็นทั้งพื้นที่เตรียม ล้าง ปรุง และเป็นมุมนั่งทานข้าว ช่วงที่ไม่ได้ทำอาหารก็ใช้อ่านหนังสือ พุดคุย ทำงานในบางเวลา

หน้าบ้านจะมีพื้นที่นอนที่ตกแต่งเรียบง่าย เพดานสูงจากพื้น 2.4 ม. ติดตั้งบานเกล็ดเต็มความสูง ช่วยควบคุมความสูงของเพดานให้เพิ่มพื้นที่แสง ระบายอากาศ ผนังกระจกมีตาข่ายอยู่อีกชั้นปลูกเถาวัลย์เลื้อยเต็มพื้นที่ จึงช่วยปิดบังพื้นที่พักผ่อนออกจากสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนน ผนังธรรมชาตินี้ช่วยลดเสียงรบกวน ฝุ่นละออง ควบคุมแสงแดดยามเช้า และความเป็นส่วนตัว