Verano Beach Villa
รีวิวรีสอร์ท บรรยากาศแสนสงบ ริมหาดบางชอง
หาดบางชอง ชายหาดอันแสนสงบ ที่ยังคงแวดล้อมไปด้วยความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่เรียบง่าย ธรรมชาติที่นี่ ยังคงสมบูรณ์ อยู่ไม่ไกลจากชายหาดชะอำ และหาดเจ้าสำราญมากนัก ซึ่งหากใครต้องการหาที่พักผ่อนในบรรยากาศชายทะเล แต่ไม่ต้องการความวุ่นวายแบบหัวหิน ชะอำ ที่แห่งนี้ ก็จัดได้ว่า ตอบโจทย์การพักผ่อนได้เป็นอย่างดี สำหรับเบราโน่ บีช วิลล่า (Verano Beach Villa) รีสอร์ทอันงดงาม ผสมผสานการตกแต่งร่วมสมัย มีกลิ่นอายในรูปแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเน้นโทนสีขาว สร้างไว้ในพื้นที่ชายหาดส่วนตัว แม้หาดแห่งนี้ จะอยู่ใกล้กับชะอำแต่ความงดงามและบรรยากาศที่น่าพักผ่อน ต้องขอบอกว่า ห่างกันมาก เพราะที่แห่งนี้ ยังคงงดงาม และเงียบสงบ ทรายหาดขาวเนียน สะอาดตา
ติดต่อเบอร์โทร : 032 591 177
พิกัด GPS : 12.922488, 100.026639
Website : Veranobeachvilla.com
Verano เป็นภาษาสเปน อ่านว่า เบราโน่ ตอนแรกแอดมินเองก็อ่านผิด คิดว่า เวราโน่ ซึ่งแปลว่า ฤดูร้อน แน่นอนว่า ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการท่องเที่ยวทะเล พักผ่อนในบรรยากาศชายหาด แต่ช่วงที่ได้ทำการรีวิวนี้ เป็นช่วงหน้าฝน ก่อนที่จะได้มาก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องชายหาด ว่าจะยังคงความสวยงามไว้หรือไม่ เมื่อมาถึง แอดมินจึงไม่รีรอที่จะพุ่งตรงมาดูชายหาดก่อนเป็นอันดับแรก ปรากฏว่า สวยเกินคาด แม้จะไม่ได้ขาวสะอาดปิ้ง แบบช่วงหน้าร้อน แต่ก็ยังขาวสะอาดตา น่าเดินเล่นชิลๆ อย่างสบายอารมณ์
เมื่อได้เข้ามาสู่ภายในรีสอร์ท ซึ่งจะกั้นรั้วกำแพงไว้ด้านหน้า ให้ความรู้สึกเหมือนกับมาบ้านพักตากอากาศ โซนด้านหน้า ตกแต่งด้วยสวนกำแพง โดยใช้เป็นต้นไม้ตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม ทำให้สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นตั้งแต่แรกพบ ภายในล็อบบี้ จัดวางชุดโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ไว้หลายมุม รองรับแขกผู้มาพักได้อย่างเพียงพอ ที่นี่ ยังมีสระว่ายน้ำรวม ไว้ให้ได้เล่นกัน
มุมของสระว่ายน้ำ อยู่บริเวณหน้าหาด จัดวางเก้าอี้ชายหาดไว้รองรับการนอนพักผ่อน ทอดกายไปกับสายลม สนามหญ้าริมหาด กว้างเพียงพอที่จะจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในยามค่ำคืน มีซุ้มศาลาสำหรับนั่งเล่น หรือจำลองเป็นเวทีการแสดง ทอดยาวไปถึงริมชายหาดก็ได้เช่นกัน อาจประยุกต์สำหรับการจัดงานเวดดิ้งเล็กๆ ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและโรแมนติก
ก่อนจะพาไปเที่ยวชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ท ขอพาขึ้นชมห้องพักในค่ำคืนนี้กันก่อนนะครับ ห้องที่ทางทีมงานบ้านไอเดียได้เข้าพัก เป็นห้องหมายเลข 221 ซึ่งอยู่ชั้น 2 สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งชนบนสุดยังมีดาดฟ้าอีกด้วย แค่เพียง ขณะเดินขึ้นบันได้ ก็ได้เชยชมบรรยากาศริมหาด วันนี้โชคดีมากครับ ที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทั้งๆ ที่เป็นช่วงหน้าฝน ทำให้การถ่ายภาพ เป็นไปได้อย่างราบรื่น อาจจะมีเมฆบดบังบ้าง ก็ช่วยให้ร่มเงาในบางเวลา
สิ่งที่สัมผัสได้เป็นอันดับแรกเมื่อเข้าภายในห้อง ห้องดูสว่าง ปลอดโปร่ง สบายตาเป็นอย่างมาก ด้วยโทนห้องสีขาวครีม กับชุดเครื่องนอนที่เน้นสีขาวทั้งหมด ประดับตกแต่งด้วยลวดลายของดอกไม้ บนผนังหัวเตียงและปลอกหมอน ทำให้เติมเต็มความสดชื่นไว้ได้อย่างดี
ภายในห้องนอน ผนังด้านหน้าและด้านข้างซ้าย ใช้เป็นผนังกระจก เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เห็นถึงบรรยากาศของท้องทะเล มีผ้าม่านบางขาว สำหรับกรองแสง เพื่อไม่ให้แสงเข้ามากจนเกินไปในบางช่วงเวลา อีกมุมด้านข้าง เหมาะสำหรับประยุกต์เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า แต่มุมนี้ แอดมินใช้เป็นโต๊ะนั่งทำงานแทน ซึ่งเมื่อเปิดผ้าม่านแล้ว ก็พบกับวิวธรรมชาติอันงบงามเช่นเดียวกัน
หลังห้องนอน จะมีประตูสองด้าน ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ด้านขวาเป็นห้องครัว ขอพามาชมห้องน้ำกันก่อนนะครับ ภายในห้องน้ำ ใช้โทนสีขาว ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะดูแลได้อย่างสะอาดเอี่ยมอยู่สม่ำเสมอ จัดโซนไว้ 2 โซนด้วยกัน โดยโซนภายนอกเป็นโซนแห้ง ใช้เป็นสุขา ชักโครก อ่างอาบน้ำ ที่รองรับทั้งน้ำอุ่นและน้ำธรรมดา อ่างล้างหน้า และโซนเปียก ปิดกั้นประตูกระจก เป็นห้องอาบน้ำภายใน โดยใช้ฝักบัว ซึ่งมีน้ำอุ่นไว้รองรับเช่นเดียวกับอ่างภายนอก แอดมินชอบอ่างอาบน้ำมากที่สุด เนื่องจากอยู่ติดกับหน้าต่าง ซึ่งสามารถดึงมู่ลี่ขึ้นได้ จะได้รับบรรยากาศกึ่ง Outdoor
การตกแต่งภายในของเบราโน่ เน้นความเรียบง่าย ของตกแต่งไม่เยอะ แต่หากมีแล้วก็กลายเป็นจุดเด่นภายในห้อง โดยเฉพาะช่อดอกไม้ ซึ่งทำจากเหล็กดัด ออกแบบเป็นกิ่งดอกกุหราบ ติดผนังหัวเตียง ให้ความรู้สึก โรแมนติก ท่านใดพอจะทราบว่า หาซื้อได้ที่ไหน รบกวนช่วยแจ้งกันมาสักนิดนะครับ แอบชอบเป็นพิเศษ อยากได้ติดไว้ที่ห้องนอน ^^
อีกด้านหนึ่งของห้อง เป็นโซนของห้องครัว สามารถทำครัวเล็กๆ น้อยๆ ได้ จัดวางโต๊ะทานอาหารไว้ริมหน้าต่าง ซึ่งส่งผลดีด้านแสงสว่าง ด้านหลังห้อง สามารถเปิดประตูออกไปได้ เป็นระเบียงที่เชื่อมต่อไปถึงอีกห้อง
ภาพถัดมานี้ เป็นระเบียงห้อง ซึ่งจะมองเห็นวิวทะเล มีเก้าอี้เหล็ก พร้อมเบาะรองนั่ง เตรียมพร้อมไว้สำหรับการนั่งรับลมสบายๆ ได้หนังสืออ่านเล่นสัก 1 เล่ม รับรองได้ว่า หลับเพลินแน่นอนครับ
รีสอร์ทแห่งนี้ ไม่ได้มีดีเพียงแค่บรรยากาศและห้องพักที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีอาหารอร่อยๆ ซึ่งตรงจุดนี้ ขอรับประกันได้เลยครับ ว่ารสชาติอาหารภายในรีสอร์ท อร่อยสู้ร้านอาหารชื่อดังได้เลย ต้องขอขอบคุณแม่ครัวและพนักงานของเบราโน่เป็นอย่างมาก ที่ทำให้ได้ทานอาหารทะเลที่สุดแสนอร่อย เดิมทีแอดมินเองก็ไม่ทราบ ว่าเป็นอาหารภายในของเบราโน่ ด้วยความอร่อยจึงแอบถามพนักงาน ว่าสั่งมาจากที่ไหน สรุปว่า เป็นของที่พักเอง โดยมีแม่ครัวภายใน จึงแอบชมไปว่า น่าจะเปิดร้านอาหารเพิ่มนะครับ ใครได้มีโอกาสมาพักที่นี่ อย่าได้คิดผิดไปทานข้างนอกกันนะครับ ขณะที่กำลังพิมพ์รีวิวนี้ ก็รู้สึกอยากกลับไปทานอีกแล้ว
ภายในห้องทานอาหาร จัดไว้ใกล้ๆ กับล็อบบี้ มีมุมอ่านหนังสือ มุมดูทีวี มุมนั่งเล่น ทั้งนี้ ยังมีเครื่องดื่มนานาชนิด หรือแม้แต่กาแฟสดก็ยังมี แต่รสชาติเป็นเช่นไร ต้องลองไปชิมกันนะ เนื่องจากแอดมินสั่งน้ำเปล่า ตรงจุดนี้ บอกไม่ได้เช่นกันครับ ทานอาหารอร่อยๆ ไปพร้อมกับบรรยากาศริมทะเล ให้อารมณ์แบบบ้านพักส่วนตัว มันช่างมีความสุขจริงๆ มาที่นี่ จะมาแบบครอบครัว หมู่คณะ หรือคู่สวีท ก็รองรับทุกบรรยากาศนะ
ท่านอิ่มกันแล้วก็ขอพาเดินชมไปทั่วๆ ก่อนที่จะมืดค่ำกันเสียก่อน ที่นี่ มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะพอสมควร มีดอกไม้ พันธุ์ไม้นานาชนิด จัดสวนสไตล์ Tropical Modern อย่างเป็นระเบียบ ช่วงเย็นวันที่เข้าพัก ฝนตกลงมานิดๆ ตอนแรกคิดว่าจะผิดหวังกับภาพยามค่ำคืนซะแล้ว แต่โชคดีมากครับ ฟ้าฝนเป็นใจ เปิดโอกาสให้ได้ถ่ายภาพมาฝากกัน
บรรยากาศยามค่ำคืน ห้องที่แอดมินพัก อยู่ทางด้านซ้ายมือนะครับ ชั้นบน ซึ่งเปิดไฟสว่างอยู่เพียงห้องเดียว เนื่องจากค่ำคืนดังกล่าว มาพักเพียง 1 ห้อง ยิ่งให้ความรู้สึกแบบรีสอร์ทส่วนตัวเชียว กลางคืนที่นี่ ในช่วงหน้าฝนค่อยข้างจะมียุง แต่แม่บ้านก็เหมือนจะรู้ใจ นำโลชั่นยากันยุงมาให้ใช้กันฟรีๆ แสงทไวไลท์ของท้องฟ้า เมื่อตัดกับศาลาไม้ รวมถึงเก้าอี้สีขาว และต้นไม้สีเขียว เป็นสีสันที่เมื่อมารวมตัวกันแล้ว สวยงามมากเลยทีเดียว
กลับขึ้นมาชั้นบน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวออกไปหาอาหารทานรอบดึก แม้อาหารภายในจะอร่อยมาก แต่เนื่องจากแอดมินไม่เคยไปชะอำ ก็จำยอมความอร่อย ไปหาทานแถวชะอำแทน ซึ่งไม่ห่างกันมากครับ หรือหากใครขยันขับรถ จะไปเที่ยวหัวหินต่อ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง
ตื่นเช้ามา ขอพาไปเดินเล่นชายหาดกันต่อนะครับ ชายหาดที่นี่ ช่วงเช้าจะค่อยข้างแห้ง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤดูกาลด้วยหรือไม่ แต่เท่าที่ทอดสายตามอง จัดการกับความสะอาดได้เป็นอย่างดีครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นชายหาดส่วนตัว แต่ก็ใช่ว่าจะถึงกับปิดกั้นนะครับ เพราะบริเวณนี้ มีความเป็นอยู่กันแบบชนบท พึ่งพาอาศัยต่อกัน แอดมินได้เดินไปคุยกับชาวบ้านแถวนี้ สัมผัสได้ถึงมิตรไมตรีและการต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเช่นนี้ หาได้ยากในย่านการท่องเที่ยวที่เจริญ
ปิดท้ายกันด้วยมื้อเช้าก่อนกลับ ซึ่งหลังจากเช็คเอาท์ ออกจากรีสอร์ท แอดมินก็ได้ไปเที่ยวประจวบกันต่อ บอกตามตรง ไม่ค่อยจะอยากกลับเท่าไหร่เลยครับ บรรยากาศที่นี่ ให้อารมณ์การพักผ่อนเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า มาที่นี่เพียงที่เดียว ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ เป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ราคาห้องพักก็ไม่แพง เริ่มต้นเพียง 2 พันกว่าบาทเท่านั้น หากท่านใดจะมาชะอำ หัวหิน หรือสถานที่ใกล้เคียง ก็อยากแนะนำไว้เป็นอีกทางเลือก ซึ่งรับประกันได้ว่า ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
เอาหละครับ หลังจากจบทริปนี้ ขอฝากภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ บรรยากาศของหาดปึกเตียน ซึ่งมีพระอภัยมณี และนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรมาให้ชมกัน มาถึงปึกเตียนแล้ว อย่าลืมไปถ่ายภาพกับผีเสื้อสมุทรกันนะครับ ใหญ่มากๆ หรือหากท่านใดจะหาที่เที่ยวใกล้ๆ ก็ยังมี แก่งกระจาน , พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน , เขาวัง หรือจะเลยไปประจวบ ก็ไม่ห่างกันมากครับ สำหรับทริปนี้ ขอจบไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามกันนะครับ หากมีส่วนใด ต้องการเพิ่มเติม หรือติดชม ก็สามารถคอมเม้นไว้ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ บ๊าย บาย เที่ยวกัน ประเทศไทย
