บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล
“กลับคืนสู่ธรรมชาติ” เป็นความปรารถนาของคนเมืองหลายๆ คน ที่เปลี่ยนมุมมองไปหลังจากเต็มอิ่มกับการใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน เต็มที่กับการทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิต จนมีครอบครัวก็รู้สึกว่าอยากให้เด็ก ๆ ในรุ่นลูกได้สัมผัสกับความสงบ อยู่ห่างจากอุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ และดื่มด่ำไปกับกิจกรรมวัยเด็กได้อย่างที่ควรจะเป็น เจ้าของบ้านหลังนี้ในเวียดนามก็มีความตั้งใจอย่างนั้นเช่นกัน จึงย้ายจากการอยู่อาศัยในอพาร์ทเมนต์สูงๆ มาอยู่แบบติดดินที่โฮจิมินห์
ออกแบบ: DDconcept
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
บ้านครอบคลุมพื้นที่ 300 ตารางเมตรนี้ เป็นรังของครอบครัวเล็กๆ ที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยใหม่ ห่างจากตัวเมืองโฮจิมินห์ไป ทางตะวันออก 20 กม . ซึ่งบริเวณนี้ยังมีประชากรไม่หนาแน่นและมีพื้นที่สีเขียวมากมาย สถาปัตยกรรมนี้จึงรวมเอาองค์ประกอบหลายอย่างที่เจ้าของบ้านต้องการ ไปพร้อมกับสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่สะดวกและสบาย ด้วยลักษณะของสถาปัตยกรรมเขตร้อน ให้ลมตามฤดูกาล รวมทั้งลดผลกระทบต่อระบบนิเวศที่มีอยู่เดิมของที่ดินให้มากที่สุด
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ประตูหน้าบ้านไม้สีน้ำตาลคาดด้วยเหล็กสีดำ และกำแพงรั้วสีขาวที่มีช่องเปิดแนวยาว เป็นสองสิ่งที่ให้ความรู้สึก contrast แบบโมเดิร์น หากมองจากระดับสายตาอาจเห็นไม่ชัดว่าบ้านนี้เป็นหลังคาแบบจั่วตัวบ้านมีลักษณะยาวลึกเข้าไป หลังคาออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนที่หันหน้าออกนอกถนนจะมุงด้วยใบจาก คล้ายที่บ้านโบราณในแถบนี้ และระหว่างรอยต่อยังมีช่องว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าให้ต้นไม้โตและรับแสงรับฝนได้ ทำให้รู้สึกว่าหลังประตูเข้าไปจะได้พบกับความแปลกใหม่ที่น่าสนใจแน่ๆ
เมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาจะพบกับลาน และอาคารที่ยกสูงขึ้นเหนือพื้นดินเล็กน้อย เพื่อลดความชื้นจากดินสู่ตัวบ้านและยังช่วยป้องกันน้ำท่วมตามธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ช่วยกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ภาพรวมของหน้าบ้านดูโปร่งสว่างมีความโมเดิร์นของสีและเส้นสาย แต่ก็มีกลิ่นอายบ้านแบบเขตร้อนที่คุ้นเคยอยู่
เพื่อสร้างสภาพอากาศที่สะดวกสบายภายในบ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทีมงานจึงได้ออกแบบระบบพื้นและโครงสร้างบังแดดแบบพิเศษ เช่น หลังคาลาดเอียงสองชั้นทำหน้าที่เป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในการลดการส่งผ่านความร้อนจากแสงอาทิตย์ลงสู่หลังคาและภายในบ้าน ชายคาที่กล้างปกคลุมด้านหน้ายังเป็นพื้นที่เฉลียงเหมือนบ้านตามชนบทให้ออกมานั่งเล่น ชงกาแฟดื่ม ต้อนรับญาติและเพื่อน ๆ ที่มาเยือน และยังเป็นบริเวณกว้างๆ สำหรับให้เด็กเล่นอีกด้วย
การเปลี่ยนจากที่อยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์สูงมาเป็นระดับพื้นดินนี้ แม้เจ้าของบ้านจะตั้งใจให้ทุกความเคลื่อนไหวใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ก็ยังคงฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้นเคยในการใช้ชีวิตแบบชาวเมือง ดังนั้น กิจกรรมทั้งหมดจึงถูกรวมไว้บนชั้นเดียว และใส่ทุกฟังก์ชันการใช้งานของอพาร์ตเมนต์ทั่วไปเอาไว้ โดยแต่ละช่วงของบ้านก็จะวางฟังก์ชันที่ต่างกัน และมีทางเดินเชื่อมต่อ การออกแบบนี้จะเว้นการแบ่งเขตที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัวโดยอัตโนมัติ
ทุกตารางเมตรให้ความสำคัญกับความกลมกลืนของสิ่งแวดล้อม ฟังก์ชันการทำงาน และความสะดวกสบาย มอบสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตที่สดชื่นและสนุกสนานสำหรับผู้อยู่อาศัย แม้แต่หลังคาบ้านที่เห็นจากมุมมอง Bird’s eye view ว่าถูกเจาะเป็นช่องว่างบางส่วน ก็เป็น open space ให้ลม แสง และฝนเข้าสู่ตัวบ้านได้ผ่านช่องทางนี้
องค์ประกอบอื่นๆ ในบ้านเช่น สนามหญ้า ระเบียง และทางเดิน ออกแบบมาให้เป็นลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมเขตร้อน ทำหน้าที่เป็นช่องว่างระหว่างพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัยหลัก นอกจากนี้พื้นที่เหล่านี้เป็นส่วนใช้งานอเนกประสงค์รองรับกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ และส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากขึ้น
ช่องว่างในบ้านจะปลูกต้นไม้สไตล์เขตร้อนเอาไว้แทรกธรรมชาติเข้าไป บางจุดเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ใช้งาน บางจุดถูกกั้นไว้ด้วยประตูหน้าต่างกระจกที่เปิดปิดได้
นอกจากที่นี่จะมีพื้นที่อยู่อาศัยผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว มีบริเวณกว้างขวางสำหรับเด็กๆ ในการเล่นและสำรวจ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมั่นใจถึงความสะดวกสบายของที่อยู่อาศัยในเมืองที่ทันสมัย พื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านมองเห็นวิวสวนเขียวชอุ่มและช่องรับแสง เชิญชวนโลกธรรมชาติเข้าสู่ภายในทุกมุมมอง แม้จะอยู่ในบ้านก็ยังสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของธรรมชาติตลอดทั้งวันและฤดูกาล ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียวที่ประดับประดาด้วยพืชพรรณนานาชนิด อาบไปด้วยแสงธรรมชาติ ฝน และสายลมตลอดเวลา
แปลนบ้าน