บ้านหลังเล็ก

ถ้าถามว่าสไตล์การแต่งบ้านที่มาแรงในไทยย้อนไปเกือบ 10 ปีเป็นแบบไหน คำตอบคงต้องยกให้ลอฟท์-อินดัสเทรียล ที่นำเสนออารมณ์ดิบ เท่ ของวัสดุ ทำให้บ้านเหมือนคาเฟ่ แต่ถ้าถามว่าสองสามปีนี้เทรนด์ไหนแซงลอฟท์ไปแบบสวย ๆ ต้องยกให้สไตล์โมเดิร์นมินิมอล หรือสไตล์ที่เเรียบง่ายแต่มีคุณภาพที่เรียกว่า “มูจิ” ซึ่งจะเน้นความเป็นธรรมชาติ งานไม้ ผ้า สีขาวที่ให้เสน่ห์และกลิ่นอายของความเป็นโมเดิร์นอยู่ในตัว มองแล้วคล้ายโมเดิร์นมินิมอลแต่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมากกว่า เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีแบบบ้านลุคมินิมอลมาฝาก แต่ภายในเต็มไปด้วยความหลากหลาย แค่ปรับของตกแต่งก็เปลี่ยนอารมณ์บ้านในทันที

สถานที่ : VILLA JARDIN STUDIO
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านรูปทรงสี่เหลี่ยวเส้นสายตรงไปตรงมา ผนังแทนที่การก่ออิฐฉาบเรียบปิดทึบ ๆ เป็นการแทรกใส่บานกระจกตีตารางเป็นช่อง ๆ อีกด้านหนึ่งโชว์อิฐช่องลมเป็นแผงดูมี texture น่าสนใจ ทาสีขาวลงไปก็ให้ look แบบมินิมอลเรียบง่ายในทันที อิฐช่องลมเป็นวัสดุหนึ่งที่บ้านมินิมอลหใม่ ๆ นิยมนำมาใช้แทนที่ผนังแบบเดิม ๆ นั่นเป็นเพราะตัวอิฐมีช่องว่างที่ช่วยให้ลมพัดผ่านได้สะดวก แสงยังส่องลอดได้ ในขณะที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในบ้าน

จากภาพของเรียบ นิ่ง น้อย ๆ ตามแบบฉบับ modern minimal แต่ภายในบ้านกลับพบความรู้สึกที่หลากหลายตามการจัดวางของตกแต่งที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่าง อย่างเช่น มุมทานข้าววางโต๊ะไม้ตัวใหญ่แกะสลักขาอ่อนช้อยสวยงามมเข้าคู่กับเก้าอี้หวายแบบร่วมสมัยแบบคอตเทจ ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นโมเดิร์นจ๋า และไม่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชีย

หลังจากผลักบานประตูไม้ตกแต่งกระจกเป็นช่องตารางออกมาจากห้องทานข้าวจะพบกับมุมนั่งเล่นผิงไฟที่ตกแต่งด้วยแคคตัสต้นใหญ่ โซฟาผ้าตัวหนานุ่ม มาพร้อมกับของตกแต่งกระจกวงกลมจากกิ่งไม้ ถาดสานวัสดุธรรมชาตติบนผนังสีขาวสะอาดตา เหนือเตาผิงติดต้งนาฬิกากลม ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะใกล้เคียงกับสไตล์โมเดิร์นคันทรีที่มีบรรยากาศแบบบ้าน ๆ แต่ทันสมัยขึ้นอีกนิด

ยังไม่ทันจบจากโมเดิร์นคันทรีก็มาพบกับหน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ภายในบ้านจึงรับแสงธรรมชาติได้มาก ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ตกแต่งด้วยกระถางมอนสเตร่าใบรูปหัวใจทรงสวย ทำให้ตัวบ้านดูเป็นธรรมชาติสดชื่นน่าอยู่ที่สุด ความพิเศษอยู่ที่บานหน้าต่างที่ไม่ใช่ทรงสี่เหลี่ยมโมเดิร์น แต่เป็นหน้าต่างที่มีอิทธิพลจากสไตล์โกธิคที่มีปลายด้านบนโค้งแหลม ซึ่งเป็นแบบบานที่นิยมติดตั้งในโบสถ์ ที่รุ่งเรืองในยุโรปในช่วงปลายยุคกลาง และคงอยู่ในอังกฤษจนถึงต้นศตวรรษที่ 16

มุมนี้ของบ้านก็ยังคงใช้สีขาวเป็นหลัก แต่มีรายละเอียดและความอ่อนหวาน เช่น การตกตแ่งคิ้วเป็นเส้นกรอบบนผนังไม้บิลท์อิน ปูพรมนุ่มฟูสีขาวบนพื้นไม้สีอ่อน ๆ จัดวางเก้าอี้ฉลุลายพนัดพิงสวย ๆ รายล้อมด้วยแจกันดอกไม้หลากสี ให้บรรยากาศของบ้านเป็นแบบผู้ดีอังกฤษ เห็นแล้วคุณผู้หญิงหลายท่านอาจจะนึกอยากใส่ชุดกระโปร่งสุ่มทานสโคนกับชาร้อน ๆ

ปิดท้ายกับมุมที่แสดงความรู้สึก คือตกแต่งผนังด้วยการเรียงอิฐแดงโชว์แนวเต็มพื้นที่ จับคู่กับเตียงเหล็กแบบโบราณ กระเป๋าเดินดางหนังสีน้ำตาล บนผนังยังใส่ความหรูหราอลังการกับกระจกกรอบหลุยส์ เป็นการตกแต่งที่ออกแนวลอฟท์เล็ก ๆ แต่รวมอารมณ์ย้อนยุค บวกความหรู ในสมัยช่วงหลังสงครามโลก ก่อนเข้าสู่ยุคโมเดิร์นมาจัดวางเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี