รีโนเวทตึกแถวเก่า
บ้านแถวหรือตึกแถวที่อยู่ติดถนนใหญ่ในชุมชน ในสมัยก่อนอาจเป็นจุดเด่นตรงที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย หน้าบ้านปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าของบ้านอาจจะเปลี่ยนมือมาสู่รุ่นลูกหรือรุ่นหลาน ซึ่งอาจจะไม่ได้ทำกิจการต่อจากที่บ้าน ประตูที่เปิดออกได้กว้างและความพลุกพล่านของชุมชนที่เข้าถึงได้ง่ายตั้งแต่แรกนั้น ก็อาจจะกลายเป็นจุดด้อยที่ทำให้มองเห็นพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้มากเกินไป ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว บ้านแถว 3 หลังที่ติดถนนใหญ่นี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลาปรับปรุงทำให้เจ้าของบ้านต้องมองหาตรงกลางระหว่างการปิดมุมมองจากภายนอกควบคู่ไปกับการยังคงเชื่อมต่อกับชุมชนได้ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัว
ออกแบบ : Space + Architecture
ภาพถ่าย : Minq Bui
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้าน 3 become 1 ได้รับการปรับปรุงใหม่จากตึกแถวที่แยกจากกันสามหลังนำมารวมให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานทั้งหมดของเจ้าของ ก่อนการปรับปรุง บ้านหลังนี้มีข้อจำกัดหลายประการ ได้แก่ ห้องนอนขนาดเล็ก ขาดแสงธรรมชาติ ห้องน้ำที่ร้อนอบอ้าวและเสื่อมโทรม ทางเดินยาวและมืด ไม่มีสวนหรือภูมิทัศน์ ส่วนหน้าของบ้านก่อนการปรับปรุงใหม่นั้นเป็นประตูเหล็กยืดแบบตึกแถวในชุมชนที่เรามักคุ้นตากันดี ซึ่งจะมีข้อดีที่สามารถเปิดออกได้กว้าง แต่ข้อเสียคือ ทำให้มองเห็นพื้นที่ใช้สอยด้านล่างเกือบทั้งหมด
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
แนวคิดในการปรับปรุงใหม่ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความทันสมัยและกลิ่นอายพื้นถิ่น เห็นได้จากการเพิ่มหลังคาหน้าจั่วและส่วนโค้งทำให้เกิดความทรงจำที่คุ้นเคยของบ้านหลังเก่า และยังคงความกลมกลืนของรูปแบบสถาปัตยกรรมกับบ้านใกล้เคียง ผนังชั้นบนทำจากอิฐอบเก่าที่นำมาใช้เพื่อให้เกิดคุณค่าจากวัสดุดั้งเดิม สีอิฐสีแดงและลวดลายซิกแซกช่วยเสริมความโดดเด่นของตัวบ้านให้มองเห็นได้จากระยะไกล และสร้างบุคลิกที่ไม่เหมือนใครให้กับบ้าน นอกจากนี้ยังมีบล็อกรับลมถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อรับแสงธรรมชาติและการระบายอากาศ แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านและช่วยให้บ้าน “หายใจ” ได้ด้วยตัวเอง
เดิมส่วนหน้าบ้านเป็นอาคารชั้นเดียวมีแต่ประตูเหล็กยืด ไม่มีรั้วบ้าน สถาปนิกจึงรื้ออาคารด้านหน้าออกเพื่อคืนลานสวน ทำให้เกิดช่องว่างเพิ่มความสดชื่นและสว่างไสวก่อนเข้าถึงตัวบ้าน และทำประตูรั้วที่ออกแบบให้มีลักษณะทึบสลับโปร่ง มีจังหวะปิดในจุดที่ต้องการปิด และใส่บล็อกช่องลมในจุดที่ยังต้องการมองเห็นความเคลื่อนไหวจากภายนอก บ้านจึงมีพื้นที่ใช้งานกลางแจ้งใหม่ในแบบที่บ้านเดิมไม่มี และดูปลอดภัยขึ้นจากรั้วบ้านที่แน่นหนา
การปรับปรุงภายใน สถาปนิกพยายามรักษาฐานรากและเสาทั้งหมด เพื่อลดผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน ผนังระหว่างบ้านเก่าที่ไม่จำเป็นถูกรื้อออก ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่และเชื่อมต่อกัน ตอบสนองความต้องการระยะยาวของเจ้าของได้อย่างเต็มที่
ด้วยที่ตั้งของบ้านอยู่ในซอคตรัง เมืองเล็กๆ ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งมีธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คนที่หลากหลาย การตกแต่งบ้านแห่งนี้จึงต้องการรักษาหมุดหมายทางสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับ ที่นำเสนอแรงบันดาลใจกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งเวียดนาม จีน และเขมร ผสมผสานกับฟังก์ชันที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และทลายข้อจำกัดของอาคารเก่าไปพร้อมกัน โดยทีมงานเลือกใช้วัสดุพื้นบ้าน มีฟังก์ชันที่ที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นมุมตั้งตี่จู่เอี้ย กระะเบื้องตกแต่งพื้นและผนัง งานไม้ธรรมชาติที่มีใบรับรองการใช้ประโยชน์จากป่าปลูก ในขณะที่ในห้องครัว โต๊ะน้ำชา ห้องนั่งเล่น ใช้ซุ้มประตูโค้งมนขนาดใหญ่เปิดเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างความใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัวในรูปแบบใหม่ๆ
บันไดที่ซ้ำซ้อนถูกแทนที่ด้วยช่องรับแสงขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่เปิดโล่งสูง (Double Space) ที่เชื่อมต่อทะลุจากชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้นบนสุด มี skylight ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติให้กระจายไปทั่วทุกมุมของบ้าน และช่วยให้ต้นไม้ภายในยังสามารถเติบโตได้ตามธรรมชาติ โดยอาศัยแสงธรรมชาติทำให้บ้านไม่ต้องใช้ไฟระหว่างวันเพื่อลดและประหยัดพลังงาน ช่องว่างกลางบ้านในแนวตั้งนี้ยังทำให้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นทำได้ง่ายขึ้น แม้ว่าสมาชิกในบ้านจะอยู่คนละระดับชั้น แต่ก็ยังสามารถมองเห็นและพูดคุยกันได้
นอกจากนี้ยังใช้ของเก่าที่มีความทรงจำมากมายถูกนำมาใช้และแสดงให้สอดคล้องกับการตกแต่งภายในใหม่ด้วย อย่างเช่น ห้องนั่งเล่นทันสมัยแต่เน้นด้วยผนังคอนกรีตดิบที่ตกแต่งด้วยภาพใบบัว ชวนให้นึกถึงชนบทของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่คุ้นเคย ลวดลายเหล็กดัด ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดในการตกแต่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน เวียดนาม และชาวเขมร ซึ่งมีประชากรมากกว่า 31% ของประชากรซอคตรัง ดังนั้นบ้านนี้จึงไม่ใช่เพียงการรวมบ้าน 3 หลังเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ยังรวมวัฒนธรรม 3 ชาติเอาไว้ภายในหลังเดียวด้วย
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : การปรับปรุงหรือรีโนเวทตึกเก่านั้น มีสิ่งสำคัญที่ต้องระมัดระวังคือ การตรวจสอบฐานรากและโครงสร้างภายใน ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีเสา คาน ผนัง ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ สามารถรับน้ำหนักเพิ่มได้เท่าไหร่ เพื่อให้แน่ใจว่าบ้านจะสามารถรองรับน้ำหนักวัสดุก่อสร้างที่อาจจะมีเพิ่มเติมเข้ามาได้โดยที่ตัวบ้านไม่ทรุด ไม่เฉพาะการเติมเข้ามาเท่านั้น การรื้อถอนองค์ประกอบบางส่วนของบ้านออกไปก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน เช่น ผนังกั้นห้องที่ต้องการรื้อเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ให้กว้างขึ้น ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากสถาปนิกและวิศวกรก่อน มิเช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายจนบ้านทรุด พัง ถล่มลงมาได้
|
แปลนบ้าน
