Carbon Negative บ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากวิกฤตโลกร้อนและภัยธรรมชาติ ซึ่งหลายกิจกรรมมีส่วนทำร้ายโลกรวมไปถึงการสร้างบ้านที่มักใช้คอนกรีต ที่กะบวนการผลิตสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกสู่โลกมากมาย ความตระหนักเหล่านี้ทำให้ผู้คนยังคงมีความตื่นตัวในการมองหาวิธีการสร้างบ้านอย่างรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการใช้วัสดุธรรมชาติที่ทำให้บ้านเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตยั่งยืน บ้านหลังนี้ก็เป็นประสบการณ์พิเศษผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับวัสดุในท้องถิ่นแบบดั้งเดิม โดยใช้เทคนิคการก่อสร้างของบรรพบุรุษมาปรับเป็นบ้านที่ดีสำหรับการหายใจ ใช้ชีวิต และยังปรับให้เข้ากับสภาพอากาศ ลดผลกระทบต่อบริบทโดยตรง

ออกแบบ : DAO, Re Arquitectura
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านตั้งอยู่ในปลายากรันเด ซานตาครูซ ในแปซิฟิกเหนือของคอสตาริกา ที่มีอิทธิพลของสภาพอากาศแบบชายฝั่งทะเล ทำให้มีอุณหภูมิสูงร้อนแล้งมากในฤดูร้อน และภูมิอากาศผันผวนระหว่างความชื้นและฝนตกหนักในฤดูฝน จึงต้องสร้างอย่างสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ โดยบ้านวางแนวอยู่บนไซต์ยาวจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เพิ่มการระบายอากาศแบบข้ามช่องด้วยการทำช่องเปิดขนาดใหญ่ให้มีทางรับและระบายลม พร้อมใช้ประโยชน์จากร่มเงาของต้นไม้ที่มีอยู่ให้ช่วยปกป้องหลังคาจากรังสีดวงอาทิตย์โดยตรง และให้ความสดชื่นแก่บ้าน หลังคานี้ทำงานเป็น “หมวกใบใหญ่” ที่มีชายคากว้างกันฝนได้ดี

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ตัวบ้านตั้งอยู่บนคานและเสาเหล็กบนพื้นดินที่ปรับให้เข้ากับความลาดเอียงตามธรรมชาติได้อย่างละเอียด โครงสร้างเหล็กหลัก ๆ ช่วยให้บ้านมีน้ำหนักเบา ผสมกับงานไม้ในส่วนโครงหลังคาที่แข็งแรง และผนังที่สร้างด้วย “เทคนิคบาฮาเรก” ( เทคนิค wattle และ daub) ทำให้บ้านสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของบ้าน สอดคล้องกับภูมิอากาศแบบพื้นถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ

“บาฮาเรค” หรือ Bahareque เป็นเทคนิคการก่อสร้างแบบพื้นถิ่นโบราณ ซึ่งได้รับถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ระบบประกอบด้วยโครงไม้เมลินา แผ่นไม้ไผ่ (dendrocalamus Asper) นำมาปรับประยุกต์เข้ากับวิธีการสร้างบ้านใหม่ๆ โดยใช้ประกอบกับโครงสร้างเหล็กเพื่อเสริมให้บ้านมีความแข็งแรง และฉาบทับด้วยส่วนผสมของดินเหนียวที่นำมาย่ำผสม ทราย และหญ้าทรานสวาลาจากฟาร์มปศุสัตว์ในพื้นที่

หลังจากวางโครงสร้างผนังในกรอบเหล็กด้วยไม้ไผ่แล้ว ก็ทยอยนำดินที่ผสมได้ที่มีฉาบทับ ได้ผนังดินที่เรียบสวยเหมือนฉาบปูน

ไม่เฉพาะวัสดุพื้นถิ่นเท่านั้น สถาปนิกยังใช้วัสดุใหม่ ๆ รูปแบบอื่น ๆ มาใช้ในองค์ประกอบของบ้านด้วย เพื่อให้บ้านอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกและสบายขึ้น อาทิ หลังคาเมทัลชีท ผนังที่เคลื่อนย้ายได้ทำจากโลหะเจาะรูและประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อเปิดบ้านและให้บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับบริบททางธรรมชาติ รู้สึกถึงความสดชื่นป่าซึ่งมีลิงคองโก, นกแบล็คเบิร์ด, กิ้งกายักษ์อีกัวน่า และสัตว์ป่าอื่น ๆ ที่อาจแวะเวียนมาเยี่ยมในสักวัน

บ้านโครงสร้างเหล็กและไม้ กลายเป็นหนึ่งวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ สำหรับการต่อสู้กับความท้าทายในการสร้างบ้านปัจจุบัน ที่นอกจากจะต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังเกี่ยวพันถึงต้นทุนและการเข้าถึงวัสดุ ซึ่งการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นสามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างที่เห็น แถมยังออกมาเป็นบ้านร่วมสมัยที่สวยงามไม่แพ้การใช้วัสดุอื่น ๆ เลย