โรงชาไม้ไผ่วัสดุพันปีที่ยังอยู่
มนุษยชาติได้เรียนรู้มานานหลายศตวรรษในการสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อปกป้องตัวเองจากสภาพอากาศ โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสรรค์สร้าง แต่เมื่อความเจริญเริ่มคืบคลานเข้ามา วัสดุสร้างบ้านมีให้เลือกหลากหลายขึ้น บางสิ่งที่เคยมีมาก็ค่อยๆ ทยอยสูญหาย จนเราก็ลืมไปแล้วว่าในอดีตมนุษย์เคยใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไร เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” จึงขอพาไปย้อนยุคเมื่อคนท้องถิ่นยังใช้ไม้ไผ่สร้างอาคาร กับผลงานโรงน้ำชาที่ตั้งอยู่อย่างกลมกลืนท่ามกลางหุบเขาเขียวขจีกันครับ
ออกแบบ: Behet Bondzio Lin Architekten
ภาพถ่าย : YuChen Chao Photography
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
โรงน้ำชาแห่งนี้ สร้างอยู่บนภูเขาที่ระดับความสูง 700 ม. ในพื้นที่ป่าเมืองหนานโถวของไต้หวัน ซึ่งมีแนวคิดในการสื่อสารเรื่องความสำคัญของการปรับตัวของวัสดุ ความยั่งยืน กับกระบวนการออกแบบโครงสร้างขนาดเล็ก ที่ใช้กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับโลกสมัยใหม่ โดยใช้ต้นไผ่ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในเอเชียใต้มานานนับพันปีเป็นวัสดุหลัก
ระหว่างการก่อสร้าง ขึ้นโครงด้วยไม้ไผ่ลำใหญ่ที่สามารถดัดโค้งได้
ไม้ไผ่เป็นพืชโตเร็ว สามารถสูงได้ถึง 6 เมตรภายในหนึ่งปี ลำต้นที่เพรียวบางแต่มีความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น จึงสามารถดัดให้โค้งงอได้อย่างมาก เพื่อลดแรงต้านลม ทนต่อความรุนแรงเช่นในช่วงพายุไต้ฝุ่น และสามารถผ่าครึ่งเพื่อสร้างชั้นกระเบื้องหลังคาตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องอาคารโรงน้ำชาจากน้ำและแสงแดด ข้อต่อทั้งหมดผูกด้วยเชือกโลหะธรรมดา ช่วยลดกระบวนการก่อสร้างและประกอบให้เหลือไม่ถึงหนึ่งเดือน
ความยั่งยืน เป็นหนึ่งหัวใจสำคัญของการออกแบบของ Clear Water Tea House โดย Behet Bondzio Lin Architekten สถาปนิกจากประเทศเยอรมนีและไต้หวัน นำคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของไผ่มาใช้ แต่ไม่ได้หยิบมาประกอบเข้าด้วยกันเลย ต้องมีกระบวนการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อลดข้อจำกัดของไม้ไผ่ เช่น การนำไผ่ไปรมควันด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมเพื่อให้ไม้และต้านทานปลวก ช่วยยืดอายุการใช้งานของไผ่ในฐานะวัสดุก่อสร้างเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี สิ่งนี้ส่งผลให้กระบวนการก่อสร้างมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำในระดับที่น่าพึงพอใจ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญสำหรับสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
การออกแบบโรงน้ำชาได้รับแรงผลักดันจากความมุ่งมั่นของสถาปนิก ที่จะให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมคุณค่าของคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ในขณะที่เข้าใจถึงความเปราะบางไปพร้อมกัน พร้อมกับแสดงให้เห็นด้วยตาว่าเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับธรรมชาติ ปกป้องธรรมชาติ และพัฒนาวิถีที่เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมได้อย่างไร ผ่านวัสดุที่ได้มาจากบริเวณโดยรอบ โดยเน้นย้ำถึงความเรียบง่ายของการดื่มชาและการดื่มด่ำกับธรรมชาติ
พื้นที่นี้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับวิวและแสงแดดที่กรองแล้ว เสียงลม ฝน และแม่น้ำที่อยู่ใกล้เคียง นอกเหนือจากการมาบริโภคชาร้อนๆ แล้ว พิธีชงชายังมีความสำคัญในครอบครัวและการพบปะทางสังคมของชาวจีนด้วย การได้ชื่นชมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบชาแต่ะชนิด ก็ช่วยย้ำเตือนถึงคุณค่าที่แท้จริงของธรรมชาติเช่นกัน
แปลนอาคาร
