รีโนเวทบ้านเก่า ให้กลายเป็นบ้านเรา
“ถ้าผนังพูดได้ มันก็คงจะบอกวิธีลดค่าใช้จ่ายให้เรา” นี่เป็นคำพูดลอย ๆ ที่โพล่งขึ้นมากลางวงสนทนาระหว่างเจ้าของบ้านและสถาปนิก ที่สามารถจุดประกายความคิดและวิธีการในการรีโนเวทบ้านเก่าปี 1930’s ที่ประหยัดและตอบรับกับความต้องการของเจ้าของบ้านและลดค่าใช้ง่ายเรื่องงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไปได้ ด้วยความเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่อยากตระเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับลูกน้อย การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านเก่าหลังนี้จึงได้เกิดขึ้น และความพิเศษของบ้านหลังนี้ไม่ได้มีดีเฉพาะในเรื่องของรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากับการออกแบบ แต่เป็นเรื่องของความถูกจริตที่มันตรงใจกับผู้อยู่อาศัยซะจริงๆ
ออกแบบ : Fredman White
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คุณพ่อมือใหม่ได้เล่าให้ทีมสถาปนิกจาก Fredman White ฟังว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1930 และรกร้างขาดการใช้งาน จนในปี 1970 บ้านหลังนี้ได้มีผู้อาศัยอีกครั้ง จนกระทั่งในยุค 2000 ที่เขาได้มารับช่วงต่อดูแลบ้านหลังนี้ ด้วยเวลาที่ยาวนานกว่า 80 ปี บ้านหลังนี้ก็คล้ายคนแก่ชรา เพราะวัสดุที่เป็นของเดิมอย่างอิฐและโครงสร้างของบ้านเก่า ทำให้ความแข็งแรงคงทนรวมไปถึงการตอบโจทย์เรื่องการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ได้สอดคล้องกัน ซึ่งถ้าหากมีการเปลี่ยนคงจะต้องกุมขมับด้วยตัวเลขที่มากับค่าใช้จ่าย สถาปนิกจึงเลือกที่จะปรับฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านเป็นลำดับแรก โดยเน้นให้เกิดความโล่งจากภายนอก ออกแบบให้รูปทรงของบ้านเป็นแบบ Modern Tropical ด้วยหลังคาทรงปั้นหยาที่สามารถรับกับสภาพอากาศทั้งลงและฝนได้ดี อีกทั้งยังได้มิติของเส้นสายและลายศิลป์จากผนังอิฐอีกด้วย
ผนังอิฐสีเทาที่แสดงออกถึงความอบอุ่นและลุ่มลึกนี้ คือความลับดีๆของการลดค่าใช้จ่ายของบ้าน เนื่องจากเป็นผนังเดิมเพียงแต่มีการปรับโฉมและทาสีใหม่ ร่องรอยของฝุ่นและความด่างดำที่มากับอิฐก้อนเก่าไม่ได้หายไปไหน ยังคงแสดงตัวตนอย่างชัดเจนและให้ความงามที่แตกต่างไปได้อีกด้วย
นอกจากนั้นสถาปนิกปรับผังบ้านใหม่ โดยเน้นที่จะ เปิดและเชื่อม ทุกๆส่วนในบ้านให้สมดุลและลื่นไหลได้มากที่สุด มองเห็นได้จากทั้งภายนอกและภายในที่ใช้พื้นไม้เรียงอย่างราบไปในแนวเดียวกัน สร้างการเชื่อมต่อจากเส้นสายจากภายในสู่ภายนอก นอกจากนั้นยังเลือกที่จะไม่ปิดกั้นส่วนของแต่ละห้องด้วยผนัง ประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ถูกใช้ให้มาทำหน้าที่เปิดและเชื่อม โดยภายในใช้ผนังขาวและพื้นไม้ เรียบอบอุ่นและสว่าง นอกจากนั้นยังประหยัดงบประมาณด้วยการใช้ผ้าม่านโปร่งแสงในโทนสีอ่อนเพื่อปรับบรรยากาศและการใช้งานของแต่ละห้องได้อีกด้วย
นอกเหนือจากอิฐที่เป็นวัสดุจากบ้านเก่าแล้ว ตัวโครงสร้างอย่างผนังบางส่วนก็ยังรักษาไว้ สถาปนิกเลือกตกแต่งแทนที่จะทำลาย ทั้งขอบคิ้วและเหลี่ยมมุมต่าง ๆ ก็ช่วยกระตุ้นความจัดจ้านของการออกแบบขึ้นมาได้ เพดานที่สูงไม่ได้ออกแบบไว้เพื่อรองรับการต่อเติมชั้นสอง แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งภายในบ้านให้มากที่สุด สถาปนิกจัดวางตำแหน่งของหน้าต่างให้สัมพันธ์กับทิศทางของแสงแดดให้มากที่สุด ทำให้มุมพักผ่อนของบ้านปลอดโปร่งตลอดวัน อีกทั้งยังไม่เลือกวางเฟอร์นิเจอร์แบบตายตัวและเน้นให้เป็นพื้นที๋โล่ง โดยในส่วนนี้ทีมออกแบบให้ชื่อว่า rumpus room หรือห้องที่มีความอึกทึกคึกคัก ซึ่งไม่มีการกำหนดการใช้งานตายตัวและเน้นให้เกิดความยืดหยุ่นของฟังก์ชั่นมากที่สุดจึงทำให้จะนอนอ่านหนังสือหรือนั่งเล่นกับลูกน้อย จะปล่อยให้เด็กวิ่งเล่นหรือนอนเอกเขนกในวันหยุดก็ทำได้
นอกจากการวางหน้าต่างในตำแหน่งที่เกิดประสิทธิภาพในการรับแสงมากที่สุดแล้ว เหตุผลอีกอย่างหนึ่งของการจัดวางหน้าต่างด้วยรูปแบบที่ไม่ตายตัวนี้ ยังช่วยให้ภายในบ้านเกิดมิติของแสงเงาที่ไม่สว่างและไม่ทึบจนเกินไป และในวันที่แดดแรง ผ้าม่านเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดทอนความร้อนและไอแดดภายในบ้านได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งการตกแต่งบ้านด้วยสีโทนอ่อนสว่างทำให้โปร่งและมีความละมุนอบอุ่น การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นให้เกิดการใช้งานอย่างอิสระ สร้างพื้นที่ให้กับลูกน้อยได้วิ่งเล่นและระบายจินตาการได้อย่างเต็มที่
ไม่มีกฎเกณฑ์ใดกำหนดตายตัวในเรื่องของรสนิยม บ้างว่าสวย บ้างว่าขี้เหร่ สำหรับบ้านแล้ว ความสวยงามถือเป็นหน้าตาของผู้อยู่อาศัย จึงทำให้หลาย ๆ คนมุ่งเน้นในเรื่องของความงามมากกว่าการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือความเหมาะสมกับบริบทสภาพแวดล้อม ซึ่งจริง ๆ แล้ว คุณค่าของความงามนั้นไม่ได้ถูกกำหนดจากสายตาของคนภายนอก แต่ควรจะออกมาจากความชอบและชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยซะมากกว่า เพราะไม่ว่าบ้านจะสวยแค่ไหน แต่ถ้าไม่ถูกจริตกับไลฟ์สไตล์ก็คงอยู่ไม่สบายเท่าไร ชาว banidea คิดเหมือนกันมั้ยคะ?
แบบแปลน
