ต่อเติมชานบ้าน
บ้านปัจจุบันไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะตัวอาคารกันแล้วนะครับ เพราะที่ว่างที่มีในบ้านก็สำคัญ ลองนึกภาพบ้านที่มีแต่ขอบเขตผนังเต็มทั้งสี่ด้าน มองไปทางไหนก็เจอแต่ผืนคอนกรีตคงอึดอัดน่าดูทีเดียว ถ้าเพียงแต่ผนัง 1 ด้านมีช่องเปิด และมีพื้นที่ใช้งานกลางแจ้ง บรรยากาศของบ้านที่ทึมทึบจะเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นบ้านที่ดูมีชีวิตชีวา มีแสง มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรรมกลางท้องฟ้า คนในบ้านก็จะได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วย เหมือนอย่างบ้านหลังนี้ที่เราจะไปชมกันครับ
ออกแบบ : buck and simple
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
บ้านหลังนี้เป็นส่วนต่อเติมบ้านเดิม ที่สวนกระแสบ้านยุคใหม่ซึ่งนิยมสร้างรูปแบบของความทันสมัย แต่ที่นี่เลือกที่จะถอยกลับสู่ยุค mid-century modern ด้วยการใช้เส้นสายและสีที่ให้ความรู้สึกถึงรายละเอียดของความคลาสสิกที่แทรกซึมอยู่ วิธีการออกแบบของสถาปนิกนอกจากจะใส่อารมณ์เก่า ๆ ลงไปแล้ว ยังเคารพโครงสร้างที่มีอยู่ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพของบ้านตามแบบบ้านยุคใหม่ด้วยการจัดวางความร่วมสมัย และปรับปรุงภูมิทัศน์ล้อมรอบอาคารให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มและปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัยและการเชื่อมต่อกับพื้นที่กลางแจ้งภายในบ้านริมทะเลที่สวยงาม
ชานกว้างที่ต่อเติมมาจากบ้านหลังเดิม สร้างเป็นห้องกระจกเพื่อลบเลือนขอบเขตระหว่างพื้นที่ใช้ชีวิตในอาคารและบริเวณกลางแจ้ง ให้มีความต่อเนื่องลื่นไหล ทำให้บ้านมีที่ว่างให้ผู้อยู่ได้ใช้ทำกิจกรรมกลางแจ้งสบาย ๆ
พื้นที่นั่งเล่นบนดาดฟ้า ให้สมาชิกในบ้านได้นั่งเล่น นอนเล่น มองดูท้องฟ้าท่ามกลางแสงแดดในวันที่ต้องการความอบอุ่น ที่นี่ดูเป็นส่วนตัวจากสายตาของบุคคลภายนอก เพราะมีสวนกั้นอยู่ด้านหน้าอีกชั้นหนึ่ง
ด้วยแรงบันดาลใจจากความรักการสวนของลูกค้า ที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ดึงดูดสายตา สถาปนิกจึงรวมสวนเอาไว้กับพื้นที่นั่งเล่นบนหลังคา เป็นหลังคาสีเขียว (green roof) หรือการจัดสวนบนหลังคา นอกจากสวยงามแล้ว ยังควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ป้องกันความหนาวเย็นเข้าสู่ตัวบ้านในบ้านเขตหนาว และลดความร้อนที่จะส่งผ่านมาสู่ภายในอาคารในบ้านเขตร้อน เพิ่มมุมพักผ่อน สร้างอากาศบริสุทธิ์ ช่วยกรองมลพิษ และลดเสียงรบกวนจากภายนอก
ขั้นตอนการวางแผนสร้างอาคารหลังนี้คือ การย้ายที่อยู่อาศัยไปที่ชั้นล่าง เพื่อสร้างกส่วนการใช้ชีวิตที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารที่เปิดผนังได้ออกไปยังลานด้านหลังที่มีขนาดกว้าง และปรับแต่งพื้นที่ส่วนตัวด้านบนเพื่อใช้ประโยชน์ผ่านหลังคาสีเขียวที่สร้างขึ้นใหม่ ผนังบ้านเลือกใช้ใช้อิฐที่มีเนื้อสีอ่อนๆ ทั้งภายในและภายนอกดูอบอุ่น เมื่อรวมเข้ากับงานไม้ที่ปูพื้นและระแนงไม้ยิ่งช่วยเสริมสร้างความใกล้ชิดธรรมชาติ ความนุ่มนวล และความต่อเนื่องกันของพื้นที่นและนอกอาคาร
การก่อสร้างมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการสร้างแบบดั้งเดิมที่เชื่อมโยงกับรายละเอียดแบบคอนเทมโพรารี่ โดยผสานกำแพงอิฐสองชั้นเข้ากับจุดรับแสงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผนังกระจกใสเต็มผนัง และช่องแสงเล็ก ๆ ตามกรอบบ้าน ตัวบ้านจึงมีทั้งความเบาบางและแข็งแรง ช่วยขับให้งานศิลปะของเจ้าของบ้านที่ติดแสดงเอาไว้เป็นจุด ๆ กลายเป็นจุดโฟกัสของแต่ละพื้นที่
จังหวะทึบสลับโปร่งของบ้านมาจากการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติที่แตกต่าง ตัวบ้านหายใจได้สะดวกเพราะได้ใช้ประโยชน์จากการจัดภูมิทัศน์ จัดสภาพแวดล้อมที่ดีในบ้าน ผ่านหลังคาสีเขียวที่ปกป้องบ้านจากความเย็นหรือจากแสงแดดที่ส่องตรง ๆ มาที่หลังคา ผนวกกับการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยช่องเปิดขนาดใหญ่ จึงเป็นการเพิ่มช่องทางรับลมและระบายความร้อนตามธรรมชาติได้ในระดับสูง
บ้านนี้ยึดหลักการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับบริบทของความคลาสสิคเข้ากับธรรมชาติ ผสมผสานความเรียบง่ายของบ้านแบบสมัยใหม่ ทำให้บ้านเชื่อมต่ออารมณ์ของยุคสมัยอย่างไม่ขัดเขินหรือแปลกแยก ทำให้การอยู่อาศัยในที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสุขกายและสบายใจ
