บ้านสามชั้นหน้าแคบลึก

ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ประสบปัญหาพื้นที่สีเขียวค่อยๆ หายไป เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนามก็เช่นเดียวกัน ในขณะที่พื้นที่สร้างบ้านก็เริ่มจำกัดจนต้องแบ่งซอยเป็นแปลงเล็ก ๆ ออกมาเป็นที่ดินหน้าแคบลึกเหมือนประเทศญี่ปุ่นไปทุกวัน ทำให้บ้านรุ่นใหม่แทบไม่มีพื้นที่พอจะใช้ประโยชน์ในการจัดสวนรอบบ้าน ความแคบของที่ดินยังทำให้รู้สึกเหมือนถูกบีบอัดอยู่ในกล่องแคบๆ การสร้างบ้านระยะหลัง ๆ จึงต้องใส่ไอเดียเพื่อตอบทุกโจทย์ปัญหาที่ว่ามานี้ เพื่อให้การอยู่อาศัยภายใต้ชายคาสบายได้แม้ในบ้านหน้าแคบลึก

ออกแบบ : Econs Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Dzmoon เป็นโครงการบ้านจัดสรรออกแบบบนที่ดินหน้าแคบลึกแถบชานเมืองดานัง ซึ่งเริ่มพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเวียดนาม บ้านหลังนี้ออกแบบมาสำหรับคู่รักหนุ่มสาวและลูก ๆ สามคน หลังจากอาศัยอยู่ที่อื่นเป็นเวลานานหลายปีก็ถึงเวลาที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยโจทย์หลัก ๆ คือ บ้านที่มีแสงแดด รับลมได้ง่าย และเงียบสงบเพื่อใช้เวลาอยู่ที่บ้าน ดังนั้นสถาปนิกจึงพยายามลบข้อจำกัดของบ้านที่เปิดช่องว่างด้านข้างไม่ได้ โดยการเพิ่มช่องแสงช่องลมด้านหน้า ด้านหลัง และภายในแทน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่าแต่ละช่วงของอาคารจะขยับลึกเข้ามีเหมือนลักษณะของขั้นบันได ทำให้เกิดพื้นที่ว่างที่จะเปิดรับแสงและทิวทัศน์ด้านหน้าเพิ่มขึ้น ในชั้นล่างสุดจากประตูรั้วหน้าบ้านเข้ามาจะเป็นที่จอดรถ และมุมนั่งเล่นชิงชาแขวนเล็ก ๆ ซึ่งสถาปนิกปลูกต้นไม้แทรกบริเวณพื้น แล้วเจาะเพดานให้เป็นวงกลมล้อมรอบต้นไม้ ให้ปลายยอดสามารถเจริญเติบโตสูงขึ้นไปจนทะลุถึงชั้น 2 บ้านที่จัดพื้นที่ว่างรองรับพอดี ทั้งสองชั้นจึงมีส่วนร่วมกับธรรมชาติได้เท่า ๆ กัน

ถัดจากที่จอดรถเข้ามาในตัวบ้าน จะเป็นส่วนใช้งานสาธารณะสำหรับครอบครัวที่ออกแบบให้เป็นห้องโถงใหญ่ ๆ แบบ open plan ไม่มีผนังแบ่งฟังก์ชันใช้งาน ประกอบด้วย พื้นที่นั่งเล่น ครัว และโต๊ะทานอาหาร สามารถมองทะลุจากด้านหน้าเห็นด้านหลัง โดยระหว่างพื้นที่สถาปนิกได้จัด pocket garden หรือสวนเล็ก ๆ เอาไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วย

ในแง่ของพื้นที่ภายใน ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งภายใน เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับบ้าน นอกจากนี้ยังเน้นการผสมสีที่ให้ความรู้สึกเป็นกลางรอบๆ บ้าน เช่น สีขาว สีเทาของวัสดุตกแต่งผนังและพื้น ที่นอกจากจะสบายตาแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิสูงและควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้อย่างมาก

ด้วยเลย์เอาต์ของพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นหนึ่งและพื้นที่สวนที่ต้องการแสงและความโปร่งโล่ง สถาปนิกจึงใช้วิธีเจาะเพดานชั้นบนออกในบางส่วนในจังหวะที่ตรงกับช่องแสง skylight เพื่อทำให้แสงเดินทางได้ดี ลดความมืดภายในบ้าน ช่วงว่างที่เกิดขึ้นในบ้านนี้ยังทำให้การไหลเวียนของอากาศภายในอาคารก็ทำได้ดีขึ้น และส่งเสริมการสื่อสารและความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน สามารถโต้ตอบกับพื้นที่อื่นๆ ในบ้านได้ด้วย

สถาปนิกผสมผสานองค์ประกอบของความเขียวขจี เพิ่มพื้นที่สวนให้แต่ละชั้นของบ้าน แม้มุมจัดสวนจะไม่ใหญ่แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้บ้านไม่ขาดธรรมชาติ เป็นการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อระหว่างบ้านและสวน ก่อให้เกิดความรู้สึกสงบสดชื่นภายใน

ตรงไหนบ้างที่ไม่มีแสง ตรงไหนบ้างที่ไม่มีสวน สำหรับบ้านที่ไร้ช่องเปิดด้านข้างและไม่มีที่ดินรอบ ๆ กลับไม่ขาดสิ่งที่ว่ามา เพราะการจัดการที่ดีทั้งการเปิดพื้นที่ภายใน แบ่งพื้นที่ใช้งานให้ต้นไม้ ลดอุปสรรคที่จะกั้นขวางแสง ให้ความสว่างตามธรรมชาติได้มีช่องทางส่องลอดเข้าไปเพิ่มความมีชีวิตชีวาภายใน

พื้นที่ว่างด้านหน้าของบ้านที่ลดหลั่นกันเข้ามาเหมือนขั้นบันได ทำให้เกิดเป็นส่วนของระเบียงและดาดฟ้า เมื่อมาประกอบกับประตูบ้านที่เป็นบานกระจกเปิดออกได้กว้าง จะทำให้การรับแสง วิว และลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านทำได้ดีขึ้น