บ้านฟาซาดไม้

บ้านเส้นสายตรงไปตรงมาของครอบครัวนี้ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะอันเขียวขจีที่มีสนามเด็กเล่น เรียงรายไปด้วยก้ามปูที่โตเต็มที่เป็นแถว ซึ่งสูงสิบถึงสิบห้าเมตรเหนือถนน บ้านจึงอาศัยข้อดีของบริบทแวดล้อมนี้ ด้วยการออกแบบเพื่อสร้างมุมมองโดยตรงจากห้องนอนใหญ่และห้องนั่งเล่นโล่ง ๆ ที่ชั้นดาดฟ้า ให้มองออกไปรับความชอุ่มที่เกิดจากร่มไม้ที่เรียงรายอยู่ในสวนสาธารณะ แต่ก็มีจุดที่ต้องปิดเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวเช่นกัน ซึ่งฟาซาดหน้าบ้านที่เป็นซี่โปร่ง ทำหน้านี้จุดนี้ได้เป็นอย่างดี

ออกแบบ : Ming Architects
ภาพถ่าย : Marc Tan
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Frame House อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มองจากภาพรวมก็เหมือนบ้านโมเดิร์นทรงกล่องทั่วไปที่ค่อนข้างปิดเป็นส่วนตัว รูปแบบเส้นตรงที่แข็งแกร่งแสดงออกมาในกรอบบ้านที่ทำจากแผ่นสีเทา สร้างโทนสีที่สว่างเล็กน้อยเติมความรู้สึกอบอุ่นด้วยฟาซาดไม้เรียงเป็นซี่ ๆ ที่ออกแบบให้สามารถเลื่อนไปมาได้ตามต้องการ เพื่อความเป็นส่วนตัวและทำหน้าที่ช่วยกรองแสง จุดนี้จะเปิดออกกว้างๆ รับลมและวิวก็ได้ตามต้องการ บ้านจึงมีความยืดหยุ่นและภายในไม่ได้มืดเหมือนภาพที่เห็นจากภายนอก

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากประตูหน้าบ้านจะมีสเต็ปทางเดินคอนกรีตค่อย ๆ ไล่ระดับเข้ามาสู่ตัวบ้าน ก่อนถึงประตูก็ต้อนรับการกลับมาด้วยสวนน้ำเล็ก ๆ และคอร์ทยาร์ดที่มีต้นไม้ปลูกสูงตระหง่านอยู่ด้านหน้า กระจายความสดชื่นจากธรรมชาติตั้งแต่ทางเข้า ส่วนเลย์เอาต์บ้านจะถูกจัดวางไว้รอบๆ ลานภายในที่เปิดโล่ง ด้วยวิธีนี้ บ้านจึงทำหน้าที่เป็นกันชนและปกป้องผู้อยู่อาศัยจากถนนสายหลัก สร้างโอเอซิสภายในพร้อมทิวทัศน์ของภูมิทัศน์อันเขียวชอุ่มและผืนน้ำ เพื่อทำให้ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยสงบลงหลังจากที่พบกับความวุ่นวายมาทั้งวัน

การตกแต่งบ้านยังคงดำเนินต่อไปในธีมสีและวัสดุเดียวกันกับภายนอก อาทิ การเลือกใช้โทนสีอ่อนสำหรับวัสดุ ผนังหินปูนบัลแกเรีย ผนังคอนกรีตโชว์ร่องรอยกริดไลน์ ผนังไม้โอ๊ค และมีบางจุดเป็นวัสดุริ้วลายหินอ่อน ให้ความรู้สึกทั้งผ่อนคลาย อบอุ่น เท่ และแฝงความหรูเล็ก ๆ สำหรับส่วนของห้องครัวและห้องทานข้าวจะโดดเด่นเป็นพิเศษกับการเจาะเพดานขึ้นไปเป็นโถงสูง วางชุดโต๊ะไม้ดีไซน์เรียบๆ ที่เข้ากันได้ดีกับผนังไม้บิลท์อิน ความเรียบเหล่านี้ขับเน้นให้โคมไฟเหล็กสีดำฟอร์มเก๋ ๆ ที่ห้อยลงมากลายเป็นจุดโฟกัสทางสายตาในทันที

ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือการจัดการแสง ที่ต้องมีเพียงพอในช่วงกลางวันโดยแทบไม่ต้องพึ่งพาแสงไฟประดิษฐ์ ซึ่งทีมงานแก้โจทย์จุดนี้ด้วยการทำประตูกระจกขนาดใหญ่ในหลายๆ จุดที่เชื่อมต่อกับลานกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ครัว ห้องทานข้าว จึงมีแสงธรรมชาติเพียงพอในตอนกลางวัน ประตูที่เปิดออกได้กว้างยังเอื้อให้อากาศร้อนสามารถระบายออกได้หลายทิศทาง บ้านจึงอยู่ในสภาวะสบายทั้งวัน

แนวคิดการออกแบบสำหรับภายใน เน้นเพื่อให้อาศัยแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ในตอนกลางวัน ผ่านลานภายในที่เป็นเหมือนจุดดักรับแสงแดด สายลม และการระบายอากาศที่อยู่ลึกเข้าไปในบ้าน และรวมธรรมชาติเข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยอย่างเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ต้น Caesalpinia ต้นเดียว ในระหว่างวันเมื่อสายลมที่พัดผ่านกิ่งก้านของต้นไม้ นอกจากจะเกิดความเย็นสบายแล้ว ยังทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวตกกระทบบนผนังที่เปลี่ยนไปตลอดทั้งวัน

บนชั้นสองจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ในส่วนของห้องนอนยังคงนำเสนอบรรยากาศของความผ่อนคลาย จากงานไม้สีอ่อนๆ ชุดเครื่องนอนสีขาว-เทา เข้าชุดกับผ้าม่าน บริเวณปลายเตียงจะตรงกับฟาซาดไม้ระแนง ที่เป็นเปลือกนอกของห้อง โดยมีประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ชั้นใน เพื่อให้เจ้าของห้องสามารถเลือกเปิดรับลมชมวิวได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่น ควัน หรือความเป็นส่วนตัว

ที่ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่สันทนาการตามอัธยาศัย อาจจะขึ้นมาเปลี่ยนบรรยากาศทานข้าว พูดคุย ชมวิวต้นไม้ที่สวนสาธารณะหน้าบ้าน หรือปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ก็พร้อมรับมือได้ตลอด เพราะจุดนี้มีครัวเล็ก ๆ เคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะทานข้าว บันเทิง พร้อมมอบประสบการณืการใช้ชีวิตที่สนุกสนานสำหรับครอบครัวในรูปแบบต่างๆ ได้ทุกวัน