ผ้าไร้กลิ่นเหม็นอับ
คุณเคยเปิดเครื่องซักผ้าหลังจากซักผ้าเสร็จแล้ว พบว่าเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับหรือเปล่า? หากเคยเจอแล้วลองปรับเปลี่ยนแก้ไขหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณเสื้อผ้าลง เปลี่ยนน้ำยาหรือผงซักฟอก เพิ่มน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอับอยู่ ก็มีความเป็นไปได้ว่าที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์นี้ อาจจะเกิดจากการมีเชื้อราในเครื่องซักผ้าก็เป็นได้ แล้วอะไรหล่ะที่เป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา วิธีแก้ปัญหามีอะไรบ้าง เนื้อหานี้ บ้านไอเดียจะพาไปค้นคำตอบด้วยกันค่ะ
ที่มา|ภาพ : nytimes
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Alessandro Gazzo จาก Emily’s Maids ซึ่งเป็นบริษัททำความสะอาดบ้านและบริการแม่บ้านในดัลลัส สหรัฐอเมริกา กล่าวไว้ว่าเครื่องซักผ้า มีความอ่อนไหวต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราเป็นพิเศษ “เพราะเป็นพื้นที่มืดและชื้นตลอดเวลา เพราะผู้ใช้งานมักจะปิดฝาเครื่องซักผ้าไว้หลังใช้งานเสร็จ” ซึ่ง Gazzo บอกอีกว่า แม้ว่าเชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ในเครื่องซักผ้าทุกประเภท แต่เครื่องซักผ้าฝาหน้ามีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เนื่องจากมียางที่ฝาซึ่งเชื้อราใช้เป็นแหล่งอาหาร (เชื้อราสามารถกินผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เช่นกัน)
แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าในเครื่องซักผ้าฝาหน้าแต่เชื้อราดำก็สามารถเติบโตได้ในเครื่องซักผ้าฝาบนเช่นกัน หากห้องซักรีดของคุณมีการระบายอากาศไม่ดี หรือคุสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น หรือหากคุณลืมปล่อยเสื้อผ้าเปียกค้างไว้ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน เสื้อผ้าจะมีกลิ่นเหม็นอับของเชื้อราแล้วก็ยากที่จะกำจัดออกได้
เพราะฉะนั้นอันดับแรก จึงต้องกำจัดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับก่อน โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อรา
- ขั้นตอนนี้ง่ายที่สุด แต่หลายคนอาจคิดไม่ถึง นั่นคือ อย่าปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ การเปิดฝาหรือประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้หลังการซักผ้าทุกครั้ง จะช่วยให้ความชื้นคงค้างระบายออกไป รอสองสามชั่วโมง หรือใช้ผ้าแห้งเช็ดตามขอบให้แน่ใจว่าแห้งดีก่อนที่จะปิดประตู
- ตากเสื้อผ้าที่ซักเสร็จทันทีที่เครื่องส่งสัญญาณเตือน เพราะการทิ้งผ้าในเครื่องแม้จะแค่ชั่วโมงเดียวก็นานเกินไปแล้ว การปล่อยให้เสื้อผ้าเปียกอับอยู่ในพื้นที่ปิดที่อบอุ่นจะยิ่งทำให้ผ้าชื้น ข้อนี้เรายืนยันได้ จากประสบการณ์ลืมผ้าทิ้งไว้ในเครื่อง 1-2 ชั่วโมง เสื้อผ้ามีกลิ่นอับจริงๆ และต้องซักใหม่อีกรอบ
- กำจัดเชื้อราออกจากเครื่องซักผ้า โดยการตั้งค่าโปรแกรมสำหรับปริมาณผ้าปริมาณมากและใช้โปรแกรมน้ำร้อน ใส่น้ำยาฟอกขาว (ไฮเตอร์ก็ได้) หนึ่งถ้วย เปิดเครื่องให้ปั่นไปจนครบเวลา ขั้นตอนต่อไปใช้เพียงน้ำร้อนกับน้ำส้มสายชูกลั่น 2 ถ้วยตวงแล้วกดให้เครื่องทำงานจนจบ น้ำส้มสายชูนอกจากจะใช้เพื่อขจัดกลิ่นแล้ว ยังช่วยลดปริมาณผงซักฟอกที่ตกค้างที่เกาะถังซักอีกด้วย ซึ่งการลดปริมาณการสะสมของผงซักฟอกจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดราได้ ขั้นตอนสุดท้าย ใช้โปรแกรมน้ำร้อน (โดยไม่มีผลิตภัณฑ์ใดๆ เพิ่มเติม) เพื่อขจัดคราบสารฟอกขาวที่ตกค้าง ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนกว่าจะไม่มีกลิ่นเหลืออยู่
- ทำความสะอาดถังซักในเครื่องซักผ้าเป็นประจำ เพื่อขจัดสิ่งตกค้างที่กระตุ้นให้เกิดเชื้อราเจริญเติบโต โดยทำความสะอาดรอบๆ ฝาหรือประตูและซีลด้วยน้ำอุ่น และสารฟอกขาวอัตราส่วน 10:1 (สวมถุงมือยางด้วยเพื่อป้องกันมือ) จุ่มผ้าลงในส่วนผสมแล้วเช็ดอย่างระมัดระวัง ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
ทำซ้ำขั้นตอนทุก ๆ สองสามเดือนหรือตามความจำเป็น เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อรากลับมา กลิ่นอับที่ติดบนเสื้อผ้าก็จะจางหายไปตลอดกาล เมื่อเสื้อผ้าไร้กลิ่นอับ แน่นอนว่าความมั่นใจในยามสวมใส่ย่อมมีมากกว่าเดิม
