เมนู

หมดกังวลช่างฉาบผนังร้าว จบงานสวยด้วย 5 วัสดุกรุผิวน้ำหนักเบา

วัสดุกรุผิว น้ำหนักเบา

ปิดรอยร้าวผิวผนังด้วยวัสดุผนังเบา

สำหรับคนที่ชอบความเนี๊ยบสมบูรณ์แบบ ย่อมมีความคาดหวังว่าทุกจุดของบ้านจะเรียบเนียนไม่มีร่องรอย แต่เมื่อไหร่ที่เงยหน้ามองผนังนอกบ้านแล้วพบรอยร้าวเป็นทางยาว ก็เหมือนเห็นรอยแผลเป็นบนผิวหน้าที่รบกวนสายตาในทุกครั้งที่มอง ซึ่งรอยร้าวบนผนังนี้สามารถเกิดได้เป็นปกติ ทั้งในบ้านที่สร้างนานแล้วและบ้านสร้างใหม่ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกระบวนการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน การผสมปูนผิดสัดส่วน หรือช่างฉาบปูนไม่มีความชำนาญพอ แม้ร่องรอยเหล่านี้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อโครงสร้าง แต่ก็ยังมีผลต่อความสวยงามในภาพรวมของบ้านที่รบกวนจิตใจผู้เป็นเจ้าของอยู่ดี เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” ขอแนะนำการปกปิดรอยร้าวบนผนังด้วยผนังตกแต่งที่ทำสำเร็จรูปมาจากโรงงาน ช่วยให้จบงานผนังได้แบบไม่ปวดหัว เน้นคัดสรรมาเฉพาะวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เพื่อบ้านสวยแบบชัวร์ ๆ ถึง 5 วัสดุด้วยกันครับ

สนับสนุนโดย :BlueScope Thailand

ผนังเมทัลชีท

ภาพประกอบ : Baker Drofenik

1. เส้นสายผนังเรียบเนียนด้วยเมทัลชีท

เริ่มต้นด้วยการมองหาวัสดุที่ใกล้ตัวที่สุดกันก่อนอย่าง แผ่นโลหะรีดลอนหรือแผ่นเมทัลชีท (Metal Sheet) วัสดุนี้ทำจากแผ่นเหล็กเคลือบโลหะผสมอะลูมิเนียมและสังกะสีและนำมาเคลือบสี  โดยคุณสมบัติของเมทัลชีทมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อรอยขีดข่วน ทนต่อการเป็นสนิม มีน้ำหนักเบา มีหลายรูปแบบลอนและสีให้เลือกมากมาย ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ สามารถตัดตามขนาดและความยาวที่ต้องการได้ทำให้รอยต่อน้อย ทำให้ผนังดูสวยงาม รอยต่อน้อย และไม่ค่อยมีปัญหาน้ำรั่วซึม

แผ่นเมทัลชีทสามารถติดได้ทั้งบนพื้นระนาบ พื้นที่โค้ง ติดในแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ โดยที่ตัวบ้านเดิมไม่ต้องรับน้ำหนักวัสดุมาก สามารถนำไปกรุแผ่นเมทัลชีททับผนังเดิมก็เสมือนเป็นปราการปกป้องบ้านอีกชั้น ป้องกันความร้อน หรือติดตั้งเป็นแบบ แซนวิทพาแนลที่มาพร้อมฉนวนกันความร้อน สามารถเป็นผนังได้เลย  ทำให้บ้านเปลี่ยนรูปลักษณ์และอารมณ์ให้ทันสมัยขึ้นในทันที

ผนังเมทัลชีท

ภาพประกอบ : Assemble Building

  • เมทัลชีทลอนสำหรับผนังทั่วไป ความกว้างแผ่นผนังเหล็กมาตรฐานตั้งแต่ 30- 86 เซนติเมตร หรือ 300 – 860 มิลลิเมตร น้ำหนักตั้งแต่ 3 – 4 กิโลกรัม/ตารางเมตร
  • ราคาของเมทัลชีทนั้นมีหลายราคาขึ้นอยู่กับเกรดวัสดุ รูปแบบ ความยาว สี ความหนาของแผ่น ความหนาของชั้นเคลือบ รูปแบบลอน มีฉนวนพียู หรือแบบแซนวิทพาแนล โดยปกติแล้วจะเฉลี่ยตารางเมตรละ 150-750 บาท แต่จะประหยัดในส่วนค่าแรงและค่าทำสี เพราะเมทัลชีทเป็นวัสดุที่ผลิตสำเร็จรูปติดตั้งง่าย ไม่ต้องทำสีเพิ่ม

2. ผนังลายหินด้วยแผ่นวีเนียร์หิน

การตกแต่งบ้านด้วยลวดลายหินในอดีต จำเป็นต้องใช้แผ่นหินหนา ซึ่งมาพร้อมกับน้ำหนักที่มาก ส่งผลให้งานโครงสร้างต้องแบกรับภาระสูง ทั้งยังติดตั้งยากและกังวลเรื่องความปลอดภัย ปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างได้คิดค้นแผ่นหินวีเนียร์ซึ่งมีความบางเพียง 1-3 มิลลิเมตร จึงให้น้ำหนักที่เบามาก ช่วยให้งานตกแต่งบ้านด้วยงานหิน ไม่หินอีกต่อไป ติดตั้งง่ายและปลอดภัยมากครับ

stone surface veneer

ติดตั้ง Stone Surface

ภาพประกอบ : Mat Dept

หินวีเนียร์เป็นเทคโนโลยีพิเศษที่มีหน้าสัมผัสจากหินแท้ 100% จึงได้ผิวสัมผัสที่เหมือนหินจริงทุกอย่าง สามารถติดตั้งได้ทุกพื้นผิว ทั้งภายในและภายนออก รวมทั้งดัดโค้งได้ มีให้เลือกหลากหลายลวดลายหิน ทนต่อสภาพอากาศได้ดีเพียงแค่ติดแผ่นบาง ๆ นี้ก็ไม่เห็นรอยร้าวบนผนังอีกต่อไป

  • แผ่นวีเนียร์สามารถตัดแบ่งแผ่นได้ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือช่างทั่วไป อาทิ เลื่อยวงเดือน หินเจียรไฟฟ้า(ลูกหมู) เป็นต้นแม้จะบริเวณซอกมุมแคบๆ หรือผนังสูงๆ ก็ทำได้ สามารถติดตั้งได้ง่ายด้วยกาวโพลียูรีเทนด้านหลัง แต่ละแผ่นจะวางชิดหรือเว้นร่องได้ตามความต้องการ เนื่องจากแผ่นหินไม่ขยายตัว
  • ขนาดทั่วไปของแผ่นวีเนียร์ 610 x 1,220 มิลลิเมตร และ 1220 x 2,440 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาตั้งแต่ 1-6.5 กิโลกรัม ต่อ 1 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 600-1,000 บาท /ตร.ม.

สีพ่นลาย ผนังพ่นทราย

ภาพประกอบ : Sethachan Barnhouse เขาใหญ่

3. เพิ่ม Texture ให้ผนัง ด้วยสีพ่นลาย

หากผนังเดิมมีร่องรอยแคร็กหรือแตกลายงา การทาสีใหม่อาจปิดร่องรอยเล็ก ๆ บางจุดได้ แต่หากเป็นรอยร้าวที่เกิดจากการทำผนังผิดวิธี ไม่นานเกินปีรอยร้าวเหล่านี้ย่อมโผล่มาให้เห็นชัดขึ้นอีกครั้ง การสร้าง Texture  บนผนัง จึงเป็นอีกทางออกที่จะช่วยให้รอยร้าวเล็ก ๆ เหล่านั้น ดูแนบเนียนไปกับลวดลายใหม่ที่สร้างสรรรค์ขึนมา

สีพ่นลาย เป็นนวัตกรรมจากงานสี ที่สามารถผลิตเม็ดสีให้มีลวดลายและสีสันที่หลากหลาย เช่น ลายหินแกรนิต ลายคลื่นทราย ลายน้ำไหลริน ลวดลายเหล่านี้สร้างสรรค์ผ่านการพ่นลงผนัง พ่นได้ทั้งผนังกระเบื้อง, กระจก, ไม้, คอนกรีต รวมทั้งผนังปูนฉาบทั่วไป ด้วยลักษณะของสีที่ให้ผิวสัมผัสไม่เรียบอยู่แล้ว รอยร้าวเล็ก ๆ บนผนัง จึงดูแนบเนียนจนมองไม่เห็นอีกต่อไป ผนังพ่นลายมีคุณสมบัติในการยึดเกาะได้ยาวนานเสมือนกับสีทาบ้านทั่วไป จึงทนแดด ทนฝน ความยืดหยุ่นสูงไม่เป็นรอยแครก สามารถปิดทับรอยร้าวเล็ก ๆ ปกปิดงานที่ฉาบเป็นคลื่นไม่เรียบได้ดี วิธีการทำก็ไม่ยากเพียงอุดซ่อมรอยร้าวแล้วเช็ดล้างทำความสะอาดพื้นผิวให้แห้ง จากนั้นลงสีรองพื้น รอแห้งแล้วจึงพ่นสีลายหินลงไป หลังจากแห้งก็ทาทับด้วยยูรีเทนอีกรอบ เท่านี้ก็บอกลารอยร้าวบนผนัง พร้อม ๆ กับให้เสน่ห์แบบลายหินในราคาที่ประหยัดกว่า

  • ส่วนผสมผนังพ่นลายหินมีส่วนประกอบของน้ำ ทำให้วัสดุมีน้ำหนักเบาบางแบรนด์ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ต่อ 1 ตารางเมตร ช่วยลดปัญหาเรื่องอาคารทรุดตัวได้ดี
  • สำหรับค่าใช้จ่ายก็แตกต่างกันไป บางแบรนด์จำหน่ายเป็นชุด ราคาชุดละประมาณ 1,700 บาท สามารถพ่นได้ประมาณ 4-7 ตร.ม. บางแบรนด์คิดค่าผลิตภัณฑ์รวมค่าแรง เริ่มต้นที่ 400-600บาท/ตารางเมตร เป็นต้น

ผนังไม้สน

ภาพประกอบ : Four Square Builders

4. สวยคลาสสิคด้วยผนังไม้สังเคราะห์

บ้านไทยในอดีตนิยมทำผนังด้วยไม้ ช่วยให้บ้านดูอบอุ่นละมุนตา ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ หากเทียบไม้กับอิฐปูนแล้ว ไม้มีน้ำหนักเบากว่ากันมาก บ้านไทยในอดีตจึงนิยมออกแบบให้ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูน ส่วนชั้นบนใช้ผนังไม้ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานโครงสร้างได้ดีครับ

ปัจจุบันไม้จริงหายากและมีราคาสูง ผู้ใช้สามารถนำไม้สังเคราะห์หรือไม้เทียมชนิดต่าง ๆ มาประยุกต์ได้ โดยมีให้เลือกทั้งไวนิล, ไฟเบอร์ซีเมนต์, WPC วัสดุเหล่านี้มีคุณสมบัติความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแดดจัด ฝน และความชื้น ง่ายต่อการดูแล ไม้ไม่ผุ ปลวกไม่กิน สามารถติดตั้งบนผนังที่มีปัญหาความชื้น, ปูนที่เสื่อมสภาพของเสา, ผนังแตกร้าวจากโครงสร้างได้ดี มีอัตราการยืด-หดตัวต่ำกว่าไม้ มีขนาดเป็นมาตรฐานสะดวกในการตัดแต่งใช้งาน

  • สำหรับการติดตั้งทำได้ง่าย เพียงยึดแผ่นไม้บนโครงเคร่า หรือบางรุ่นจะมีระบบยึดสกรูลิ้นไม้ล็อค ทั้งนี้ไม้สังเคราะห์ยังมีให้เลือกหลายสี หลายลาย มีทั้งแบบแผ่นเรียบ แบบไม้ระแนง แบบมีบังใบ แบบมี Texture หน้าตัดมีความตื้นลึกในแผ่นเดียว เลือกใช้ได้ตาม concept ของบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องติดทั้งผืนผนังอาจติดตั้งเฉพาะส่วนที่เป็นปัญหาได้
  • น้ำหนักวัสดุชนิดนี้ค่อนข้างมากกว่าวัสดุอื่นๆ ตัวอย่าง ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ขนาด 30×3.00×2.5 ซม. น้ำหนักต่อแผ่นระหว่าง 20.8-23.8 กก. (แล้วแต่รุ่น) จำนวนแผ่น 1.11 แผ่น/ตร.ม
  • ราคาตั้งแต่ 500 บาท-2,500 บาท/ตร.ม. ขึ้นอยู่กับชนิดและรุ่นนั้น ๆ

ภาพประกอบ :  Plankrich

5. อลูมิเนียมคอมโพสิต

เชื่อว่าเจ้าของบ้านหลายคนคงยังไม่รู้จักวัสดุชนิดนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าให้นึกถึงภาพเปลือกอาคารใหญ่ๆ อย่างห้างสรรพสินค้า โชว์รูม ที่นิยมปิดผิวผนังภายนอกด้วยวัสดุที่ผิวเป็นมันวาวก็คงจะพอคุ้นตา สำหรับอลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite) หรือแคลดดิ้ง (Cladding) เป็นวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่ที่อยู่ในกลุ่มโครงสร้างผนังเบา คุณสมบัติมีความทนทาน ทนความร้อนสูง ทนทุกสภาพอากาศ ไม่เป็นสนิม ตัดโค้งขึ้นรูปง่าย เหมาะมากกับงานดัดแปลงให้เข้ากับผนังแบบโค้ง ทั้งยังใช้หุ้มเสาทั้งกลมและเสาเหลี่ยมได้ด้วย แผ่นวัสดุชนิดนี้มีน้ำหนักเบา เพียง 3 – 5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ทำให้ไม่กระทบโครงสร้างบ้าน ให้รูปลักษณ์ผนังที่ทันสมัย การใช้งานยาวนาน ปัจจุบันนิยมนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับบ้านที่ต้องการลุคทันสมัยเข้ากับยุคสมาร์ทโฮม

  • โดยทั่วไปแล้วอลูมิเนียมคอมโพสิต จะมีขนาดความกว้าง 1.22 / 1.25 เมตร ความหนา 4 มม. และความยาว 2.44 เมตร
  • ราคารวมค่าวัสดุและค่าแรงติดตั้งวัสดุคุณภาพกลางๆ เริ่มที่ 2,000-2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้) ถ้าใช้แบรนด์คุณภาพสูง ราคาต่อตารางเมตรจะประมาณ 3,500-4,000 บาท ทั้งนี้เจ้าของบ้านต้องเลือกช่างที่มีผลงานและประสบการณ์สูง เนื่องจากการติดตั้งมีหลายขั้นตอนและต้องใช้ความประณีตสูง

การเลือกวัสดุมาใช้ตกแต่งผนังนั้น นอกจากความสวยงามแล้ว ควรเลือกวัสดุที่ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน เพื่อเป็นปราการป้องกันอีกชั้น ให้การอยู่อาศัยภายในบ้านสบายมากยิ่งขึ้น  อย่างเช่น เมทัลชีท บลูสโคป แซคส์® คูล  ที่มี Cool Coating Technology ช่วยสะท้อนความร้อน ลดอุณหภูมิพื้นผิวของผนังบ้านได้ดี อีกทั้งยังรูปลอนทั้งเล็ก ใหญ่ สีสันให้เลือกหลากหลาย ตอบรับกับดีไซน์ของบ้าน พร้อมการรับประกันสีไม่ซีดจาง 5 ปี และรับประกันไม่ผุจนทะลุยาวนานถึง 12 ปี

BlueScope-Zacs-Cool-Panel

รายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์ : zacsroof.nsbluescope.com  | แฟนเพจ : BlueScope Thailand

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด Advertise


โพสต์ล่าสุด