บ้านผนังอิฐแดง

บ้านที่ดี นอกจากจะดูสวยงาม มีพื้นที่ใช้สอยที่รองรับการใช้งานได้ดีแล้ว สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะละเลยไม่ได้คือ การสร้างอย่างคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศด้วย โครงการ NT’s Habitat ในประเทศเวียดนามหลังนี้ เป็นโปรเจ็คการปรับปรุงโกดังเก่าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปีของเมืองฟานเถียต ให้กลายเป็นบ้านที่น่ารักสำหรับครอบครัวสี่คน การจัดฟังก์ชันภายในเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าก่อน จากนั้นจึงสังเกตสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นเพื่อออกแบบบ้านที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพความเป็นอยู่ แต่ยังสอดคล้องกับปัจจัยภายนอกอีกด้วย

ออกแบบ : ntshabitat
ภาพถ่าย : minqbui
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

สภาพพื้นที่ก่อนทำการปรับปรุงสร้างบ้าน

บ้านเรียบ ๆ แต่อบอุ่นด้วยแผงอิฐ

บ้าน 2 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร บนพื้นที่ 5×19 เมตรนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมและกลมกลืนกับองค์ประกอบทางธรรมชาติ หลังปรับปรุงใหม่สถาปนิกใส่สิ่งที่น่าสนใจคือ ประตูรั้วที่ดูค่อนข้างปิดเป็นส่วนตัวออกจากถนนแต่มีช่องว่างแทรกให้แสงและลมเข้า ในชั้นบนด้านหน้าอาคารประกอบด้วยอิฐดินเผาฝีมือช่างในท้องถิ่นและติดตั้งอย่างระมัดระวัง ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามของโครงสร้างทั้งหมด สร้างช่องสำหรับการไหลเวียนของอากาศจากภายนอกสู่ภายใน ในขณะที่ยังสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ต้อนรับด้วยความโปร่งสว่าง

ชั้นล่างจะมีบล็อกคอนกรีตเรียงอยู่ด้านหนึ่งของผนัง และผนังกระจกใสขนาบประตูไม้บานสูงแบบ oeversize อยู่ องค์ประกอบทั้งหมดทำให้บรรยากาศหน้าบ้านเต็มไปด้วยความสว่างปลอดโปร่ง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะต้อนรับด้วยพื้นที่เปิดโล่งเป็นห้องโถงที่ใช้นั่งทำงาน จากนั้นจะลดระดับพื้นที่ลงเพื่อเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ ในการแบ่งสัดส่วนใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องมีผนังกั้น พื้นที่ต่อไปคือ ห้องครัวและสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก

โถงสูงและลายอิฐเป็นจุดโฟกัสสายตา

สถาปนิกเลือกสร้างจุดโฟกัสสายตาตรงใจกลางบ้านด้วยการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นหิน ผนังตกแต่งอิฐเป็นลายก้างปลาสีน้ำตาลแดงบนผนังสีขาว เจ้าของเป็นคนที่ไม่ชอบแอร์ ทีมงานจึงเจาะเพดานชั้นล่างเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นบนสูง 4 เมต รเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้มากที่สุด เหนือขึ้นไปใส่ช่องสกายไลท์ที่อยู่เหนือโซนทานอาหาร การมีช่องว่าง Double Space และสกายไลท์มีวัตถุประสงค์หลายประการ ประการแรก คือช่วยเพิ่มการระบายอากาศเพื่อลดความร้อนจากสภาพอากาศในท้องถิ่น ประการที่สองให้แสงธรรมชาติในตอนกลางวันเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน

ชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวรวมตัวกันมากที่สุด เนื่องจากเจ้าของทำงานที่บ้าน จึงออกแบบพื้นที่ทำงานให้มีมุมมองที่เปิดกว้างเพื่อให้ดูแลบุตรหลานได้ง่าย ใต้บันไดบิลท์แท่นไม้และห้องสมุดเล็ก ๆ อยู่ใต้บันไดที่ให้เด็ก ๆ อ่านหนังสือที่น่าสนใจหรืองีบหลับระหว่างวัน ทุกคนในบ้านจึงใช้ชีวิตในบรรยากาศสบาย ๆ ทุกวันในบ้านที่เต็มไปด้วยสภาวะสบาย

ในการก่อสร้างสถาปนิกใช้เทคนิคคอนกรีตเสริมเหล็กทั่วไปในการสร้างโครง แต่เพิ่มความสูงมากกว่าปกติเพื่อกักอากาศเย็นให้ได้มากที่สุด ผนังบางส่วนยังใช้หินทรายพ่นผนังสีขาวเป็นส่วนใหญ่เพื่อลดการดูดซึมของแสงแดดด้วย

เน้นคุณภาพชีวิตและตอบโจทย์อากาศ

สำหรับชั้นสองจะเป็นห้องนอน ได้รับการออกแบบโดยใช้หลักการ คือ ด้านนอกเป็นที่สว่างและด้านในเป็นที่มืด ซึ่งทำให้เป็นรูปธรรมด้วยการสร้างฟาซาดที่มีช่องว่างให้สามารถรับแสงได้ ส่วนด้านในที่หันหน้าเข้าในบ้านจะไม่ได้รับแสงที่สาดกระทบโดยตรงจึงมืดกว่าแต่ไม่ได้ทึบ เพราะทีมออกแบบยกระดับห้องนอนใหญ่ทำให้มีความโดดเด่นจากรอบข้าง ผ่านการใช้ประตูสไลด์ทั้งสองด้านของห้องที่ตั้งใจจะเปิดให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกสบายเมื่อพักผ่อนในห้องนอนและมีพลังงานมากขึ้นในตอนเช้า

ระบบผนัง 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นกำแพงอิฐที่เต็มไปด้วยช่องว่าง ถัดมาเป็นทางเดินเล็ก ๆ คั่นผนังกระจกบานสไลด์ที่เปิดออกได้กว้าง ทำให้บ้านมีทางเลือกในการใช้งานที่ยืดหยุ่น เงาที่ส่องลอดจากช่องว่างที่เปลี่ยนไปตามทิศทางของแสงในแต่ละวัน สร้างมิติที่ชวนให้ดึงดูดใจบนชั้นสอง