แต่งบ้านด้วยโทนสีเข้ม

เป็นที่ทราบกันดีว่า สีเข้มจะสามารถดูดซับความร้อนได้ดีกว่าสีอ่อนเสมอ นั่นเป็นเพราะสีเข้มมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ต่ำกว่าสีอ่อน เป็นผลให้รับความร้อนที่ได้จากแสงแดดเข้ามาในปริมาณที่มากกว่าสีอ่อน หากใครสังเกตความรู้สึกได้ดีจะรับรู้ได้ว่า วันไหนที่ใส่ชุดสีดำจะรู้สึกร้อนกว่าแต่งด้วยชุดโทนสีอ่อนครับ (เปรียบเทียบด้วยเนื้อผ้าชนิดเดียวกัน) หรืออาจจะลองสังเกตด้วยความรู้สึกทางตาของเรา เมื่อสายตามองไปยังวัตถุโทนสีอ่อน จะรู้สึกแสบตามากกว่ามองไปที่สีเข้ม นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติการสะท้อนแสงของสีอ่อน ทำได้ดีกว่าสีเข้มนั่นเองครับ

เมื่อพิจารณาถึงต้นเหตุของความร้อนแล้ว จะเห็นได้ว่าโทนสีไม่ได้เกี่ยวกับความร้อนโดยตรง แต่เกี่ยวกับคุณสมบัติสะท้อนความร้อนของสีนั้น ๆ และจุดนี้เองทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ของสีเบเยอร์คูล สีที่สามารถสะท้อนความร้อนได้แม้จะเป็นสีเข้มก็ตาม รู้จักกับสีเบเยอร์คูลกันครับ

สนับสนุนโดย : Beger Cool

บ้านโทนสีเข้มมีดีอย่างไร

จะว่าไปแล้วการเลือกทาสีโทนเข้มให้กับบ้าน กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยโทนสีเข้มมองแล้วทำให้เกิดความรู้สึกสบายตากว่าสีอ่อน อีกทั้งหากเกิดคราบสกปรกที่เกิดจากฝน ฝุ่น จะเป็นคราบที่มองเห็นไม่ชัด ช่วยให้การดูแลเป็นเรื่องง่าย สามารถตกแต่งร่วมกับสไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ช่วยปรับลุคบ้านให้ดูเท่ ทันสมัย จึงถูกใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่แสวงหาตัวตนที่ชัดเจนให้กับชีวิต

3 เทคนิคแต่งบ้านโทนสีเข้มอย่างไร ให้ลงตัว

1. ไล่โทนสีให้กลมกล่อม

นับเป็นตัวเลือกแบบกลาง ๆ เหมาะกับบ้านที่อยู่อาศัยร่วมกันหลาย Generation เพราะหากเลือกโทนสีเข้มเกินไปอาจไม่ถูกใจผู้สูงวัยนัก การเลือกโทนสีเข้มแบบกลมกล่อม สบับไปกับเฉดสีอ่อนจะช่วยให้บ้านแลดูอบอุ่นและเกิดมิติที่สวยงาม โดยคุณสมบัติเด่นของสีเข้มจะช่วยให้บ้านดูลึก นักออกแบบจึงนิยมเลือกทาสีเข้มตรงผนังชั้นใน จะช่วยให้บ้านดูลึกกว้างยิ่งกว่าเดิม

ผนังชั้นในสีเข้มกว่าชั้นนอก ช่วยให้บ้านดูมีมิติ

ออกแบบโดย : Punplan

ตัวอย่างการไล่โทนสีเข้ม สีเทากลาง เทาเข้ม และน้ำตาล พร้อมกับใส่จุดเด่นของงานไม้ สีเข้มจะช่วยให้งานไม้ดูโดดเด่นยิ่งกว่าเดิมและกลมกลืนไปกับผนังหินตกแต่ง

2. มืด สว่าง อย่างคอนทราส

เพิ่มความเฉียบเท่ขึ้นมาอีกนิด ด้วยการดึงศักยภาพของความเปรียบต่างระหว่างโทนสีมืดเข้ม และสีสว่าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาให้กับตัวบ้าน โดยสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับแนวทางนี้ คือ สีดำ และ สีขาว เป็นเสมือนพลังหยิน หยาง ที่ช่วยปรับบ้านให้สมดุล การตกแต่งอาจเลือกทาสลับกันแต่ละชั้น เช่น ชั้นบนสีดำ ชั้นล่างสีขาว หรือ เลือกทาตามความเหมาะสมของรูปทรงอาคาร

3. เข้มข้น ดุดัน

ปิดท้ายกันด้วยความดุดันที่น่าค้นหา กับบ้านโทนสีดำเข้มทั้งหลัง การตกแต่งบ้านแนวทางนี้เหมาะอย่างยิ่งกับงานกระจกใสและแสงไฟสีวอร์ม และจะเหมาะอย่างยิ่งกับบ้านสไตล์ Modern, Minimal ที่มุ่งเน้นการออกแบบด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย ไม่ทำให้บ้านดูเยอะจนเกินไป และเพื่อให้เกิดความลงตัว หากภายนอกสีเข้มทั้งหลังแล้ว ภายในควรปรับอารมณ์บ้านให้ดูสว่างด้วยโทนสีอ่อน จะช่วยให้เกิดความสมดุลในการอยู่อาศัยครับ

เลือกสีเข้มอย่างไร ให้คูล

อย่างที่เกริ่นนำไปข้างต้นแล้วว่า โทนสีเข้มมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนต่ำ จึงสามารถดูดซับความร้อนได้มากกว่าโทนสีอ่อน การออกแบบบ้านด้วยโทนสีเข้มจึงต้องเลือกใช้สีที่มีความเหมาะสม ด้วยนวัตกรรมใหม่ของสีเบเยอร์คูล ที่แก้ไขปัญหาสีเข้มได้อย่างถูกจุด เพราะความร้อนไม่ได้เกิดจากโทนสี แต่เกิดจากการขาดคุณสมบัติสะท้อนความร้อนของสีเข้ม เบเยอร์ จึงได้คิดค้นนวัตกรรมสี รุ่น เบเยอร์ คูล ให้มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดีแม้จะเป็นโทนสีเข้มก็ตาม โดยสามารถสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 97% พร้อมกับ 3 คุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ ดังนี้

“เกลี้ยง” ของพื้นผิวทำให้สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากถึง 97% ในเฉดสีเข้ม พร้อมด้วยความ “กลวง” ที่เปรียบเสมือนสารกันร้อนที่คล้ายฟองกาแฟ ที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ก่อนถึงตัวบ้าน และด้วยความ “กลม” ของผิวสัมผัสจึงทำให้ฟิล์มสีนั้นมีความเรียบเนียนกว่า

ด้วยคุณสมบัตินี้ เบเยอร์จึงกล้ารับประกันว่าสามารถประหยัดค่าไฟสูงถึง 30% จากการทดสอบจริง พร้อมการรับรองจากหน่วยงานรัฐบาล พร้อมได้รับมาตรฐาน มอก. 2514 มอก.ลดความร้อนรายแรก อีกทั้งยังเป็นสีรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติอีกด้วยครับ

สำหรับผู้อ่านท่านใด ที่ต้องการออกแบบบ้าน ทาสีบ้านด้วยโทนสีเข้ม เพื่อเพิ่มลุคความเท่ให้กับบ้าน แต่ไม่อยากขาดความคูล สามารถดูรายละเอียดสีเบเยอร์ คูล เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Beger.co.th ภายในเว็บไซต์มีแอปให้ผู้ใช้สามารถทดลองทาสีบ้านได้ด้วยตนเองด้วยครับ