บ้าน 4 ชั้นที่เชื่อมพื้นที่และความสัมพันธ์

ในยุคการสื่อสารไร้สาย ผู้คนเริ่มห่างไกลจากการพูดคุยกันในโลกที่เป็นจริง และเลือกวิธีการสื่อสารที่แตกต่างในโลกเสมือนจริงโดยใช้อุปกรณ์ดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ฯลฯ มากขึ้น สมาชิกครอบครัวแม้จะอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน ก็สื่อสารแบบ Face to face น้อยลง และเห็นหน้ากันได้ยินเสียงของกันและกันผ่านรูปภาพหรือวิดีโอมากขึ้น ในฐานะสถาปนิก Story Architecture จึงสงสัยว่าการออกแบบจะช่วยให้คนและบ้านเกิดการเชื่อมต่อสื่อสารที่มากขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะในบ้านที่สูงถึง 4 ชั้น ซึ่งทีมงานก็สามารถแก้โจทย์นั้นได้ออกมาเป็นแบบบ้านที่เปิดเชื่อมต่อกันทุกชั้นในบ้านที่มีชื่อโปรเจกต์ว่า Connect House

ออกแบบ : Story Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านตึกที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ชั้น 1-4

อาคารสูง 4 ชั้น หลังนี้สร้างในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม หน้าที่ดินค่อนข้างแคบ ทำให้สถาปนิกต้องเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในแนวตั้ง เพื่อตอบความต้องการใช้งานของครอบครัวให้ครบถ้วนทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่โรงจอดรถไปจนถึง สวน และดาดฟ้า ทีมงานออกแบบด้านหน้าให้รวมธรรมชาติเข้ากับบ้านอย่างแนบสนิทด้วยการเว้นพื้นที่ว่างข้างระเบียงบนชั้น 2 ให้เป็นช่องสูงขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้า แล้วปลูกต้นไม้ทรงต้นสูงซึ่งสามารถมองเห็นได้จากชั้น 2 และชั้น 3 จากภายนอกจะเห็นการแบ่งชั้นอย่างชัดเจน ส่วนภายในจะเป็นอย่างไรต้องตามไปชมกันครับ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

เคยเห็นบ้านที่มองจากชั้น 1 ขึ้นไปเห็นถึงชั้น 4 ไหมครับ เราเชื่อว่าบ้านรุ่นเก่า ๆ น้อยหลังมากที่จะสร้างที่ว่างภายในให้บ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด เพราะตึกแถวหรือบ้านสูงหลาย ๆ ชั้นส่วนใหญ่จะปิดเพดานแบ่งกั้นระหว่างชั้นจนเต็มพื้นที่ เว้นเฉพาะช่วงบันได ซึ่งข้อดีคือความเป็นส่วนตัวที่เป็นสัดส่วน แต่ข้อเสียคือขาดความต่อเนื่องทั้งในแง่ของแสง การระบายอากาศ พื้นที่ และการปฏิสัมพันธ์ของผู้ที่อาศัยอยู่ระหว่างชั้น สถาปนิกเข้าใจในข้อด้อยเหล่านี้ดี จึงแก้ปัญหาการจัดพื้นที่ภายในด้วยการลดพื้นที่เพดานและพื้นลง ใส่ช่องว่างเป็นโถงสูงขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อพื้นที่ในแนวตั้งที่มองจากชั้นล่างขึ้นไปเห็นถึงชั้นบนสุด

บ้านโถงสูงที่สื่อสารกันได้ทุกชั้น

การเจาะโถงสูงติดต่อกันถึง 4 ชั้นนี้ ดูเผิน ๆ เหมือนการเสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ในความเป็นจริงแล้วความว่างนี้นำมาซึ่งคุณประโยชน์ในอาคารมากกว่าที่คิด เพราะอากาศสามารถไหลเวียนจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูงได้ง่ายขึ้น แสงธรรมชาติก็สามารถลอดส่องผ่านตัวบ้านให้ความสว่างได้ทั่วถึง ภายในบ้านจึงไม่อับทึบเหมือนบ้านตึกแบบเดิม ๆ และยังเหลือพื้นที่รอบ ๆ ช่องว่างทำเป็นชั้นลอยแบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่ใช้สอยในฟังก์ชันต่าง ๆ ซึ่งจะกั้นด้วยวัสดุกระจกใส จึงเสมือนไร้ปราการสร้างการสื่อสารระหว่างชั้นให้ไหลลื่นทำให้สามารถมองเห็นกันได้ทุกชั้น

ภาพจำลองภายในอาคาร ที่นักออกแบบพยายามสร้างสเปซสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างชั้นทั้ง 4 ชั้น

ใน Connect house สถาปนิกต้องการผลักดันให้สมาชิกในบ้านสานสัมพันธ์ผ่านการติดต่อพูดคุยในชีวิตประจำวันในพื้นที่ส่วนรวมชั้นล่าง นอกจากเชื่อมต่อระหว่างคนกับคนแล้ว ยังเชื่อมต่อคนกับธรรมชาติโดยสอดแทรกต้นไม้ pocket garden เข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน และยังสร้างการสื่อสารภายใน ผ่านพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวสำหรับใช้เวลาอยู่กับตัวเองที่สงบเงียบในหลาย ๆ จุดของบ้าน

เส้นสายของแสงเงา

สิ่งที่โดดเด่นอีกจุดหนึ่งของบ้านไม่ได้มีเพียงการจัดพื้นที่สื่อสารเท่านั้น แต่ยังมีการนำเส้นสายเรขาคณิตเส้นตรง เฉียง วงกลม มาสร้างความน่าสนใจ เท่านี้ยังไม่พอทีมงานใส่ลูกเล่นจังหวะของการจัดแสงเงาที่ทำให้ตัวบ้านมีอะไรสนุกขึ้น ซึ่งสถาปนิกเลือกตำแหน่งช่องแสงทั้งผนังด้านข้างและ Skylight รับแสงจากบนหลังคาเข้าสู่ตัวบ้านจากด้านบน พร้อมทั้งคำนวณทิศทางที่แสงจะเดินทางในแต่ละช่วงของวันผ่านคานคอนกรีตบนหลังคาและราวบันได ซึ่งทำให้ผนังและพื้นบ้านเกิดเงาเป็นเส้นสายที่เพิ่มมิติทางสายตาที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

ในยามที่ต้องการการพักผ่อนอย่างสงบ ปลดปล่อยร่างกายจากความวุ่นวายที่พันธนาการมาทั้งวัน ก็อาจจะไม่ได้ต้องการอะไรที่มากไปกว่าฟูกนอนสบาย ๆ สักหลังในห้องโล่ง ๆ แวดล้อมไปด้วยสัมผัสอบอุ่นจากงานไม้ เพียงเท่านี้ก็หลับตาอย่างสุขใจได้ตลอดทั้งคืน