เมนู

บ้านทรงกระถาง สดชื่นได้ แม้อยู่ในวงล้อมคอนกรีต

บ้านคอนกรีตทรงกระถาง

คอร์ทตรงกลาง ล้อมด้วยผนังกระจก

ช่วงนี้ต้องบอกว่าสถาปัตยกรรมในเวียดนามกำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก นั่นเป็นเพราะการปรับเปลี่ยนมุมมองต่ออาคารที่กล้าจะแตกต่างมากขึ้น โดยที่ยังคงตัวตนคนเวียดนามและความสอดคล้องกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เนื้อหานี้จะพาไปชมบ้านหลังหนึ่งในเมืองไฮฟอง (อยู่ห่างจากฮานอย 125 กม.) ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของภาคเหนือ ในขณะที่เจ้าของบ้านต้องการการเชื่อมต่อบ้านกับธรรมชาติ สภาวะสบายภายในอย่างเป็นส่วนตัวและยั่งยืน จึงเป็นหน้าที่ของสถาปนิกว่าจะใช้กลวิธีไหนที่จะแก้ทุกโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ออกแบบ : HGAA
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์นล้อมธรรมชาติ

โครงการบ้านนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองแปลงหัวมุมที่มีขนาด 14 x 20 เมตร ต้นไม้หนาแน่นพอสมควร สถาปนิกต้องการสร้างบ้านที่เข้าเกณฑ์ 2 ประการคือ ประการแรก “การเชื่อมต่อ” พื้นที่กับธรรมชาติ และสร้างสเปซที่เชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างคนในครอบครัว ซึ่งทุกองค์ประกอบในบ้านจะมุ่งสู่การสร้างความเชื่อมโยงนี้ ประการที่สอง “ยั่งยืน” สุดท้าย ตัวเลือกที่ผ่านเข้ารอบคือบ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยม ที่ตัดองค์ประกอบตกแต่งออกเน้นเฉพาะสิ่งที่สำคัญ จากภายนอก ตัวอาคารมีรูปทรงเรียบง่าย ค่อนข้างทึบ มีหน้าต่างขนาดกลางในตำแหน่งที่จำเป็น และมองเห็นต้นไม้ได้รอบอาคาร

คอร์ดยาร์ดหน้าบ้าน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

คอร์ทยาร์ดใจกลางบ้าน

เมื่อเข้าสู่ภายใน จะเห็นว่าบ้านถูกเจาะให้เกิดที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า สร้างเป็นลานปลูกต้นไม้ใหญ่ตรงกลาง ทำหน้าที่เชื่อมต่ออาคารที่โอบรอบทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง เมื่อเลือกที่จะปิดภายนอกแต่ะเปิดสู่ภายในแล้ว สถาปนิกเลือกใช้ผนังอาคารเป็นเปลือกโปร่งแสง รวมทั้งระบบ ประตู หน้าต่างบานใหญ่ และผนังเป็นกระจกในบริเวณกว้างช่วยเพิ่มมุมมองออกมาสู่ลานบ้าน ได้รับแสงธรรมชาติ ลม วิวต้นไม้ และความสดชื่นจากต้นไม้ได้รอบทิศทาง

ครัวผนังกระจกหันหน้าเข้าหาคอร์ท

ครัวและโต๊ะทานข้าวเปิดออกสู่สวนได้

สถาปนิกปรับฟังก์ชั่นการใช้งานและความสวยงามของพื้นที่ภายในให้เหมาะสมที่สุด โดยจัดให้พื้นที่หลักของบ้าน อาทิ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนอน. ถูกจัดให้เป็น 2 บล็อกขนานกันหันหน้าเข้าหาลานภายใน พื้นที่สัญจรและบันไดถูกจัดวางในแนวตั้งฉาก เชื่อมต่อ 2 บล็อกหลักเข้าด้วยกันทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เราจะเห็นว่าทีมงานจัดแปลนชั้นล่างแบบ open plan เรียงแต่ละฟังก์ชันแบบหลวมๆ ไม่มีผนังแบ่งกั้น ทำให้การสัญจรภายในลื่นไหล

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อครัวและโต๊ะทานอาหาร

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อมุมมองไปที่สวน

การตกแต่งด้วยโทนสีไม้เป็นหลักให้ความรู้สึกสดใสและอบอุ่น ผนังกระจกบานใหญ่ในพื้นที่เหล่านี้ทำให้บ้านมีแสงสว่างอยู่เสมอ ความใสยังทำหน้าที่เบลอขอบเขตระหว่างภายในภายนอกจนเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกันแบบไร้ผนัง

ห้องทานข้าวโถงสูงผนังกระจก

ห้องรับประทานอาหารตั้งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เจาะเพดานเป็นโถงสูงทำให้คนที่อยู่ข้างบนกับข้างล่างปฏิสัมพันธ์กันได้ในแนวตั้ง และประตูที่เปิดออกได้กว้างสร้างความต่อเนื่องของพื้นที่ออกมาที่สวนได้ ทั้งความกว้าง โปร่ง และสามารถขยายพื้นที่ไปยังโวนกลางแจ้งได้ จุดนี้จึงเหมาะสำหรับโอกาสพิเศษในการสังสรรค์กับญาติและเพื่อนๆ

โถงสูงใจกลางบ้าน

ด้วยวิธีการทำคอร์ทยาร์ดตรงกลาง มีผนังกระจกในทุกห้องที่อยู่รอบ ๆ ทำให้สมาชิกในบ้านทุกคนสามารถมองเห็นลานนี้ได้หมดจากทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในห้องนอน ห้องทำงานชั้นบน ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง หรือแม้แต่ขณะที่เดินขึ้นลงบันไดและยังมองทะลุจากบนลงล่างจากล่างขึ้นบน ผนังฝั่งตรงกันข้าม จึงตรงตามโจทย์ที่เจ้าของบ้านต้องการ

ผนังกระจกมองเห็นคอร์ทกลางบ้าน

ห้องนอนผนังกระจกมองเห็นสวนข้างล่าง

สำหรับเรื่องความยั่งยืนเรื่องการใช้พลังงาน สถาปนิกตอบความต้องการผ่านการจัดลานโล่งๆ เป็นจุดดักลมและกระจายแสงไปในบ้านให้เพียงพอกับการใช้งาน นอกจากนี้ประตูบานเลื่อนและหน้าต่างขนาดใหญ่รอบอาคารสามารถเปิดระบายอากาศได้ดีตามธรรมชาติ ในจุดที่ต้องการการพรางแสงจะมีแนวต้นไม้และพืชรากอาากศห้อยเลื้อยลงมาทำหน้าที่นั้น พร้อมกับเพิ่มออกซิเจน กรองฝุ่นและควันที่ลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี

คอร์ทยาร์ดในบ้าน

พื้นที่สีเขียวไม่ได้มีเฉพาะรอบด้านหน้าบ้านและใจกลางบ้านเท่านั้น ตามระเบียงบ้านหรือบนดาดฟ้าก็ยังทำเป็นจุดปลูกต้นไม้ได้หมดเหมือนมีต้นไม้งอกออกมาจากตัวบ้านในทุกด้าน เมื่อมองจากไกล ๆ บ้านนี้จึงเหมือนเป็นกระถางใบใหญ่ที่หอบความสดชื่นมาสู่เมืองอันเต็มไปด้วยคอนกรีตที่แข็งกระด้าง

ปลูกต้นไม้บนระเบียง

บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการสร้างบ้านแบบยั่งยืน คือ การจัดตำแหน่งช่องเปิดสร้างทิศทางการรับแสง พื้นที่รับลม ช่องทางระบายความร้อนที่เหมาะสม อย่างเช่น ในฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ทิศทางของลมจะพัดผ่านมาทางทิศใต้ ก็ควรทำช่องเปิดกว้างๆ ในด้านนั้น จะช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้ ส่วนทิศที่แสงแดดจัด ๆ ร้อนมาก ๆ ตลอดทั้งปีอย่างทิศตะวันตก ควรทำพื้นที่กันชนเป็นฉากกั้น อาทิ แนวต้นไม้ ฟาซาดช่องลม ที่มีจังหวะความทึบสลับโปร่งให้บ้านยังรับแสงและลมให้เข้ามาหมุนเวียนภายในได้ ต้นไม้ยังช่วยเพิ่มร่มเงาและความเย็นด้วย สำหรับบ้านที่ออกแบบในลักษณะปิดภายนอกแต่เลือกเปิดภายในก็จะมีอิสระในการเปิดบ้านให้เป็นอิสระได้มากกว่า เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาของคนที่ผ่านไปมา

แปลนบ้าน

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด แบบบ้าน


โพสต์ล่าสุด