เมนู

สภาพแบบไหน ที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยน “หมอน”

เปลี่ยนหมอน

หมอนเก่า ต้องเปลี่ยน

หมอน เป็นสิ่งที่เราใช้ศีรษะและใบหน้าแนบสนิทใกล้ชิดบนนั้นทั้งคืน ดังนั้นหมอนหนุนในห้องนอนจึงควรสะอาด มีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มสบายในการนอน แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งเราก็ใช้งานเพลินจนลืมไปว่าสิ่งเล็ก ๆ นี้ต้องซักหรือเปลี่ยนบ้าง หมอนหลายๆ ใบถูกใช้ต่อเนื่องยาวนานจนไส้ด้านในกลายเป็นก้อน มีรอยเปื้อน และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งไม่ถูกสุขอนามัย แถมยังทำให้นอนไม่สบายจนเกิดอาการปวดคอปวดหลังได้  เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” จะแนะนำความถี่ที่คุณควรเปลี่ยนหมอน รวมถึงวิธีดูแลหมอนเพื่อให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกค่ะ

ที่มา|ภาพThe handy mans daughter
เนื้อหาบ้านไอเดีย

สัญญาณในการเปลี่ยนหมอน

ทำไมควรเปลี่ยนหมอน?

ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องความถี่ที่ควรเปลี่ยนหมอน ขอแวะไปที่เรื่อง ทำไมเราต้องเปลี่ยนหมอนกันก่อนนะคะ ลองนึกภาพว่าหลังจากเราใช้หมอนคืนแล้วคืนเล่า  365 วันต่อปี หมอนจะสะสมฝุ่น สะเก็ดผิวหนัง รังแค ของคุณและสัตว์เลี้ยงได้มากมาย ฝุ่นนี้สามารถดึงดูดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการนอนหลับด้วยเช่นกัน ยิ่งหมอนมีอายุการใช้งานมากขึ้น หมอนก็จะสะสมน้ำมัน  เหงื่อ (และอาจจะมีน้ำลายด้วย) จำนวนมาก ทำให้หมอนมีกลิ่นและเปื้อน นอกจากนี้ไส้หมอนอาจถูกบีบอัดเมื่อเวลาผ่านไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพการรองรับศีรษะและคอแย่ลงนั่นเองค่ะ

หมอนเสื่อมสภาพ

สัญญาณว่าคุณต้องการหมอนใหม่ได้แล้ว

หมอนทุกใบก็เหมือนของกินของใช้ที่มีวันหมดอายุ อาจจะเปลี่ยน 2 ปีต่อครั้งหรือเร็วกว่านั้น แม้ว่าหมอนบางรุ่นบางชนิดวัสดุจะเคลมว่าใช้งานได้ยาวนานนับ 10 ปี แต่บางทีก็อยู่ไม่ถึง ต่อไปนี้เป็นสัญญาณบางประการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนหมอนกันแล้วค่ะ

  1. หมอนไส้ขนนกหรือหมอนขนเป็ดเริ่มแบนลงหรือเป็นก้อน แสดงถึงความเสื่อมสภาพของวัสดุภายใน
  2. หมอนโฟมหรือไมโครบีดเริ่มผิดรูป
  3. หมอนเริ่มมีกลิ่น
  4. หมอนเริ่มมีสีเหลืองหรือเปื้อนมากขึ้น
  5. หลังจากลองซักในเครื่องซักผ้าและอบผ้า คราบเหลืองไม่ออก หมอนไม่เด้ง ไม่คืนรูปเหมือนเดิม

สัญญาณเตือนว่าหมอนเสื่อมสภาพ

เมื่อใดที่ควรเปลี่ยนหมอน (แยกตามประเภทวัสดุไส้)

หมอนขนนกหรือหมอนขนเป็ด

หมอนขนนกหรือขนเป็ดมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดในบรรดาหมอนทั้งหมด หมอนขนนกหลายใบมีอายุการใช้งานได้ถึง 3 ปี เนื่องจากไส้สามารถกลับมามีสภาพขนปุยใหม่ได้อีกหลังซัก และทำความสะอาดได้ง่ายด้วยการซักเครื่องและเครื่องอบผ้า สังเกตว่าหากไส้เริ่มแบนลงหรือเป็นก้อน ไม่กลับคืนตัวหลังซักก็แสดงให้เห็นความเสื่อมสภาพ หากเริ่มนอนไม่สบายเหมือนเดิมก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

วิธีซักหมอนไส้โพลีเอสเตอร์

หมอน Down Alternative หรือหมอนโพลีเอสเตอร์

หมอน Down Alternative และหมอนโพลีเอสเตอร์เป็นหมอนที่มีความทนทานน้อยที่สุด โดยมีอายุการใช้งานเพียงประมาณหนึ่งปี ก่อนที่คุณภาพและการรองรับจะค่อยๆ เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นเพราะวัสดุยัดไส้ที่มีต้นทุนต่ำ จึงไม่สามารถทนทานต่อการใช้งานนานๆ เมื่อนำไปซักบ่อยๆ ใยก็จะจับตัวเป็นก้อนเสียทรงได้ ด้วยเหตุนี้ จึงควรใช้หมอนโพลีเอสเตอร์เฉพาะในบริเวณที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเป็นประจำ เช่น ในห้องพักแขก ส่วนการซักแนะนำให้ลองซักหมอนครั้งละ 2 ใบ และใส่ลูกกลมเข้าไปด้วย เพื่อเป็นการบาลานซ์น้ำหนักและลดปัญหาหมอนเสียรูปทรง

หมอนเมมโมรีโฟม

หมอนเมมโมรีโฟมต้องเปลี่ยนทุกสองถึงสามปี เนื่องจากโฟมในตัวอาจเสียรูปและถูกบีบอัดให้แน่นขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้มีการรองรับคอและบ่าไหล่ได้น้อยลง นอกจากนี้ไส้โฟมก็เหมือนกับไส้หมอนอื่นๆ ที่อาจเต็มไปด้วยฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้เมื่อเวลาผ่านไป

หมอนเม็ดไมโคร บีดส์ (Micro Bead)/ไม่โครเจล (Gel Pillows)

เป็นหมอนชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนทุก ๆ สองปี เนื่องจากไส้เม็ด Bead อาจบีบอัดและเสีบรูปทรงได้เมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง

หมอน latex memory foam

วิธีดูแลหมอนให้ใช้งานได้นานขึ้น

เราสามารถยืดอายุหมอนได้โดยการดูแลอย่างดี ทำให้คุณไม่ต้องเปลืองงบประมาณซื้อหมอนใหม่เร็วขึ้น ต่อไปนี้เป็น 4 วิธีในการดูแลหมอนที่นำมาฝากกันค่ะ

1. ใส่ผ้ารองกันเปื้อนหมอนแบบมีซิป สิ่งนี้สามารถทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและป้องกันไม่ให้น้ำมันในร่างกาย เหงื่อ กลิ่น น้ำลาย และความชื้นส่วนเกินเข้าถึงไส้หมอนของคุณได้
2. ขยี้หมอนเป็นประจำเพื่อช่วยรักษารูปร่าง โดยเฉพาะไส้ที่เป็นวัสดุสังเคราะห์การขยี้บ่อยๆ จะช่วยกระจายเส้นใยไม่ให้ติดกันเป็นก้อนซึ่งจะทำให้นอนไม่สบายและลดปัญหาหมอนเสียรูปร่างได้ หรือจะนำไปตากไว้ข้างนอกสักวันหนึ่งเพื่อให้แสงแดดและลมช่วยกำจัดกลิ่นตามธรรมชาติได้
3. ซักหมอนในเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ทางที่ดีควรซัก 3 เดือน/ครั้ง วงจรการซักผ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการฟื้นฟูและยืดอายุหมอนของคุณได้ แต่อย่างไรก็ตาม หมอนบางชนิดก็ไม่สามารถเข้าเครื่องซักผ้าได้ หรืออาจไม่ควรนำเข้าเครื่องอบ เช่น หมอนเมมโมรี่โฟม (แต่สามารถนำไปแช่และซักด้วยมือได้) ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากเพื่อดูแลรักษาหมอนอย่างเคร่งครัด
4. พยายามกำจัดคราบน้ำลายหรือสิ่งสกปรกที่เลอะเปื้อนหมอนทันที เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีหรือกลิ่นในระยะยาว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการส่องสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหมอนแล้วหรือยัง ดูไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หวังว่าคุณพ่อบ้านแม่บ้านจะนำไปปรับใช้ ให้มีหมอนนุ่ม ๆ ใช้งานกันได้นานๆ และถูกอนามัยสบายคอสบายตัวค่ะ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ความรู้ คู่บ้าน


โพสต์ล่าสุด