เมนู

ล้างผักผลไม้อย่างไร สะอาด ไร้สารพิษตกค้าง

ล้างผักผลไม้ไม่ให้สารพิษตกค้าง

วิธีล้างผักผลไม้

ทุกคนรู้ดีว่าการกินผักและผลไม้สดเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แต่ระหว่างทางกว่าผักและผลไม้จะมาถึงมือเรา ก็ต้องผ่านกระบวนการเพาะปลูก อาจมีการให้ปุ๋ย หรือยาฆ่าแมลง ผ่านสิ่งสกปรก ฝุ่น สารเคมี รวมถึงแว๊กซ์เคลือบเพื่อความสวยงาม สิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยป่วยด้วยอาหารที่ทานเข้าไปทุก ๆ วัน ดังนั้นก่อนที่จะทานควรล้างให้สะอาด คำถามต่อมาที่มักถามกันคือ แล้วเราจะล้างผักผลไม้อย่างถูกต้องอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีคำตอบมาฝากกันค่ะ

เนื้อหา : บ้านไอเดีย

วิธีล้างผักผลไม้ให้สะอาด

ภาพถ่าย: fda.gov

สิ่งสำคัญในการล้างผักผลไม้นั้น นอกจากจะชะล้างสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้บนพื้นผิวแล้ว ยังต้องมีวิธีกำจัดสารเคมีตกค้างออกจากผลิตผลให้ได้อย่างหมดจดด้วย ซึ่งเราสามารถทำตามสูตรต่างๆ ได้ดังนี้ค่ะ

วิธีล้างสารเคมีตกค้างจากผักและผลไม้

ภาพถ่าย: armandhammer

1.วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การนำผักผลไม้ล้างใต้น้ำที่ไหลผ่านธรรมดาตลอดเวลา ระหว่างนั้นใช้มือถูเบาๆ  ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารตกค้างได้มากกว่า 50 % แต่จะข้อด้อยตรงที่ใช้เวลาและเปลืองน้ำมากกว่าวิธีอื่นๆ

วิธีล้างสารเคมีตกค้างจากผักและผลไม้

ภาพถ่าย: thedumplingmama

2.ผักผลไม้ที่มีใบเล็ก ๆ มีซอกมุมเยอะๆ เช่น ผักกวางตุ้ง ผักกาดหอม ฯลฯ จำเป็นต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เนื่องจากมีบริเวณที่สิ่งสกปรกและจุลินทรีย์ซ่อนตัวอยู่มากมาย วิธีทำความสะอาด ขั้นแรกให้แยกใบออกก่อน จากนั้นจับที่โคนก้านจุ่มผักลงไปในน้ำแล้วเขย่า แล้วแช่ใบและสะเด็ดน้ำในกระชอน ทำซ้ำขั้นตอนนี้หลายๆ ครั้ง เป้าหมายหลักคือการทำให้สารเคมีตกค้างเจือจาง และยังมีผลพลอยได้เพื่อเอาทรายที่เหลืออยู่ออกด้วย

วิธีล้างสารเคมีตกค้างจากผักและผลไม้

แต่ถ้าต้องการชะล้างสิ่งสกปรกหรือหนอนที่ซ่อนอยู่ตามซอกผัก ในผักใบหยักฟูหรือเป็นพุ่มแน่น อย่าง บรอกโคลี ดอกกะหล่ำ ก็ให้คว่ำสวนพุ่มลงปล่อยให้น้ำแรงๆ ไหลผ่านช่องว่างระหว่างช่อ แล้วนำไปแช่น้ำในภาชนะให้ระดับน้ำท่วมผัก 10-15 นาที ก่อนพักสะเด็ดน้ำ

วิธีล้างสารเคมีตกค้างจากผักและผลไม้

3.การแช่ผักและผลไม้ในน้ำ ไม่ใช่แค่ผักใบเขียวของคุณเท่านั้น แต่รวมถึงผลไม้อย่างสตรอเบอร์รี่ด้วย การแช่ผักผลไม้ยังเป็นกระบวนการฟื้นฟูความสดชื่นของผลิตผล เพิ่มรสชาติ และยืดอายุได้ด้วย ทั้งนี้เราสามารถเติมตัวช่วยทำความสะอาดอื่นๆ ระหว่างแช่ผักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดสารตกค้างได้ อาทิ

เบกกิ้งโซดา : เบกกิ้งโซดาไม่ใช่สารฆ่าเชื้อโรค แต่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดยาฆ่าแมลงได้ดีมาก ใช้เบกกิ้งโซดา 14 กรัมต่อน้ำหนึ่งลิตร แช่ผักผลไม้สดในสารละลายนี้เป็นเวลา 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

น้ำเกลือ : แช่ผักและผลไม้ในน้ำที่ผสมเกลือ 1-2 ช้อนชา เป็นเวลา 5 นาที จากนั้นจึงล้างเพื่อเอาความเค็มจากเกลือออก วิธีลดปริมาณสารตกค้าง 38%

น้ำส้มสายชู : เป็นตัวช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างปลอดภัย ราคาถูก หาได้ง่าย และไม่มีสารเคมีอันตรายใดๆ เราจะใช้น้ำส้มสายชู 1 ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน แช่ผักผลไม้สดเป็นเวลา 10 นาที แล้วล้างตามด้วยน้ำเย็น

ด่างทับทิม : มีคุณสมบัติในการชำระล้างสารเคมีตกค้างผักผลไม้ได้ดี โดยใช้ด่างทับทิม 20-30 เกล็ด ผสมน้ำสะอาด 4 ลิตร แล้วนำผัก ผลไม้ไปแช่นาน 10 นาที จากนั้นล้างผักผลไม้ด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ด่างทับทิมจะช่วยลดปริมาณสารตกค้างได้ประมาณ 35-43%

วิธีล้างผักและผลไม้

ภาพถ่าย: eatwell101

4. สำหรับผักและผลไม้ที่มีเนื้อแน่น เช่น แตงกวา แครอท แอปเปิ้ล หรือมันฝรั่ง ให้ใช้แปรงล้างผักที่มีขนนุ่มขัดพื้นผิวให้สิ่งสกปรกหลุดออก ส่วนที่พิเศษเล็กน้อย คือ ส้มและมะนาว ที่บางครั้งจะใช้เปลือกในการปรุงอาหารและขนมด้วย เราจะใช้สูตรเกลือหรือเบกกิ้งโซดาสัดส่วน ½ ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ไว้ 15 นาทีในน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อน (แต่ยังใช้มือแช่น้ำได้) แล้วนำผงเบกกิ้งโซดาหรือเกลือป่นละเอียดมาขัดถูกเบาๆ รอบ ๆ การแช่น้ำอุ่นและขัดจะช่วยขจัดคราบสกปรกและทำให้ขี้ผึ้งอ่อนตัวลงแล้วหลุดออก
วิธีล้างผักและผลไม้

ภาพถ่าย: krua.co

ข้อแนะนำเพิ่มเติม อย่าใช้สบู่ล้างผักผลไม้ เพราะสบู่ที่ตกค้างอาจซึมเข้าไปในผักหรือผลไม้ และทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ สารฟอกขาวต่างๆ อาจใช้ดีในการฆ่าเชื้อโรคสำหรับซักผ้า แต่ไม่ควรใช้กับอาหารหรือแม้แต่ล้างาภาชนะที่ใส่อาหาร อย่าลืมใช้น้ำเย็นในการล้างผัก ห้ามใช้น้ำร้อนเพราะจะทำให้ผักหรือผลไม้เหี่ยวเฉา ช้ำ หรือเริ่มสุก และอาจเป็นช่องทางให้จุลินทรีย์เข้าไปในผลิตผลได้

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ความรู้ คู่บ้าน


โพสต์ล่าสุด