เมนู

อย่าหาทำ! ทาสีทับวอลเปเปอร์แบบนี้ไม่ได้

ทาสีทับวอลเปเปอร์ ทำได้หรือไม่

ทาสีทับวอลเปเปอร์

ช่วงหนึ่งของการออกแบบตกแต่งผนังภายใน นิยมการติดวอลเปเปอร์ลายสวย ซึ่งนอกจากทำให้บ้านมีมิติทางสายตาแบบง่าย ๆ แล้ว ยังช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนผนังได้ด้วย แต่เมื่อติดวอลเปเปอร์นานหลายปี กระดาษกาวจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพ บางช่วงก็ชำรุดหลุดล่อนไม่สวยงามเหมือนเดิม แถมลวดลายยังดูล้าสมัยไปแล้วยิ่งมองยิ่งขัดตา จะทำอย่างไรก้บผนังดี ให้ช่างมารื้อออกทั้งหมดก็คงหมดหลายตังค์ แล้วถ้าเราจะทาสีทับเปลี่ยนลุคจะพอได้ไหม หรือว่าไม่ควรทำ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีคำตอบมาฝากกันครับ

ที่มา|ภาพthe spruce
เนื้อหาบ้านไอเดีย

ทาสีทับวอลล์เปเปอร์

เราสามารถทาสีทับวอลเปเปอร์ได้ไหม?

คำถามนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านมักถาม คำตอบ ได้ครับ แต่การทาสีลงบนวอลเปเปอร์ไม่ได้ง่ายเหมือนการกลิ้งสีลงบนกระดาษเปล่า ๆ แล้วปล่อยให้แห้ง  เพราะต้องผ่านกระบวนการเตรียมพื้นผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี  อาทิ ทำความสะอาด ซ่อมแซมวอลเปเปอร์ และลงสีรองพื้นเคลือบหลายๆ ชั้นก่อน จึงจะพร้อมสำหรับการทาสี  อย่างไรก็ตาม การทาสีทับวอลเปเปอร์ก็ดูจะง่ายกว่าและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการพยายามรื้อออกแล้วทาสีผนังใหม่ (ยกเว้นถ้ามีงบประมาณก็ลุยรื้อได้เลย)

วอลเปเปอร์แบบไหนที่ทาสีทับได้ 

ชนิดของวอลเปเปอร์ที่ทาสีทับได้ง่าย จะเป็นชนิดไวนิล (Vinyl) ที่มีด้านหลังเป็นกระดาษ (Paper Back) ซึ่งอยู่ในสภาพดีเท่านั้น ทั้งนี้ก็ยังมีข้อควรพิจารณาประกอบกันแบบปลีกย่อยว่า ผนังวอลเปเปอร์ที่บ้านนั้นเหมาะกับการทาสีทับหรือไม่ เช่น ขั้นแรก ต้องตรวจสอบวอลเปเปอร์ก่อน หากกระดาษวอลเปเปอร์ลอกออกเป็นส่วน ๆ ได้ง่าย การลอกออกจะเป็นการดีกว่าการทาสีทับ เป็นต้น

วอลล์เปเปอร์ขึ้นรา

วอลเปเปอร์แบบไหนอย่าหาทาสีทับ

ถ้าเราพิจารณาดูแล้วว่าวอลเปเปอร์เละเทอะสกปรกมากเกินไป สีจะติดได้ไม่ดี หรือมีจุดเชื้อราขนาดใหญ่บนวอลเปเปอร์ เชื้อรานั้นจะกระจายตัวให้เห็นทะลุผ่านชั้นสีขึ้นมาได้ วอลเปเปอร์บางประเภทก็ทาสีไม่ติด เช่น วอลล์เปเปอร์ไวนิลที่มีผ้าด้านหลัง (Fabric-Backed Vinyl Wallpaper) วอลล์เปเปอร์แบบที่มีพื้นผิวลายนูน วอลล์เปเปอร์ชนิดแกะและแปะ ( Peel and Stick Wallpapers ) ซึ่งเป็นวอลล์เปเปอร์ที่มีกาวในตัวไม่ต้องใช้กาวเพิ่มเติมในการติดตั้ง การทาสีทับวอลเปเปอร์ประเภทนี้อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

ขั้นตอนการทาสีทับวอลเปเปอร์

ซ่อมแซมวอลล์เปเปอร์

เตรียมพื้นผิววอลเปเปอร์

เมื่อตั้งใจจะทาสีทับวอลเปเปอร์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องแน่ใจว่าผนังที่ปิดนั้นสะอาด และไม่มีรอยยกที่ขอบหรือตะเข็บ อันดับแรกก็ต้องจัดการชิ้นส่วนวอลเปเปอร์ที่ชำรุดก่อน เรามักจะพบวอลเปเปอร์ที่ฉีกหรือหลุดล่อน ใกล้ประตู หน้าต่าง สวิตช์ไฟ เหนือบัวพื้น หรือรอบ ๆ อุปกรณ์ตกแต่งทุกประเภท เมื่อเจอจุดที่ต้องการซ่อมแซมเผยอออกไม่มาก ให้ใช้กาวซ่อมแซมตะเข็บวอลเปเปอร์แล้วใช้ลูกกลิ้งสะอาด ๆ กลิ้งกดทับไปที่ตะเข็บไปมาจนเรียบ ส่วนที่ฉีกขาดมาก ๆ ให้ใช้มีดคัดเตอร์ตัดส่วนที่หลุดลอกของวอลเปเปอร์ออก ระวังน้ำหนักมือด้วยอย่ากรีดลึกผ่านวอลเปเปอร์เข้าไปในผนังยิปซั่มหรือผนังคอนกรีตให้เสียหาย

ทาสีรองพื้นวอลล์เปเปอร์

ทาสีรองพื้น (ไพรเมอร์) 

หลังจากลอกวอลเปเปอร์ที่หลุดออกแล้ว ให้เตรียมผนังทาสีด้วยสีรองพื้น โดยใช้แปรงทุกบริเวณที่ลูกกลิ้งไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ให้เว้นพื้นที่ข้างตะเข็บวอลเปเปอร์ไว้ ส่วนพื้นที่กว้าง ๆ จะใช้ลูกกลิ้งทา ทั้งนี้ลูกกลิ้งควรอิ่มด้วยไพรเมอร์แต่ต้องไม่หยด เมื่อทาสีรองพื้นหนึ่งชั้นแล้วก็ปล่อยให้แห้งตามคำแนะนำของผู้ผลิต ระหว่างทาสีควรสวมหน้ากากป้องกันกลิ่นและเปิดประตูระบายอากาศในพื้นที่ทำงานให้มากที่สุด เพราะสีรองพื้นจะเป็นสำหรับปูนเก่าที่มักเป็นเชื้อน้ำมันมีกลิ่นแรง

ติดเทปปิดรอยตะเข็บ

ใส่ผ้าเทปยิปซัมปิดรอยตะเข็บ

การใช้ผ้าเทปยิปซัมปิดรอยต่อตะเข็บของวอลเปเปอร์ นอกจากจะช่วยให้รอยตะเข็บเรียบเสมอกัน ยังป้องกันสีซึมผ่านด้วย หากสีซึมผ่านตะเข็บวอลเปเปอร์ขอบกระดาษจะเริ่มม้วนงอและลอกออก โดยเราจะติดเทปเมื่อไพรเมอร์ที่ทาแข็งตัวเต็มที่แล้ว ให้ติดเทปปิดรอยต่อตลอดความยาวของตะเข็บวอลเปเปอร์ทั้งหมด แล้วใช้เกรียงกดให้เรียบแน่นติดกับผนัง

โป๊วรอยต่อและส่วนชำรุดที่ตัดออก

ใช้เกรียงทาส่วนผสมของปูนฉาบยิปซัมบาง ๆ ทับเทป อย่าทามากเกินไป เพราะจะทำให้ต้องเปลืองแรงขัดมากขึ้นในภายหลัง สำหรับพื้นที่ใด ๆ ของวอลเปเปอร์ที่ถูกตัดออกไปก่อนหน้านี้ ให้เติมส่วนที่ขาดหายไปด้วยการทาส่วนผสมของปูนฉาบยิปซั่มบางๆ ด้วย เมื่อแห้งแล้วก็ขัดด้วยกระดาษทราย ค่อยๆ ใช้เครื่องขัดขึ้นและลงตามตะเข็บวอลเปเปอร์ ให้เครื่องเคลื่อนที่ในแนวตั้ง ไม่ใช่แนวนอน อย่าออกแรงกดมาก ๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อการขูดวอลเปเปอร์ เมื่อขัดเสร็จแล้ว ให้เช็ดพื้นผิวเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาดที่ไม่มีขุยเพื่อขจัดฝุ่นหรือเศษที่อาจติดอยู่ในสีรองพื้นหรือสี

เพิ่มสีรองพื้น (ไพรเมอร์) ชั้นที่สอง

ทาไพรเมอร์ชั้นที่สอง การทาสีรองพื้นรอบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชั้นเคลือบชั้นแรกแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยปิดผนึกส่วนของเทปหรือยิปซัมโป๊วที่มีรูพรุนอีกด้วย

ทาสีทับ wallpaper

ทาสีวอลเปเปอร์สองรอบ

เมื่อสีรองพื้นชั้นที่สองแห้งสนิทแล้ว ก็สามารถลงมือทาสีผนังด้วยสีผนังภายในได้เลย โดยใช้แปรงและลูกกลิ้งควบคู่กัน ปล่อยให้สีแห้งอย่างน้อยสองชั่วโมง จึงลงสีชั้นที่สอง

เสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็จะได้ผนังใหม่ที่เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างที่ใจต้องการได้แล้วครับ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ความรู้ คู่บ้าน


โพสต์ล่าสุด