เคล็ดไม่ลับประหยัดค่าไฟแอร์

ผ่านพ้นฤดูร้อนอันโหดร้ายมาแล้ว หลายบ้านต้องทนรับชะตากรรมกับค่าไฟบ้านที่พุ่งสูงขึ้นกว่าทุก ๆ เดือน และมักทำลายสถิติใหม่ทุก ๆ ปี ตอนนี้เข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบก็อย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ เพราะค่าไฟแอร์ที่สูงไม่ได้มีส่วนแปรผันเฉพาะภูมิอากาศที่ร้อนเท่านั้น แต่ความชื้นที่มากับฝนยังส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักกว่าปกติเช่นกัน เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” นำเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้ผู้อ่านประหยัดค่าไฟแอร์ได้จริง เริ่มกันตั้งแต่การเลือกซื้อ ติดตั้งและใช้การงาน อ่านจบแล้วรับประกันได้เลยว่า จะช่วยประหยัดค่าไฟได้หลักร้อยหรือหลักพันต่อเดือนได้เลยครับ

สนับสนุนโดย : Mitsubishi Heavy Duty

รู้ขนาดห้อง รู้ขนาด BTU

โดยปกติเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่น จะมีสเปคให้เลือกแยกย่อยตามขนาด BTU การเลือกสเปค BTU จะต้องสัมพันธ์กับขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องครับ โดยขนาดของ BTU ที่ดี จะต้องไม่มากหรือน้อยไป เพราะหากขนาด BTU มีมากเกินจำเป็น จะมีกำลังวัตต์ไฟฟ้าที่สูง ส่งผลให้อัตราการกินพลังงานมากกว่าเครื่องที่มีกำลังวัตต์ต่ำ ทั้งยังสิ้นเปลืองงบประมาณในการเลือกซื้อแอร์เพราะรุ่น BTU สูงย่อมแพงกว่ารุ่น BTU ต่ำครับ

ส่วน BTU ที่น้อยเกินไป จะส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากกว่าปกติ อุณหภูมิความเย็นภายในห้องจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ แอร์จึงทำงานหนักตลอดเวลา ส่งผลให้กินพลังงานสูงและพังไวอีกด้วยครับ (ตัวอย่างการคำนวณ BTU)

แอร์ติดผนัง ประหยัดกว่าแอร์ฝังฝ้า

แน่นอนว่าการติดตั้งแอร์แบบฝังฝ้าเพดาน จะช่วยให้ห้องของเราสวยหรู ดูเรียบเนียนสายตา แต่ทราบกันหรือไม่ว่า แอร์ประเภทนี้มาพร้อมกับราคาค่าตัวที่สูงกว่าแอร์ประเภทอื่น ๆ มาก แถมยังเปลืองค่าไฟมากกว่าแอร์ติดผนังแบบทั่วไป หากต้องการเลือกแอร์ที่เน้นประหยัดค่าไฟในระยะยาว แนะนำให้เลือกแอร์แบบติดผนังจะดีกว่าครับ ทั้งยังยืดหยุ่นต่อการบำรุงรักษาในอนาคตอีกด้วย

ภาพ : บ้านฟ้าบ่กั้น

ประหยัดแอร์ดี ต้องมี Inverter แท้เท่านั้น

เชื่อว่า ณ เวลานี้ ผู้บริโภคทั่วไปคุ้นเคยกับคำว่า Inverter กันดีแล้ว ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้เครื่องปรับอากาศประหยัดค่าไฟได้ดีกว่าเดิมมาก แต่หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า Inverter ของเครื่องปรับอากาศบางรุ่นเป็นเพียงคำโฆษณาเกินจริงเท่านั้น Inverter ที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้มาก จะต้องเป็น Inverter แท้ทั้งระบบ ตัวอย่างเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น Inverter ทุกรุ่น ไม่เว้นแม้กระทั่งรุ่นน้องใหม่อย่าง YXP และ YXS Series ก็เป็นระบบ Inverter แท้ทั้งระบบ มาพร้อมกับ 4 อุปกรณ์หลัก ที่ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟแอร์ได้มากกว่าเดิม ดังนี้

แผงวงจรอัจฉริยะ PAM ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน
คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงานให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้อง ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็นเพื่อให้วงจรสารทำความเย็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด
มอเตอร์กระแสตรง มีความแม่นยำในการควบคุมความเร็วรอบ เปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากจะเป็น Inverter แท้แล้ว ฟังก์ชันที่ติดมากับเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นก็ส่งผลให้เย็นสบายและอยู่สบายมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น รุ่น YXP Series ที่มีฟังก์ชัน Jetflow ส่งลมเย็นได้ไกลด้วยการออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ท, Hi Power โหมดพลังสูงทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น และ Self Clean Operation โหมดทำความสะอาดตัวเอง ช่วยให้คอยล์เย็นแห้ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

ส่วนรุ่น YXS Series Deluxe Inverter นอกเหนือจากมีฟังก์ชัน Jetflow, 24 Hour ION , Hi Power และ Self Clean Operation รุ่นนี้ยังเพิ่มความพิเศษมาอีก 3 ฟังก์ชันด้วยกัน คือ 3D Auto กระจายลมอัตโนมัติแนวตั้งถึง 6 รูปแบบและแนวนอนอีก 8 รูปแบบ ทำให้ลมเย็นกระจายเท่ากันทั่วทั้งห้อง , Vitamin C Filter มีแผ่นกรองที่ปล่อยวิตามินซีออกมา ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้ง , Anti allergy & Activated carbon filter แผ่นกรองที่ช่วยดักจับสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้อากาศบริสุทธิ์อยู่เสมอ

เร่งให้เย็นก่อน เบาอุณหภูมิภายหลัง

หลายท่านเข้าใจผิดว่า การเปิดแอร์จะต้องปรับอุณหภูมิคงที่ แอร์จะค่อย ๆ ทำความเย็นไปเรื่อย ๆ ช่วยประหยัดค่าไฟได้ ความจริงแล้วช่วงเปิดแอร์ใหม่ ๆ อุณหภูมิภายในห้องจะมีความร้อนสะสม ควรเร่งสปีดความเย็นแอร์ก่อนในช่วงแรกครับ เครื่องปรับอากาศบางรุ่นจะมีโหมดพิเศษ เช่น Hi power ที่ช่วยเร่งสปีดให้ห้องเย็นขึ้นในระดับอุณหภูมิที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เมื่อได้อุณหภูมิที่ต้องการแล้ว เครื่องปรับอากาศประเภท Non-inverter จะตัดการทำงาน และต่อใหม่อีกครั้งเมื่อห้องมีความร้อนสะสมเพิ่มมากขึ้น ส่วนเครื่องปรับอากาศประเภท Inverter จะลดรอบการทำงานลงให้อยู่ในระดับที่คงที่ และจะไม่ตัดการทำงานตลอดการใช้งาน ทำให้โดยรวมแล้วเครื่องปรับอากาศแบบ Inverter จะประหยัดพลังงานมากกว่า

ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ อัตโนมัติ

แอร์รุ่นใหม่ ๆ มีฟังก์ชันมาให้มาก ฟังก์ชันสุดคลาสสิคที่มีกันเกือบทุกรุ่น คือ การตั้งเวลาเปิด ปิด อัตโนมัติ เช่น ให้แอร์ปิดทุก ๆ 6 โมงเช้า เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวอากาศจะเย็น ในบางวันอาจเย็นกว่าอุณหภูมิห้องแอร์อีกครับ การปิดใช้งานอัตโนมัติจึงช่วยลดค่าไฟแอร์ได้ดี ป้องกันการลืมปิดหรือปิดช้า และการปรับอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นในช่วงเช้า ยังเหมาะกับร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการความอบอุ่นอีกด้วยครับ

อย่าเพียงแค่ใช้แอร์ แต่ต้องดูแลด้วย

การทำงานของเครื่องปรับอากาศ จะมีผลกับอากาศภายในห้องและภายนอก ซึ่งมักปะปนไปด้วยไรฝุ่นเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อผ่านการใช้งานนานหลายเดือน ฝุ่นเหล่านี้จะสะสมและเกาะตัวหนาแน่น ส่งผลให้แผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอุดตัน แอร์ทำงานหนักขึ้น เย็นช้าลง การล้างทำความสะอาดแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ที่จะช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เย็นไว ไม่ต้องสูญเสียพลังงานไปกับฝุ่นที่เกาะแน่น

นอกจากการล้างแอร์ทั้งระบบปีละ 2 ครั้งแล้ว การดูแลรักษาแผ่นฟอกอากาศและแผ่นกรองอากาศที่ใส่อยู่ในตัวเครื่องก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะหากไม่มีการทำความสะอาดแผ่นกรองหรือแผ่นฟอกเลย อุปกรณ์เหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่อไป ดังนั้นควรจะต้องมีการทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศและแผ่นฟอกอากาศเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์อย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แผ่นฟอกอากาศบางชนิดสามารถล้างด้วยน้ำได้ บางชนิดต้องทำความสะอาดด้วยการเป่าลมเท่านั้น การทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้องจะช่วยถนอมให้แผ่นฟอกอากาศชนิดต่าง ๆ สามารถใช้งานได้นานไม่เสื่อมคุณสมบัติและทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้บ่อย ๆ ครับ

แอร์และคอมเพรสเซอร์ ไม่ห่างกันเกินไป

โดยทั่วไประยะห่างระหว่างแอร์กับคอมเพรสเซอร์แอร์ ถูกกำหนดมาในหนังสือคู่มืออยู่แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับสเปคของแอร์รุ่นนั้น ๆ (ผู้อ่านสามารถเช็คข้อมูลนี้ได้จากคู่มือที่มีมาให้) เช่นแอร์รุ่น Inverter สามารถเดินท่อยาวได้สูงสุด 25 เมตร และแอร์ระบบสามารถเดินท่อได้ยาวสุด 50 เมตร แต่ทั้งนี้หากพื้นที่ติดตั้งไม่เหมาะสม การติดตั้งมีความซับซ้อนจะต้องมีการติดตั้งที่พิเศษกว่าปกติ มีอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้น และยังส่งผลให้ค่าไฟแอร์สูงกว่าปกติด้วย เพราะยิ่งระยะท่อแอร์ห่างกันมาก ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศโดยรวมจะลดลงเล็กน้อย เช่นสามารถทำความเย็นได้ 100% การเดินท่อยาว ๆ อาจจะทำให้เครื่องทำงานได้ 95% เท่านั้น ดังนั้นก่อนติดตั้งแอร์นอกจากจะต้องดูตำแหน่งแอร์แล้ว ยังจำเป็นต้องเลือกตำแหน่งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ตั้งแต่ต้น หรือหากใครกำลังออกแบบบ้านใหม่ ควรให้สถาปนิกช่วยคิดมาให้จบเลยครับ

ปัจจัยภายนอก ที่ทำให้ค่าไฟแอร์แพง

อย่างที่เกริ่นนำไว้ตั้งแต่ตอนต้น แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็มิได้หมายความว่า จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟแอร์ได้ เพราะการทำงานของแอร์ไม่ได้ปรับแค่อุณหภูมิเท่านั้น แต่ยังมีการควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ให้อยู่ในระดับเหมาะสม หรือที่เรียกกันว่า “สภาวะอยู่สบาย” หากภายในห้องของเรามีแหล่งกำเนิดความชื้นมากเกิดไป เช่น บ่อปลา สระน้ำ ห้องน้ำ หรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำ ก็ย่อมส่งผลให้แอร์ทำงานหนัก กินพลังงานมากกว่าเดิมเช่นกันครับ