บ้านโมเดิร์นโทนสีอ่อนที่ออกแบบให้ใช้เวลาร่วมกัน
บ้านรูปทรงโมเดิร์นเส้นสายเรียบง่าย มองเห็นแต่ไกลๆ ด้วยทำเลที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา ทำให้ยิ่งเด่นชัดในสายตาของคนภายนอกที่ผ่านไปมา บ้านนี้อยู่ใน Redlands ไม่ไกลจาก Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพภูเขาและทะเล สถาปนิกจึงใช้โทนสีอ่อนๆ เพื่อให้มีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และใช้กระจกเป็นตัวช่วยเปิดวิสัยทัศน์ที่งดงามรอบ ๆ จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าสไตล์ Mid Century Modern ปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิก Clare Henry Day ที่ออกแบบตามโจทย์ของบ้านตากอากาศของครอบครัวเดี่ยวที่อยากใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุด ภาพรวมของบ้านจึงยังคงกลิ่นอายบ้านเดิม ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการใช้งานที่ตรงกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ออกแบบ : Modernist Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านเก่าก่อนปรับปรุง โครงสร้างโดยรวมยังแข็งแรงใช้งานได้ดี เพียงแต่ดูผุพังทรุดโทรมตามกาลเวลา เพราะบางส่วนของบ้านตกแต่งด้วยไม้
บ้านสไตล์ Mid Century Modern อบอุ่นและสะอาดตา
บ้านหลังจากปรับปรุงแล้ว จะเห็นว่าสถาปนิกคงรูปทรงเดิมของบ้านเอาไว้ ห่อหุ้มด้วยวัสดุไม้ทาสีปิดทับสีเทา เจ้าของบ้านต้องการให้ทีมออกแบบรีโนเวทเพราะบ้านหลังเก่านั้นค่อนข้างทรุดโทรมและมืดทึบ อึดอัด ระบายอากาศได้ไม่ดี เนื่องด้วยทำเลของบ้านที่อยู่บนเนินเขา สามารถเปิดทัศนียภาพได้รอบด้านโดยที่ไม่เสียความเป็นส่วนตัว จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่จะปล่อยให้บ้านหลังนี้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเรื่อยๆ สถาปนิกเลือกที่จะรักษาทำเลและทัศนียภาพรอบนอกไว้ให้คงเดิมอย่างครบถ้วน และไม่เปลี่ยนแปลงรูปทรงของบ้านมากนัก โดยยังคงรูปทรงโมเดิร์นแบบเดิมไว้
ผนังไม้ในบางจุดเปลี่ยนเป็นอิฐสีอ่อนนวลตา ช่วยให้บ้านดูอบอุ่นสะอาดตาแต่แข็งแรงและดูแลง่ายขึ้น หลังคาเรียบแบนทรง slap สำเร็จรูปในรูปแบบของบ้านโมเดิร์น รอบนอกจัดสวนให้มีพื้นที่พักผ่อน สลับระดับตามความลาดชันของพื้นที่ หน้าบ้านปลูกต้นไม้น้อยใหญ่น่ารื่นรมย์ ส่วนหลังบ้านเปิดโล่งให้เป็นพื้นคอนกรีต สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้เต็มที่
ภายในบ้านก่อนปรับปรุงก็มีรูปทรงทันสมัยอย่างสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งผนังและเพดานด้วยไม้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายยุคสมัย mid century ติดผนังกระจกตลอดแนวอาคาร แต่เพดานค่อนข้างต่ำ ทำให้รู้สึกเหมือนถูกกดทับไม่โปร่งเท่าที่ควร
โถงสูง เชื่อมพื้นที่แนวตั้ง เปิดบ้านให้โปร่งสว่าง
ภายในบ้านหลังปรับปรุงยังคงตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ สไตล์ Mid Century Modern แต่รื้อพรมออกปูพื้นผิวด้วยแกรนิตโต้สีดำมันวาว ประกอบกับการใช้เหล็กสีดำในการทำขอบคิ้วประตูหน้าต่าง ทำให้เกิดการผสมผสานได้อย่างลงตัวระหว่างงานไม้และงานเหล็ก เพดานเดิมถูกรื้ออกเชื่อมพื้นที่แนวตั้งเป็นบ้านเปิดเพดานสูงแบบ Double Space และติดกระจกใส ทำให้มีความโปร่งสว่างและไม่อึดอัดเหมือนบ้านก่อนการรีโนเวท ภายในยกระดับเล็กน้อย สร้างสัดส่วนและการจัดผังที่ชัดเจนภายในบ้าน ส่วนโถงประกอบไปด้วยห้องครัวและห้องนั่งเล่นในบริเวณเดียวกัน
ห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ส่วนหน้าจะมีเพดานต่ำ เนื่องจากด้านหลังเป็นพื้นที่ต่างระดับที่ยกสูงขึ้นและถูกปรับใช้เป็นชั้นลอย แต่ก็ยังรักษาความโปร่งสว่างไว้ได้อย่างดีเยี่ยมเนื่องจากรอบด้านกรุด้านกระจกใสบานใหญ่ จึงทำให้แสงสว่างภายในทั่วถึงได้มากพอ
นักออกแบบสอดแทรกพื้นที่สีเขียวภายในบ้านเล็กน้อยแต่หลายจุด ได้จังหวะที่ลงตัวพอดีของพื้นที่สีเขียวในบ้าน การกั้นส่วนของแต่ละห้องเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวบ่งบอกขอบเขตมากกว่าการปิดกั้นด้วยผนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนโถงกลางบ้าน เนื่องจากสถาปนิกต้องการเชื่อต่อพื้นที่ให้มีความลื่นไหล และต้องการลบภาพเก่าของบ้านดูอุดอู้ให้เลือนหายไปอย่างหมดจด
ชั้นลอย เชื่อมสายตาและพื้นที่ เติมปฏิสัมพันธ์ของคนในบ้าน
การเจาะบ้านให้เป็นโถงสูง จะทำให้เกิดสเปซโล่งกว้างใจกลางบ้านให้บ้านได้หายใจ และมักจะใช้พื้นที่รอบ ๆ ที่ว่างที่เหลือทำเป็นชั้นลอย ที่สามารถมองเชื่อมสายตาระหว่างชั้นบนและชั้นล่างได้ บนชั้นลอยของบ้านนี้จัดให้เป็นบริเวณสำหรับห้องส่วนตัวและห้องทำงานที่ต้องการความสงบ ส่วนโถงของชั้นลอยเป็นมุมนั่งเล่นสบายๆ มีส่วนเชื่อมต่อไปถึงระเบียง มองเห็นวิวทะเลและวิวเมืองผ่านกระจกใสบานใหญ่ กั้นส่วนของห้องอย่างชัดเจนด้วยผนังไม้ และตกแต่งภายในด้วยโทนสีน้ำตาล-ส้มอย่างเข้ากัน
ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ที่มีความเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยงานไม้ อิฐสีเทา ที่โชยกลิ่นอายของความสงบและอบอุ่นอย่างสมบูรณ์ ด้านนอกเว้นพื้นที่ให้ระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องทำงานด้วยประตูกระจก สำหรับเปิดออกพักสายตาออกไปชมวิวช่วงเวลาพักให้คลายจากความเคร่งเครียดระหว่างทำงาน
ห้องนอนส่วนตัวไม่เน้นบริเวณกว้างมาก เพราะสถาปนิกต้องการให้เกิดการใช้พื้นที่ในบ้านร่วมกัน มากกว่าการแยกไปอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ทุกห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย เป็นกันเอง ไม่เน้นความหรูหราสามารถเปิดทัศนียภาพด้วยกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอกและเชื่อมต่อผ่านระเบียง ด้วยพื้นที่ที่ไม่มากทำให้คนในบ้านจะใช้ห้องนอนเฉพาะช่วงเวลาพักผ่อน แต่ในช่วงเวลาอื่น ๆ ก็มักจะมาใช้พื้นที่ส่วนรวมด้วยกัน ทำให้เป็นบ้านที่คนในครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างแท้จริง
