พูลวิลล่าสีขาวร่วมสมัย

การออกแบบวิลล่าหลังนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากความความปรารถนาที่จะเปลี่ยนบ้านสำหรับพักผ่อนวันหยุดหลังเก่า ให้เป็นสิ่งใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น หลังจากปรึกษาหารือกับสถาปนิกมาระยะหนึ่งแล้ว ก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่ามีความคิดอย่างไร หลังจากการปรับปรุงเรียบร้อยจึงได้ผลงานออกมาเป็นพูลวิลล่าสีขาวทันสมัย พร้อมเฉลียงที่ยื่นยาวออกเชื่อมต่อกับสวนเขตร้อน ท้ายที่สุดจากบ้านพักสำหรับแวะเวียนเป็นครั้งคราวก็กลายเป็นที่อยู่อาศัยถาวร ที่สะท้อนถึงความทรงจำความสุขในวันหยุดของครอบครัวที่เคยผ่านมา

ออกแบบ : Marion Regitko Arquitectos
ภาพถ่าย : Fernando Alda
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

Villa Scheffler สร้างในยุคทศวรรษ 1970 ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองอันร่มรื่นของเมืองเอสเตโปนา ใกล้กับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงเหมาะกับการมีเฉลียงขนาดใหญ่ล้อมรอบชั้นล่าง ทำให้สามารถออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งที่มีร่มเงา สูดความสดชื่นจากน้ำและพืชพรรณและดอกไม้ในฤดูร้อนโดยไม่กลัวแดด ซึ่งบ้านและสวนของที่นี่ถูกออกแบบให้มีความเชื่อมโยงกันตั้งแต่เริ่มต้น สององค์ประกอบรวมกันเพื่อสร้างบรรยากาศของวิลล่าให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น

เข้ามาสู่ตัวบ้านได้บรรยากาศความเรียบง่าย สงบ สบายจากโทนสีขาวอมเทา และคอนกรีตปนไม้ เฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอลตรงห้องนั่งเล่น ตู้ไม้ลอยตัวติดบนผนัง ตัดกับสีดำของทีวี สถาปนิกเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืนในทุกที่ที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงประตูหน้าต่างไม้ภายในและเรือนกล้วยไม้ทำจากไม้รีไซเคิล ใช้ฉนวนใยหิน (rockwool) ในส่วนผนังและบนหลังคา ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการเปิดเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลย์เอาต์ของวิลล่าเน้นความโปร่งโล่งเพื่อให้สัมผัสถึงสเปซสบายให้มากที่สุด พร้อมหน้าต่างประตูกระจกขนาดใหญ่ที่จัดวางอย่างระมัดระวังรอบด้าน ช่วยระบายอากาศภายในห้องให้เย็นลงโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเกือบตลอดทั้งปี เฉลียงชั้นล่างและชั้นบนยังปลูกไม้เลื้อยช่วยกรองป้องกันแสงแดดในฤดูร้อน แต่ปล่อยให้แสงแดดอ่อนๆ เข้ามาเพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาว

เฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์โบราณ ประตูไม้สีเข้ม และกรอบหน้าต่างไม้สีเข้มที่เป็นของเก่าจากบ้านเดิม ตัดกับการตกแต่งภายในที่ทันสมัยและสว่างไสว ผสมผสานเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งระดับไฮเอนด์แบบตามสั่ง รวมทั้งงานศิลปะสีสดใสที่ประดับตามจุดต่างๆ ของบ้าน แม้ว่าบ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง แต่ร่องรอยของเดิมก็เหลือไว้เป็นเครื่องเตือนใจถึงอดีต กลายเป็นบ้านใหม่หลังใหญ่ ทันสมัย และโปร่งสบายที่พร้อมโอบรับอนาคต

ชั้นบนจะมองเห็นวิวทะเลได้ชัดมากที่สุด ห้องนอนใหญ่และห้องสตูดิโอจึงหันไปในทิศทางที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับทะเล โดยทำผนังรอบๆ ให้เป็นกระจกใสสูงจากพื้นถึงเพดาน เพ่มระยะมุมมองให้กว้างและสูงเต็มศักยภาพของบ้าน ส่วนการใส่ความเป็นส่วนตัวจากบ้านใกล้เคียง จะมีต้นไม้ที่ปลูกเป็นแนวบังสายตาและผ้าม่านสีขาวพริ้วๆ ให้เลื่อนปิดในเวลาที่ต้องการ