Zhaozhao Tea Garden

อาชีพในฝันของผู้อ่าน คืออะไรครับ ? และงานปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ นับว่าเป็นอาชีพในฝันได้หรือไม่ บางครั้งการมองหาการงานที่ช่วยสร้างความสุข ความชื่นชอบให้กับเราได้จริง ๆ อาจไม่ใช่อาชีพที่ยิ่งใหญ่หรือการต้องเดินทางเสาะหาประสบการณ์แดนไกล แต่เป็นการหยั่งลึกลงไปในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ว่าสิ่งใดคือแรงปรารถนาหรือแรงผลักดันที่จะทำให้อยากตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อทำมันซ้ำ ๆ โดยที่ไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับหรือไม่เป็นตัวเอง และนี่คือที่มาของร้าน Zhaozhao Tea Garden ที่เจ้าของใช้ระยะเวลากว่า 30 ปี เพื่อเรียนรู้ ซึบซึมวัฒนธรรมของชาไต้หวัน จนกระทั่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาเอง

ออกแบบ : Hefeng Cangfei Design Studio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

Zhaozhao Tea Garden คือชื่อของร้านชาแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ประเทศไต้หวัน อาคารเก่าอายุ 40 ปีที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของร้านตั้งแต่วัยเด็ก จุดเริ่มต้นของการเนรมิตทาวน์โฮมเก่ามาเป็นร้านชาขึ้นชื่อ เพราะความตั้งใจอันมุ่งมั่นที่ต้องการสืบสานวัฒนธรรมชาของไต้หวันที่มีฝั่งลึกอยู่ในร่างกายและจิตใจ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของคนไต้หวันเองรวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกมุมโลก

ด้วยขนาดของที่ดินและดีไซน์ของบ้านที่ขนาบอยู่ทั้งด้านซ้ายและขวามือ พอจะทำให้เห็นได้ว่า ก่อนที่จะได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ ทั้งเจ้าของ สถาปนิกและทีมงานต้องทำงานกันหนัก เพื่อให้เกิดเป็นร้านชาอารมณ์ดิบ ๆ ที่แฝงไปด้วยบรรยากาศเงียบสงบ

เว้นที่ดินด้านหน้า เททางเดินด้วยซีเมนต์และโรยหินกรวดสีเทา ต้นไม้ฟอร์มสวยที่อยู่ในกระถางต้องการเพียงแค่ต้นเดียวเท่านั้นที่เป็นประธานให้แก่บ้านและไม่ให้บดบังด้านหน้าอาคารไปจนหมด เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้คนอยากเข้าไปดื่มด่ำชาภายในร้านมากยิ่งขึ้น จึงต้องทุบผนังเก่าที่ทึบ ๆ เปลี่ยนมาใช้กระจกใสให้มองทะลุเข้าไปเห็นภายในได้อย่างชัดเจน

ภายในร้านตั้งใจให้มีความดิบ ดาร์ก ด้วยการโชว์วัสดุที่จริงแท้ ทั้งงานคอนกรีต อิฐมอญ โครงเหล็ก รวมถึงงานไม้ ตั้งใจให้พื้นที่ชั้นล่างเป็นในส่วนต้อนรับ มีเคาน์เตอร์เท่ ๆ ขัดมันล้อไปกับพื้นและมีแบคกราวน์เป็นคอนกรีตที่ผ่านการเคาะให้เกิดร่องรอยที่ไม่เรียบเนียน บ่งบอกถึงความเก่าแก่และประสบการณ์ที่ผ่านมา

ความหอมของชาเตะจมูกในทันทีเมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในร้าน เนื่องจากมีห้องอบชาอยู่ในบริเวณชั้นล่าง กลิ่นหอมที่ละมุมทำให้ร่างกายผ่อนคลายและสร้างบรรยากาศให้มีความสุนทรีเหมาะแก่การนั่งดื่มชาชมสวน ซึ่งทางร้านได้จัดโต๊ะชงชาถัดจากพื้นที่อบชาหรือคั่วชา ไปเพียงเล็กน้อย

ยกระดับพื้นตรงส่วนของโต๊ะชงชา เหมือนเป็นแคร่เตี้ย ๆ ให้ขึ้นไปนั่งขัดสมาธิได้อย่างเป็นกันเอง ขณะที่กำลังดื่มชาจะมองเห็นพื้นที่สวนกลางแจ้งด้านหลัง มุมที่แสนสงบกับธรรมชาติที่เรียบง่าย กลายเป็นเสน่ห์ของร้านไปด้วยปริยาย

ผนังกระจกสามารถเปิดออกได้ ภายนอกกับภายในจึงมีความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแนบเนียน ออกมานั่งห้อยขาพร้อมกับจิบชารสชาติดีไปด้วยความเพลิดเพลิน

ไม้สีดำผ่านกระบวนการนำไปเผา นอกจากจะให้สีสีเข้มขึ้นแล้ว ยังให้ความทนทานมากขึ้นด้วย นัยยะหนึ่งเป็นการสื่อถึงกระบวนการคั่วชาที่นำไฟมาทำความร้อน อุณภูมิที่สูง ทำให้ชาใบอ่อนเปลี่ยนแปลงไป มีรสชาติที่แตกต่างไปจากเดิม

แนวคิดในการตกแต่งร้าน คือ การสื่อสารถึงรูปแบบของธรรมชาติที่ได้รับมาจากการสังเกตระหว่างที่ปลูกชาบนภูเขา ธรรมชาติค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ฤดูกาลสีสันจะไม่เหมือนกัน ทั้งก้อนเมฆ ใบไม้หรือต้นหญ้า ความรู้สึกหนึ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือ ความรู้สึกสงบเมื่อได้เรียนรู้ถึงความเป็นไปของสรรพสิ่ง จึงนำสิ่งเหล่านี้มาแสดงออกโดยผ่านการเจียร การสกัด การเคาะ และการโชว์ความแตกต่างของแต่ละวัสดุ เพื่อให้ผู้คนได้มองดูไปพร้อม ๆ กับลิ้มรสชาติของชา

รอยด่างของผนัง การกะเทาะอิฐเก่า และการเคาะให้เกิดรูพรุน คือความไม่สมบูรณ์แบบที่งดงาม

ทุบบันไดเดิมออก เปลี่ยนใหม่เป็นบันไดเหล็กแบบวน ทุกจังหวะการย่างก้าวที่ไม่คุ้นเคย จำเป็นต้องใช้สติและสมาธิมากกว่าเดิม เหมือนให้งานสถาปัตกรรมช่วยฝึกการใช้ชีวิตไปทีละน้อย ๆ แม้ช่วงเวลาที่อยู่ในร้านอาจไม่มากและไม่ได้บ่อย แต่ก็น่าจะช่วยให้ลูกค้าได้รับอะไรไปมากกว่าผัสสะทางกาย

เปิดหลังคาให้เป็นช่องแสง เพื่อลดปัญหาความอับทึบและอับชื้นของบ้านทาวน์โฮมที่ผนังด้านข้างไม่สามารถเจาะเป็นช่องแสงได้ ทั้งยังสามารถเดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ชมวิวจากบนที่สูง รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ สร้างประสบการณ์ทางกายและทางใจก่อนออกจากร้านไปได้เป็นอย่างดี