บ้านสองวัสดุอิฐโชว์ปนคอนกรีต

อิฐยังคงเป็นวัสดุพื้นถิ่นที่ไม่มีวันตาย แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยหรือนับพันปี อาจเป็นเพราะเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากวัสดุอื่น คุณสมบัติที่เหมาะกับทิ้งถิ่น และราคาที่ถูก ทำให้การนำเสนอบ้านด้วยอิฐยังคงมีให้เห็น อย่างบ้านนี้ที่ชื่อ Tulsi Shyam ออกแบบโดย Ace Associates ใน Nadiad ก็เช่นกัน สถาปนิกพยายามใส่สุนทรียศาสตร์ ความซ่อนเร้น และความกว้างใหญ่ได้อย่างลงตัว โดยภายนอกชูก้อนอิฐให้เป็นตัวเอกของบ้าน ภาพรวมของบ้านจึงเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณร่วมสมัยและกลิ่นอายของท้องถิ่น เป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบแต่แปลกตา

ออกแบบ : Ace Associates
ภาพถ่าย : Inclined Studio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

สำหรับบ้านขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ของครอบครัวที่มีพื้นที่เกือบ 500 ตร.ม. แห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนที่เงียบสงบใน Anand, Nadiad ประเทศอินเดีย สถาปนิก Ashish Patel ร่วมกับเพื่อน Nikhil Patel และ Nilesh Dalsania และนักออกแบบภายใน Vasudev Sheta กล่าวว่า “บ้านหลังนี้เน้นย้ำถึงความต้องการพื้นที่เปิดโล่ง โซนการใช้ชีวิตที่โต้ตอบกันได้ การตกแต่งภายในแบบร่วมสมัย และแสงแดดที่เข้าถึงบ้านได้ทุกที่” โดยมีระนาบเชิงมุม กำแพงอิฐสีแดง และพื้นผิวสีเทาเป็นตัวกำหนดส่วนหน้า ประตูไม้ระแนงบานใหญ่ตั้งอยู่ทางด้านขวา โดยมีที่จอดรถกึ่งหลังคาอยู่ด้านหลัง

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านในอินเดียจำนวนไม่น้อยที่สร้างโดยอ้างอิงการวางแผนทางสถาปัตยกรรมแบบฮินดู ที่เรียกว่าวาสตุศาสตร์ (Vastu shastra) ซึ่งสถาปนิกรุ่นใหม่พบว่าหากบ้านถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการแบบไม่ประยุกต์ บ้านจะสูญเสียความสวยงามหรือประโยชน์ใช้สอยไป เนื่องจากการวางตำแหน่งที่น่าอึดอัดของการที่พื้นที่แต่ละส่วน ในบ้านนี้จึงปรับฟังก์ชันใช้งานให้ทุกอย่างภายในไหลไปตามธรรมชาติและใช้ประโยชน์ได้จริง แต่ก็มีความเป็นส่วนตัว เริ่มจากประตูหน้าเปิดเข้าสู่ห้องโถงในโทนสีบิสกิต พื้นหินขัดมันตัดกับเพดานกรุไม้เนื้อด้าน ในขณะที่เก้าอี้ปรับเอนนอนสีแดงเข้ม ช่วยเพิ่มสีสันที่ตัดกับฉากกั้นทำจากบล็อกช่องลมลายดอกไม้ที่บ่งบอกว่าด้านในกำลังจะเข้าสู่พื้นที่ private

จากประตูหลักเข้ามาสู่โถงรับรองที่มีม้านั่งสีแดงให้นั่งพัก ก็นำเข้าสู่ห้องรับประทานอาหารที่อยู่หลังฉาก แล้วเปิดเชื่อมต่อห้องโถงกลางที่ทั้งโล่งในแนวนอนและสูงโปร่ง ๆ ติดกับบันได บนพื้นจะมีบริเวณที่ยกระดับขึ้นเล็กน้อย เป็นเหมือนเวทีแสดงงานประติมกรรมใจกลางบ้าน แล้วทำชั้นลอยโค้งรับกับองศาความโค้งด้านล่างอย่างพอดี โดยที่ทีมงานออกแบบพยายามไม่สร้างผนังก่ออิฐปิดทึบแยกสัดส่วนใช้งานเป็นห้องเล็กห้องน้อยเหมือนบ้านรูปแบบเดิม ๆ ทำให้ยังสามารถมองเห็นกันได้แม้จะอยู่ในโซนต่างฟังก์ชันหรือต่างระดับชั้น

ไม้ สีขาว และสีเบจเป็นสีหลัก ๆ ที่ใช้ในห้องนั่งเล่น ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผนังไม้ โซฟาบุนวม และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทีวีที่ติดตั้งบนตู้สีตั้งชิดผนังด้านหนึ่ง ขณะที่หน้าต่างบานใหญ่กั้นอีกสองบาน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สงบ เป็นผู้ใหญ่ สามารถใช้ต้อนรับแขกได้ ห้องนั่งเล่นแยกออกสู่สวนทางทิศตะวันตก ห้องนี้ได้รับการปกป้องจากแสงแดดที่รุนแรงด้วยมุ้งลวดหน้าต่างแบบยืดหดได้ทำหน้าที่ตะแกรงนิรภัยไปในตัว

จากโต๊ะทานข้าวจะเริ่มเห็นสีสันที่จัดจ้านขึ้นของสีแดงสีเหลืองที่เหมือนสีของเครื่องเทศ พริก เครื่องปรุงพื้นฐานของอินเดีย ตรงโถงสูงที่เป็นหัวใจของบ้านเชื่อมต่อช่องว่างโถงบันได สองชั้น ตกแต่งผนังข้างบันไดด้วยมือจับตกแต่งรูปลายใบไม้ เหนือเพดานแหงนขึ้นไปจะมีโลหะรูปใบไม้แขวนบนหลังคาสกายไลท์ซึ่งเจาะรูกลมๆ ให้ทั่ว ช่วยรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ในระหว่างวันแต่มีตัวช่วยกรองแสงไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านมากเกินความต้องการ

ชั้นสองเป็นโฮมเธียเตอร์ ใกล้กับโฮมเธียเตอร์คือบาร์ที่สะดุดตาด้วยกระจกและตู้เก็บของสีแดง โคมไฟระย้าแมงมุม และป้ายไฟนีออนสไตล์เลานจ์ พื้นที่ความบันเทิงนี้เปิดออกสู่สวนบนระเบียง ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง นอกจากโฮมเธียเตอร์และบาร์แล้ว ชั้นสองยังมีห้องออกกำลังกายอีกด้วย

จากห้องนอนสี่ห้อง ห้องหนึ่งอยู่ที่ชั้นล่าง ในขณะที่อีกสามห้องที่เหลือตั้งอยู่ที่ชั้นบน ธีมมินิมัลลิสต์ที่เงียบขรึม ผนังด้านหลังเตียงปูด้วยกระเบื้องสีเบจ ประกบเข้ากับหัวเตียงลายไม้ระแนง เรียบแต่เท่ดูไร้กาลเวลา ชั้นนี้ยังมีห้องบูชาขนาดกะทัดรัด เบาะผ้าลายวิจิตร พร้อมที่เก็บของตกแต่ง สว่างไสวอย่างนวลตาด้วยไฟซ่อนและเหนือช่องเก็บของสลัก โองการที่มีชื่อเสียงของภควัทคีตลงรักปิดทองสวยงาม