บ้านสองชั้นผนังกว้างเปิดเชื่อมสวน

บ้านที่ไร้ธรรมชาติถึงตัวอาคารสวยแค่ไหนก็รู้สึกขาดความชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา เมื่อเทียบกับบ้านที่มีสนามหญ้า ต้นไม้ หรือสระน้ำจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างทันที ดังนั้นคน บ้าน ธรรมชาติ จึงเป็นองค์ประกอบที่ควรถูกจัดอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูล The Backyard House เป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านที่คนรักสนามหญ้าหลังบ้านน่าจะชื่นชอบ จากเดิมที่บ้านถูกปกปิดศักยภาพในการใช้สนามหลังบ้านขนาด 300 ตร.ม. เอาไว้ สร้างพื้นที่ชีวิตกลางแจ้งของครอบครัวที่เชื่อมต่อกับตัวบ้านให้ลื่นไหล

ออกแบบ : Joe Adsett Architects
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้าน 2 ชั้นทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้อยู่ภายในถนนในเมืองของ Teneriffe ควีนส์แลน ประเทศออสเตรเลีย พื้นที่บ้านยาวถึง 21 เมตร สถาปนิกจึงสร้างอาคารให้ยาวขนานไปกับถนน โดยมีรั้วไม้ระแนงถี่ ๆ และซุ้มประตูสีขาวเป็นปราการปิดกั้นที่ดูเรียบง่ายแต่กลับสะดุดตา หลังจากเข้าบ้านผ่านประตูรั้วที่ดูปลอดภัยและร่มรื่นภายใต้ร่มเงาไม้พื้นเมืองขนาดใหญ่ ก็จะปะทะกับความเขียวขจีของสนามหญ้ากว้าง ๆ ภายในได้ทันที

ตัวบ้านถูกวางตำแหน่งให้หันไปทางสนามหลังบ้าน ถัดจากสนามจะเป็นเฉลียงที่มีหลังคาขนาดใหญ่ปกคลุมให้นั่งเล่นแบบกึ่งกลางแจ้ง ซึ่งจะเชื่อมต่อภูมิทัศน์ถนนในขณะที่ยังมีความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ขยับเข้าไปอีกนิดจะเป็นกรอบวงกบประตูที่ออกแบบมาให้เป็นบานเฟี้ยมเก็บเข้าไว้ด้านข้างได้หมด บ้านจึงดูเหมือนไม่มีผนังสร้างการต่อเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายในภายนอก ทำให้บ้านมีขนาดขยายใหญ่กว่าเดิมและใช้งานได้อย่างลื่นไหล ชั้นบนติดหน้าต่างบานเฟี้ยมตลอดแนวเรียงต่อกัน 10 กว่าบาน ทำให้ผนังบ้านมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าการก่อปิดทึบ

บ้านนี้มีทั้งหมดสี่ห้องนอนสำหรับครอบครัวที่กำลังเติบโต สถาปนิกจึงจัดแปลนชั้นล่างแบบ open plan โล่ง ๆ ไม่มีผนังกั้นเป็นโซนใช้งานสาธารณะ ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง ห้องนั่งเล่นในบ้านที่อยู่บริเวณเดียวกับ ห้องทานข้าว และครัว ใจกลางบ้านเจาะเพดานเชื่อมพื้นที่แนวตั้งเป็นช่องว่าง Double Space ขนาดใหญ่สูงถึง 6.5 เมตร ล้อมรอบด้วยช่องแสง เพื่อดึงความสว่างตามธรรมชาติเข้ามาในบ้านอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และช่วยให้ระบายอากาศได้ทั่วทั้งบ้าน

ในแง่ของการวางแผน ช่องว่างกลางบ้านนี้นอกจากทำหน้าที่เรื่องการจัดการแสงและการไหลเวียนอากาศภายในแล้ว สถาปนิกยังตั้งใจที่จะใช้ส่วนนี้เป็นตัวแยกโซนสาธารณะและส่วนตัวบนชั้นสองออกจากกัน โดยที่ยังยังคงให้การเชื่อมต่อในแนวตั้งระหว่างระดับ เมื่อมองจากชั้นบนลงมาก็เห็นด้านล่างเกือบทั้งหมด สำหรับช่องแสงขนาดใหญ่บนผนังชั้นสองมีทั้งแบบบานเกล็ดและกระจกติดตาย ซึ่งสามารถขยับปรับองศาในการเปิดรับลมระบายอกาศออกจากตัวบ้านได้ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเพราะได้ติดตั้งมู่ลี่ปรับแสงอัตโนมัติและแบบแมนนวลเอาไว้ใช้ในกรณีที่รู้สึกว่าแสงมากเกินไป

บริเวณครัวโดดเด่นกับแผ่นหินอ่อนสีขาวและเพดานไม้ระแนงที่ทะยานผ่านช่องว่าง Double Space ที่ทำให้บ้านดูพิเศษ ถูกจับคู่อย่างสวยงามด้วยของตกแต่งที่ทำตามสั่ง เช่น โคมไฟระย้า David Trubridge หน้าต่างและประตูไม้โรสวูด ไอส์แลนด์ท็อปกระเบื้องหินอ่อนขัดมัน และโต๊ะรับประทานอาหารไม้โอ๊คขัดเงาสำหรับ 8 ที่นั่ง เหนือเคาน์เตอร์ครัวมีหน้าต่างแนวนอนกรอบไม้ที่เปิดมุมมองให้เห็นภายนอกในระดับสายตาได้พอดี เป็นความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความโอ่โถง ความอบอุ่น และเสน่ห์เฉพาะตัว

ช่องแสงในบ้านมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ แนวนอน แนวตั้ง แต่ที่ต่างจากภาพคุ้นตาในบ้านเรา คือ ช่องแสงแนวนอนยาว ๆ ที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างผนังกับหลังคา ซึ่งจะทำหน้าที่ดึงแสงเข้าสู่ตัวบ้านจากด้านบน วิธีนี้จะทำให้บ้านสว่างโดยที่องศาของแสงไม่ค่อยกระทบกับพื้นที่ใช้งานกลางห้องมากนัก ช่วยประหยัดการไช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านช่วงกลางวันได้เป็นอย่างดี