Dharma House

ในวันที่โลกวิวัฒนาการไปด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย จนคน ๆ หนึ่งแทบจะตามไม่ทัน แต่ในคนสายงานไอที การหยุดตาม หยุดศึกษาก็เท่ากับการหยุดพัฒนา จนบางครั้งเวลาที่ต้องการพักกลับไม่ได้พักอย่างแท้จริง บ้านที่อยู่อาศัยจึงต้องสามารถทำให้ช่วงเวลาของการพักผ่อนมีความผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง มีความสงบอย่างแท้จริง เพื่อปรับสมดุลของชีวิตให้ได้กลับมาสู่จุดตรงกลาง ไม่มากไป ไม่น้อยไป

ออกแบบ : Lalith Gunadasa Architects
ภาพถ่าย : Dilanka Bandara
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

เจ้าของบ้านคือคู่รักหนุ่มสาววัยทำงาน ที่มีชีวิตที่เร่งรีบในทุก ๆ วัน ด้วยสายงานด้านไอที ทำให้ไม่สามารถที่หยุดศึกษาได้เลย ไม่เช่นนั้นจะช้าเกินก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ตกแต่งบ้านที่เข้าไปแล้วสัมผัสได้ถึงความสงบ ทำให้ความว้าวุ่นค่อย ๆ ลดระดับลง เป็นโจทย์ที่สถาปนิกจำเป็นต้องขบคิด ทั้งในเรื่องดีไซน์ เรื่องฟังก์ชันและเรื่องภูมิทัศน์รอบ ๆ บริเวณ

สถานที่สร้างบ้านอยู่ที่ Alakeshwara Road ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นในเมือง Ethul Kotte, Sri Jayawardenapura ประเทศศรีลังกา ออกแบบกำแพงให้ปกปิดมิดชิดและปลอดภัย แต่เพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านรู้สึกถึงความไม่เป็นมิตร จึงใช้ความโค้งมนมาลดความทึบให้ดูอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น

ลักษณะภายนอกเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์รทรอปิคอล ที่มีความโฮมมี่อบอุ่น สีขาวของผนังและสีน้ำตาลของกรอบประตูหน้าต่าง ชวนให้สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่ายและรู้สึกสว่างทางจิตใจ โรงจอดรถเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน จอดได้ 2 คัน เพียงพอสำหรับการใช้งานจริง

เมื่อเข้าสู่พื้นที่ภายในจะรู้สึกถึงความปลอดโปร่งมากกว่าที่จินตนาการ เนื่องด้วยทำการเปิดเว้นคอร์ทพื้นที่ใจกลางบ้านเป็นแบบ Double Volume ความสูงจากพื้นจรดเพดานชั้นบนสุด รวมถึงแสงธรรมชาติที่ส่องลงมากระจายไปทั่วทิศทาง ทำให้บริเวณนี้มีอารมณ์คล้ายกับภายนอกบ้าน เพิ่มความสงบด้วยพระพุทธรูปที่วางเป็นประธาน มีไม้ยืนต้นใบสีเขียวปลูกอยู่ตรงตำแหน่งที่ตั้งใจไว้ บรรยากาศที่เหมือนป่า ทำให้จิตใจรู้สึกสงบขึ้น

พื้นตรงคอร์ทมีระดับต่ำกว่าพื้นในส่วนของห้องครัว อีกทั้งยังใช้วัสดุที่แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง ห้องครัวขนาดใหญ่ที่รวมห้องรับประทานอาหารเอาไว้ด้วยกัน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่สีสว่าง ตัดกับสีน้ำตาลเหลืองของบิลท์อินเคาน์เตอร์ และเข้ากันได้กับกับสีน้ำตาลเข้มของชุดโต๊ะเก้าอี้ ออกแบบผังให้ครัวหันหน้าออกมายังคอร์ท ขณะกำลังทำหรือทานอาหาร จะเหมือนได้ชมสวนอยู่ตลอดเวลา

พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านทั้งหมด 373 ตารางเมตร แทบทุกสัดส่วนต้องการให้เชื่อมโยงกับพื้นที่สีเขียว อย่างเช่น ห้องนั่งเล่นที่ปรับระดับพื้นให้ต่ำ เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับสนามหญ้ามากยิ่งขึ้น ใช้ประตูกระจกกรอบไม้บานเฟี้ยมเปิดพับจนสุดได้กว้างขวาง ภายในจัดวางโซฟาไม้เบาะสีครีม สีสันที่อ่อนละมุน ทำให้รู้สึกเบาสบายทุกครั้งที่ได้พักผ่อน

คอร์ทตรงกลาง เมื่อมองลงมาจากชั้นบนจะเห็นความโปร่งโล่งที่ชัดเจน และเมื่อแหงนหน้าขึ้นไปจะได้รับพลังงานจากแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม แสงของพระอาทิตย์และดวงจันทร์จะช่วยอาบความผ่อนคลาย ช่วยชาร์จพลังงานให้กับชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม

ห้องนอนขนาดใหญ่เลือกใช้เตียงนอนสี่เสา บรรยากาศจึงมีกลิ่นอายของความคลาสสิคเบา ๆ ยังคงคอนเซปต์การตกแต่งไว้เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของบ้าน คือ ใช้สีสว่างตัดกับสีน้ำตาลของไม้ หน้าห้องมีระเบียงที่ออกไปยืนรับความสดชื่นได้ และมีหน้าต่างไม้บานทึบที่เปิดออกไปแล้วจะเห็นยอดไม้ตรงบริเวณคอร์ทในบ้านพอดิบพอดี

เมื่อออกมาตรงระเบียงห้องนอน จะมองเห็นห้องนั่งเล่นทั้งในส่วนของชั้นล่างและชั้นบน ทำให้มีความ connect กันระหว่างสมาชิกในครอบครัว ที่ถึงแม้จะไม่ได้ใช้พื้นที่เดียวกัน แต่ยังมองเห็นความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ