
บ้านวัสดุธรรมชาติกลางป่า
บ้านในบริบทของเมือง ความเชื่อมโยงระหว่างผืนดิน ผู้คน และอาคารที่พวกเขาอาศัยอยู่มักขาดหายไป เมื่อเทียบกับบ้านที่สร้างในชนบทหรือบริบทของธรรมชาติ เราจะได้เห็นวิธีการดึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวมห้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุหรือดีไซน์ที่อ้าแขนรับแสง ลม หรือวิว เหมือนที่เราจะได้เห็นใน Edgars Creek โดย Breathe Architecture สถาปัตยกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่หายากของบ้านที่มีการออกแบบที่นำเสนอการเชื่อมต่อกับภูมิทัศน์ โดยไม่พยายามเอาชนะธรรมชาติแต่เป็นการตั้งอยู่อย่างกลมกลืนและถ่อมตัว
ออกแบบ : Breathe Architecture
ภาพถ่าย : Tom Ross
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ไซต์ของบ้านนี้ตั้งอยู่บนฝั่งของ Edgars Creek ในเขตชานเมืองชั้นในของ Coburg North ในเมลเบิร์น ความโดดเด่นอยู่ตรงที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่เนินเต็มไปด้วยแนวต้นไม้ สามารถมองเห็นหน้าผาหินทรายและ แนวต้นไม้พื้นเมือง ironbark trees ซึ่ง Madeline Sewall สถาปนิกโครงการกล่าวว่าได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นที่ป่าที่หาได้ยากในเมืองนี้ จึงต้องพยายามแทรกพื้นที่ใช้ชีวิตให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ แทนที่จะพยายามควบคุมมัน โดยเลือกใช้วัสดุอย่างไม้ระแนง อิฐ และดินอัดเป็นหลัก
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
“แทนที่จะมองว่าเราจะทำให้ไซต์เข้ากับบ้านได้อย่างไร เรากลับมองว่าบ้านจะเข้ากับไซต์ได้อย่างไร” นี่คือที่มาของแนวคิดในการทำ brise soleil หรือแผงบังแสงอาทิตย์ทำจากไม้ระแนงสีน้ำตาล ที่ช่วยลดการถ่ายเทความร้อน เข้าสู่อาคาร และป้องกันบังแดดได้ดี และเพื่อตอบสนองต่อพื้นที่ลาดชัน บ้านถูกแบ่งออกเป็นศาลาสามหลังที่ลดระดับลงไปตามรูปร่างของที่ดิน อนุรักษ์ต้นไม้ที่โตเต็มวัยอย่างระมัดระวัง
นอกตัวบ้านมีต้นไม้อย่างไร ในบ้านก็พบกับต้นไม้ได้อย่างนั้น ทีมงานออกแบบเว้นพื้นที่ข้างบ้าน พื้นใจกลางบ้าน ใต้บันไดปลูกต้นไม้ โอบล้อมธรรมชาติให้เติบโตไปพร้อมกัน บางครั้งก็แทบแยกไม่ออกว่าบ้านสร้างในสวนป่า หรือสวนป่าอยู่ในบ้านกันแน่
สำหรับแปลนอาคารจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนกระจายกันอยู่ภายในไซต์ หลังหนึ่งสำหรับนอน หลังหนึ่งสำหรับอาบน้ำ อีกหลังสำหรับใช้ชีวิตประจำวันนั่งเล่นล้อมรอบลานภูมิทัศน์โดยรอบ ไม่เฉพาะตัวอาคารเท่านั้นที่สร้างลดหลั่นตามระดับของที่ดิน ภายในอาคารหลักยังมีความต่างระดับของห้องครัวกับพื้นที่นั่งเล่นให้เห็น ซึ่งสถาปนิกกลับนำจุดด้อยของความไม่เท่ากันของพื้นที่สร้างลูกเล่นที่น่าสนใจให้กับบ้าน และยังแยกสัดส่วนการใช้งานออกจากกันโดยไม่ต้องกั้นแบ่งเป็นห้อง ๆ
โทนสีวัสดุธรรมชาติที่เรียบง่ายเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้เป็นสื่อถึงจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบที่มีพื้นผิวเรียบง่ายและตรงไปตรงมา เมื่อเข้ามาใกล้ ๆ จะเห็นว่าบ้านสะท้อนวัสดุที่อยู่รอบๆ ในจุดที่อาคารตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ ironbark ตัวบ้านเองหุ้มด้วยไม้ชนิดเดียวกัน ในขณะที่กำแพงดินอัดซึ่งป้องกันทางทิศใต้ของบ้านก็เป็นตัวกลางเชื่อมต่อความรู้สึกกับหน้าผาหินทรายของลำห้วยด้านล่าง ภายในบ้านก็ยังยึดธีมวัสดุหลักแบบเดียวกันหมดทั้ง 3 อาคาร
มุมมองหลักของบ้านที่เจ้าของและสมาชิกสี่ขาชอบมาใช้งาน จะอยู่ที่เหนือลำห้วยอยู่ทางทิศตะวันตก ดังนั้นการออกแบบจึงพยายามเปิดบ้านไปทางทิศนี้ พร้อมทั้งให้ร่มเงาและการระบายอากาศอย่างเพียงพอ ด้วยการทำผนังเปิดชนมุมออกทั้งสองด้านแบบ 90 องศา เพื่อให้มั่นใจถึงความสบายแม้จะอยู่ในทิศที่แสงค่อนข้างแรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำความเย็น
อาคารแต่ละหลังเชื่อมต่อกับที่ดิน จุดชมวิว และลำห้วย การหมุนเวียนระหว่างพื้นที่แต่ละแห่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสเชื่อมต่อกับพื้นที่ สภาพอากาศ และภูมิทัศน์ที่ไกลออกไป เพื่อการอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้หมายถึงการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ผ่านมุมมองในกรอบ แต่ผ่านการสัมผัส กลิ่น และความรู้สึก
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : แผงบังแสงอาทิตย์ Brise Soleil หรือ Sun Breaker เป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของอาคาร ที่ช่วยลดการถ่ายเทความร้อน เข้าสู่อาคาร และป้องกันบังแดดได้ดี อาจจะประกอบขึ้นจากวัสดุอย่างง่าย เป็นอุปกรณ์บังแดด อาทิ ไม้ระแนง ฉาก บล็อกช่องลม จนถึงแผงคอนกรีตถาวร ซึ่งควรเลือกทิศทางในการติดตั้งให้สอดคล้องกับทิศทางแสงและการโคจรของดวงอาทิตย์ และคำนวณปริมาณความร้อนที่เข้าสู่อาคาร เช่น หากอาคารหันไปทิศตะวันตกที่แสงค่อนข้างแรงทั้งวัน ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ไม่ดูดซับความร้อนมาก มีความถี่มากพอที่จะช่วยกั้นกรองแสงได้มาก เป็นต้น |