บ้านตกแต่งบานหน้าต่างเก่า
ถ้าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ บ้านหลังนี้ก็คงมีดวงตาและหัวใจหลายดวงเต็มไปหมด เพราะพระเอกของบ้านคือ บานหน้าต่างเก่าที่มีขนาดและสีต่าง ๆ กันไม่เหมือนกันแม้แต่บานเดียว สำหรับคนอื่น ๆ หน้าต่างเก่าแบบนี้คงกลายเป็นของเหลือใช้ที่รอวันทิ้ง (หรือทิ้งไปแล้ว) แต่สำหรับบางคนที่ยังเห็นคุณค่าของสิ่งของเหล่านี้ ก็จะหยิบจับมาใส่จิตวิญญาณใหม่ ๆ ให้กลายมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของบ้านในขณะที่หน้าที่อาจจะต่างไปจากเดิม
ออกแบบ : goy architects
ภาพถ่าย : fabian ong
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านที่สร้างเพื่อใส่เรื่องราวชีวิต
บ้านสองชั้นในสิงคโปร์หลังนี้สองชั้นนี้เป็นของครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีกิจกรรมในบ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เด็กเล่น พื้นที่สตูดิโอสำหรับชั้นเรียนพิลาทีส ศูนย์พบปะระหว่างผู้คน การแบ่งสัดส่วนใช้งานเพื่อแยกความเป็นส่วนตัวออกจากส่วนรวมจึงค่อนข้างสำคัญ ซึ่งสถาปนิกตีโจทยืได้ดี นอกจากนี้ในส่วนการตกแต่งบ้าน ยังโดดเด่นตรงการใช้หน้าต่างบานเกล็ดเก่า ๆ กลับมาชุบชีวิตใหม่ องค์ประกอบทั้งภายในภายนอกทำให้โปรเจ็คนี้ประสบความสำเร็จจากการได้รับรางวัลการออกแบบ Lookbox Design Awards (LBDA) ที่ให้กับโครงการและผู้คนที่กำลังกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบตกแต่งภายในที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์
แรงบันดาลใจสำหรับโครงการนี้ได้มาจากบ้านในกำปงเขตร้อน เป้าหมายคือการสร้างบ้านที่มีวิญญาณที่เรียบง่ายพร้อมช่องว่างต่าง ๆ สำหรับพักผ่อนเล่นและการโต้ตอบระหว่างกัน เจ้าของบ้านมีความหลงใหลในงานประตูหน้าต่างไม้เก่า ๆทีมงานจึงเริ่มมองหาแหล่งที่มาสำหรับหน้าต่างและประตูไม้สักในเกาะชวา จนได้มาทั้งประตู หน้าต่างบานเกล้ด และแผ่นไม้แกะสลักลายดอกบัวเหนือประตูหน้าบ้าน คล้าย ๆ กับหัมยนต์ที่เป็นแผ่นไม้แกะสลักลวดลายโบราณที่ติดตั้งเหนือประตูในเรือนแบบล้านนา
บางจุดปิดบังแสง บางจุดเปิดให้อากาศไหลเวียน
พื้นที่ครัวหลักและมุมทานอาหารเล็ก ๆ อยู่ด้านหน้าของบ้าน เป็นครัวคอนกรีตแบบโมเดิร์นง่าย ๆ มีบานประตูกระจกปิด-เปิด เชื่อมต่อกับส่วนในงานสาธารณะของบ้าน ผนังด้านหนึ่งก่อด้วยบล็อกช่องลมสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เป็นช่องระบายอากาศที่ด้านหน้า ช่วยกรองแสงจ้าที่บ้านต้องรับจากทิศตะวันตก แล้วค่อยเพิ่มแสงด้วยสกายไลท์รับความสว่างจากด้านบนแทน เหนือโซนครัวจะเจาะเป็นโถงสูงเชื่อมต่อกับห้องบนชั้นสอง ทำให้มองเห็นและพูดคุยกันได้แบบไม่ขาดการติดต่อ
เจ้าของบ้านต้องการบ้านที่ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และอยากให้อากาศในบ้านหมุนเวียนถ่ายเทตามธรรมชาติ แต่บ้านเดิมมีช่องแสงน้อย เพดานปิดแบ่งระหว่างชั้นทำให้บ้านมืดทึบ แนวปฏิบัติแรกของสถาปนิกคือ การเบลอเส้นแบ่งระหว่างพื้นที่ภายนอกและภายใน ผ่านการเพิ่มช่องว่างในบ้านทั้งแนวนอนแนวตั้งเพื่อให้แสงและอากาศไหลเวียนระหว่างชั้นได้ดีขึ้น จึงรื้อผนังบางส่วนออกเชื่อมการใช้งานแนวนอน จากหน้าบ้านไปถึงหลังบ้านสามารถเข้าถึงกันได้หมด
ช่องว่างในใจกลางทั้งแบ่งและเชื่อมบ้าน
ในส่วนของการเชื่อมพื้นที่แนวตั้ง ทีมงานรื้อเพดานออกให้เป็นโถงสูงขนาดใหญ่แล้วใส่สกายไลท์บริเวณศูนย์กลางของบ้าน ทำให้แสงธรรมชาติส่องลงมาสร้างความสว่างในใจกลางได้เต็มที่ เอื้อต่อการเจิรญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ในลานบ้าน ช่องว่างขนาดใหญ่ช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกได้ดี ลดการสะสมความร้อนภายในอาคารได้มากจนแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ
ช่องว่างใจกลางบ้านนี้ ทำหน้าที่หลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่ด้านหน้าและด้านหลัง และใช้กำหนดโซนส่วนตัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ด้านหลังออกจากพื้นที่ทางสังคมด้านหน้า นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อภาพกับพื้นที่พิลาทิสบนชั้นสองที่มองเห็นได้จากทุกจุด สมาชิกในบ้านมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นแม้จะอยู่กันคนละชั้น
บานหน้าต่างที่เปิดเผยเรื่องราวทีละบาน
รอบ ๆ ช่องว่างนี้ตกแต่งด้วยหน้าต่างบานเกล็ดเก่ามากมาย บานที่เต็มไปด้วยช่องว่างนี้อนุญาตให้มีการระบายความร้อนแบบ paasive หรือการระบายความร้อนตามกระบวนการธรรมชาติตามที่เจ้าของบ้านตั้งใจ บานประตูหน้าต่างที่มีรูปแบบ ขนาด สี ไม่เหมือนกันเลยสักบานเหล่านี้ เป็นเสมือนช่องทางลับที่เก็บเรื่องราวที่น่าสนใจเอาไว้ เมื่อแต่ละบานเปิดออกจะค่อย ๆ เผยให้เห็นพื้นที่ด้านหลัง ทำให้บ้านมีมิติที่น่าสนุกมากกว่าการก่ออิฐปิดฉาบเรียบหรือการใช้วัสดุอื่น ๆ
บ้านต้องกว้างขวางพอที่จะจัดงานสังสรรค์ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่รวมไปถึงการประชุม เพราะในวันหยุดสุดสัปดาห์เจ้าของบ้านจะจัดเวิร์คช็อปพิลาทิสพื้นฐานสำหรับคนที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ส่วนคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาให้กับเรือนจำในโครงการริบบิ้นสีเหลือง (โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้กระทำผิดอดีต) ต้องพบปะผู้กระทำผิดทุกสัปดาห์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับชุมชนท้องถิ่น บ้านจึงต้องให้ทั้งความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัวและเป็นพื้นที่ที่ผู้คนมารวมกันได้ในช่องว่างที่ขนาดแตกต่างกัน
ห้องนอนส่วนตัวถูกแยกออกมาอยู่บนชั้นบนสุด ทำให้ไม่ถูกรบกวนความเป็นส่วนตัว การตกแต่งที่แสนเรียบง่ายมีเพียงเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ทำให้เกิดความสงบ ผ่อนคลาย พร้อมสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มทุก ๆ วัน
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : ในอาคารที่สูงตั้งแต่สองชั้นขึ้นไป หากไม่ได้ออกแบบช่องแสงเอาไว้ให้เพียงพอ และเทพื้นเพดานปิดกั้นระหว่างชั้นเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด มักจะเกิดปัญหาเรื่องการขาดแสงช่วงกลางอาคาร ทำให้รู้สึกว่าบ้านมืดและอับชื้น อากาศไหลเวียนไม่สะดวก บ้านยุคใหม่จึงพยายามเพิ่มช่องว่างภายในด้วยการลดพื้นที่เพดานบางส่วนออก ทำเป็นโถงสูงเชื่อมพื้นที่แนวตั้งจากชั้นบนลงมาถึงชั้นล่าง จากนั้นเพิ่มช่องแสง skylight บนหลังคาเป็นช่องทางรับแสงจากด้านบน ทำให้ภายในมีอากาศไหลเวียนดี บ้านไม่ขาดแสง และทำให้การปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดขึ้นด้วย |