บ้านชั้นเดียว ปกคลุมด้วยต้นไม้ให้บ้านเย็น

บ้านที่สมบูรณ์แบบหนึ่งหลังต้องสวยงามทั้งภายนอกและภายใน แต่การออกแบบให้หน้าตาหรือเปลือกของอาคารมีความสวยงามจะเป็นปราการด่านแรกที่ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ วัสดุหรือดีไซน์ของบ้านแต่ละหลังก็แตกต่างกันไปตามความชอบและงบประมาณ แต่หากใครที่ชอบบ้านที่มีความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ต้องลองปลูกไม้เลื้อยคลุมบ้านเป็นปราการกั้นกรองแสงแดด ฝุ่น ควัน และเพิ่มความเย็นให้บ้านได้อีกทาง แถมยังประหยัดด้วย เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีตัวอย่างบ้านชั้นเดียวที่ถูกใบไม้คลุมจนเกือบมิดมาให้เป็นทางเลือกสำหรับการตกแต่งเปลือกบ้านกันครับ

รูปภาพ : modernistaustralia
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านผนังไม้เลื้อยกลมกลืนกับธรรมชาติ

บ้านชั้นดียวหลังนี้ตั้งอยู่ที่ Klemzig, South Australia เป็นบ้านสไตล์ Midcentury ที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 หรือกว่า 60 ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่บ้านยังอยู่ในสภาพที่ดี มีการปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้บ้านใช้งานได้ดีขึ้นในยุคนี้ ส่วนที่ทำให้บ้านนี้ดูน่าอยู่คือการจัดภูมิทัศน์แวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเขียวสบายตาของต้นไม้มาปลูกรอบๆ บ้าน และบนผนังของบ้านที่ปลูกไม้เลื้อยคลุมผนัง ใบไม้เหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันแสงธรรมชาติ ช่วยป้องกันแสงแดดกระทบกับผนังบ้านโดยตรง ช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้น และยังใช้กรองฝุ่น ควัน ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการรบกวนจากภายสายตาบุคคลภายนอกไปพร้อม ๆ กันด้วย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ผนังบ้านสีเขียวดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบ ๆ บ้าน หากมองไกล ๆ จะเห็นเหมือนว่าไม้เหล่านั้นเลื้อยอยู่บนผนัง แต่ความจริงแล้วผนังบ้านเป็นกระจก เจ้าของบ้านปลูกต้นไม้เอาไว้ข้าง ๆ บ้านแล้วดัดฟอร์มกิ่งก้านให้เลื้อยมาตามโครงเหล็กและลวดที่ทำเอาไว้รอบบ้าน

บ้านผนังกระจกมีต้นไม้ไว้พรางแดด

เข้ามาสู่ตัวบ้านจะรู้สึกได้ถึงความโปร่งสว่างของผนังกระจกรอบด้าน ความอบอุ่นแต่แฝงความทันสมัยของบ้านยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือ ‘Mid Century Modern’ ที่เริ่มได้เห็นการแต่งบ้านด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแบบเรขาคณิต และยังเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ผ่านพื้น เพดานไม้ เก้าอี้หนัง โซฟาผ้า และโลหะ เป็นต้น ผังบ้านจัดโปร่ง ๆ มีผนังกั้นทำจากโครงเหล็กโปร่ง ๆ สลับกับกรุวัสดุโปร่งแสง ทำให้แต่ละส่วนของบ้านยังคงสามารถเชื่อมต่อกันได้

อบอุ่นเรียบง่ายสไตล์ Mid Century

ในห้องนั่งเล่นจะเห็นเฟอร์นิเจอร์ที่แสดงถึงความเป็นบ้านยุค Mid Cen ด้วยรูปทรงไม่ซับซ้อน ไม่มีรายละเอียดมากจนรกตา ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสัดส่วนและสรีระของผู้ใช้งาน มีผลงานในยุคนี้หลายชิ้นที่เป็นเป็นมาสเตอร์พีซในตำนาน เป็นต้นแบบของเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ และบางรุ่นยังคงความคลาสสิคและมีคนใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน เช่น Lounge Chair และ Ottoman ของคู่รักดีไซเนอร์ Charles & Ray Eames เป็นต้น

ครัวที่โชว์งานไม้ลายโทนสีกลมกลืนไปกับท็อปและเครื่องดูดควันสีส้มอิฐ ปูพื้นด้วยแผ่นหิน ที่ทำให้ความอบอุ่นของบ้านยุคก่อนกระจายไปทั่วบริเวณ ในครัวก็ไม่ขาดช่องแสงที่จะเชื่อมต่อมุมมองทางสายตาออกไปเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้เช่นกัน

ห้องนอนผนังกระจกขนาดใหญ่ มองออกไปชื่นชมทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างเต็มตา แต่ไม่ต้องกังวลว่าห้องจะได้รับแสงแดดมากจนสะสมความร้อนทำให้รบกวนการนอนในตอนกลางคืน เพราะส่วนที่เป็นกระจกได้รับร่มเงาจากต้นไม้ใบหนาที่ปลูกไว้ด้านหน้า คอยเป็นโล่กำบังปกป้องห้องจากแสงในช่วงกลางวัน