ผนังอิฐช่องลมเติมลม แสง และเงาให้บ้าน
อิฐ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี เพราะมีในทุกท้องถิ่น หาง่าย ราคาไม่แพง ในขณะที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว มีการคิดค้นวัสดุสร้างบ้านใหม่ ๆ ออกมามากมาย ทำให้อิฐและวัสดุอีกหลาย ๆ อย่างถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ก็ยังมีสถาปนิกหลาย ๆ คนในแถบเเชียและตะวันตกที่หยิบจับมาใช้งาน สร้างฟังก์ชันและรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับบ้านจนกลายเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดได้ง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น บ้านหลังนี้ในประเทศออสเตรเลียที่นำอิฐมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของบ้าน ผสมผสานดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เข้ากันได้กับแบบบ้านโมเดิร์นแบบไม่ตกยุค
ออกแบบ : Karen Abernethy
ภาพถ่าย : Scottie Cameron
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
อิฐวัสดุง่าย ๆ ที่สร้างความโดดเด่นให้บ้าน
The jewel in the crown เป็นชื่อที่ใช้เรียกบ้านหลังนี้ ถ้าแปลเป็นไทยก็หมายถึงส่วนที่โดดเด่นที่สุดของบ้าน เหมือนอัญมณีบนยอกมงกุฎ ซึ่งหมายถึงอิฐและกระจกที่อยู่ส่วนบนสุดของบ้าน ทำไมอิฐก้อนเล็ก ๆ ที่ทำมาจากดินธรรมดาถึงได้รับการใส่ใจให้เป็นเหมือนอัญมณี คำถามนี้คงต้องยกให้วิธีการนำอิฐมาวางเรียงสลับให้เกิดช่องว่าง สร้างลูกเล่นของแสงและเงาอย่างน่าสนุก ไม่ว่าจะมองจากภายนอกหรือมองกลับกันจากด้านในก็สวยงาม ฟาซาดอิฐนี้ยังช่วยให้แสงส่องผ่านพื้นที่ชั้นบนซึ่งเป็นชั้นลอยแบบเปิดโล่ง ทำให้บ้านไม่มืดทึบ ในขณะเดียวกันก็เติมความเป็นส่วนตัวให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายใน
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านโมเดิร์นบนที่ดินหน้าแคบหลังนี้ เป็นบ้านแบบหนึ่งห้องนอนที่เน้นเรียบง่าย แต่มีศักยภาพที่จะรองรับสมาชิกในบ้านสี่คนโดยไม่รู้สึกว่าใหญ่เกินไปหรืออึดอัด ด้วยการสร้างช่องเปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อพื้นที่ภายในภายนอก ด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ลดความทึบเติมความโปร่งเบาในตัวบ้าน ภายในตกแต่งด้วยไม้และโทนสีอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกว่าบ้านกว้าง แต่ยังคงความผ่อนคลายเป็นมิตร
บันไดลอยตัว เชื่อมพื้นที่ เชื่อมมุมมองสายตา
แสงธรรมชาตินั้นเป็นอีกจุดหนึ่งที่สถาปนิกให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประตูกระจกด้านหน้า ฟาซาดช่องลมบนชั้น 2 หรือบันไดใหม่ที่นำไปยังชั้นลอย ตัวบันไดทำจากแผ่นไม้อัดติดตั้งแบบลอยตัว ใช้เหล็กเส้นกลม ๆ เป็นราวบันได ผลลัพธ์ที่ได้คือบันไดที่ไม่มีลูกตั้ง ทำให้มองเห็นทะลุได้ แสงและลมเดินทางสะดวกแบบไม่มีอุปสรรค ช่วยเชื่อมต่อภาพจากห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหารไปที่สวนได้อย่างไหลลื่น
ทางขึ้นบนชั้นลอยใต้หลังคาไม่มืดทึบ เพราะสถาปนิกออกแบบให้มีช่องแสงบนผนัง ช่วยดึงแสงสว่างเข้ามาบริเวณบันไดทางขึ้น ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟส่องสว่างตอนกลางวัน เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงธรรมชาติ และนำแสง ลม การระบายอากาศมาช่วยให้บ้านเต็มไปด้วยสภาวะสบายพร้อม ๆ ไปกับการประหยัดพลังงงาน
ผนังอิฐช่องลม เติมมิติของแสงเงาให้บ้าน
นางเอกของบ้านคงเป็นบริเวณจั่วบ้าน ซึ่งนักออกแบบทำเป็นผนัง 2 ชั้น เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานตามความต้องการ ภายนอกเป็นฟาซาดอิฐที่เรียงตัวสลับหว่าง ทำให้เกิดช่องว่างที่แสงและลมจะลอดผ่านเข้ามาได้ ส่วนชั้นในเป็นประตูกระจก ในวันที่ต้องการแสงแต่ไม่ต้องการลมเนื่องจากมีฝุ่นหรือควัน ก็ปิดประตูกระจกไว้รับแสงอย่างเดียว แต่ในฤดูร้อนที่ต้องการลมและการระบายอากาศก็สามารถเลื่อนหรือเปิดประตูกระจกให้ลมลอดเข้ามาเติมความสบายภายในได้
ช่วงกลางวันแสงธรรมชาติลอดส่องผ่านช่องว่างระหว่างก้อนอิฐเข้าไปในบ้าน ทำให้เกิดเงาตกกระทบภายในเปลี่ยนทิศทางไปตามการเดินทางของแสงในแต่ละช่วงของวัน แต่ในช่วงกลางคืนเมื่อเปิดแสงไฟส่องสว่างจากภายในก็ทำให้บ้านเปลี่ยนไปเป็นเหมือนตะเกียงดวงใหญ่ สร้างมิติของแสงและบ้านที่แตกต่างแต่สวยงามไปคนละแบบ
แปลนบ้าน
