บ้านโมเดิร์นเด่นที่คอร์ทยาร์ดและโถงบันได

บ้านแต่ละหลังล้วนสร้างมาจากแรงบันดาลใจต่าง ๆ กัน อาจจะมาจากความประทับใจ ประสบการณ์ หรือจุดเด่นในบริเวณชุมชน บ้านหลังนี้ในอินโดนีเซียที่ชื่อบ้านลาวา (lava house) ก็เช่นกัน เจ้าของบ้านได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาเมราปีที่อยู่ใกล้เคียง จึงทำให้มุมมองของบ้านดูคล้ายปากปล่องภูเขาไฟ และการตกแต่งด้วยองค์ประกอบที่ทำให้รู้สึกทึ่งในความกล้าแตกต่าง โดยสถาปนิกมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอประสบการณ์เชิงพื้นที่แก่ผู้อยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร ในขณะเดียวกันก็เชื่อมพื้นที่กลางแจ้งเข้าด้วยกัน ซึ่งทีมงานก็ทำได้สำเร็จอย่างงดงาม

ออกแบบ : Atelier Riri
ภาพถ่าย : Andreaswidi
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ภายนอกบ้านสองชั้นพื้นที่ 390 ตารางเมตร ดูน่าดึงดูดใจด้วยรั้วตกแต่งแผ่นดินเผาสีน้ำตาลที่โค้งโอบเป็นแนว ผนังคอนกรีตสีเทาที่ตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาล หน้าบ้านมีกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ลึกเข้าไปในบริเวณใต้ถุน เหมือนสัญลักษณ์ “ชาม” เป็นตัวแทนของความอ่อนน้อมถ่อมตนในวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นำมาตีความผสมผสานในงานสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างลงตัว แต่จากด้านหน้าจะดูไม่ออกว่าบ้านเหมือนภูเขาไฟอย่างไร ต้องเข้าไปชมด้านในจะเห็นชัดเจนขึ้น

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

เมื่อเรามองตัวบ้านจาก bird eyes view จะเห็นว่าบ้านไม่ได้มีหลังคาปกคลุมทั้งหมด แต่เหมือนหลังคาถูกเฉือนออกให้เป็นชั้นๆ และมีเป็นพื้นที่ว่างกว้างๆ แถมด้วยบันไดโค้งลอยเด่นอยู่กลางบ้าน มองดูแล้วเหมือนปล่องภูเขาไฟที่มีช่องว่างและขอบลดหลั่นลงไปตามธรรมชาติ

Atelier Riri แบ่งอาคารออกเป็นสองส่วน ในชั้นล่างถูกจัดสรรไปยังห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารที่อยู่บริเวณเดียวกัน เป็นพื้นที่ใช้งานส่วนตัวสำหรับการรวบรวมสมาชิกในครอบครัวให้มาอยู่ด้วยกัน ส่วนห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจะอยู่บนชั้นสอง บรรยากาศบ้านโดยรวมดูเรียบง่ายและสะดวกสบาย แต่มีความพิเศษหลายๆ จุด เช่น ชั้นล่างตั้งใจให้หันหน้าไปทางลาน รูปแบบนี้ช่วยให้กิจกรรมของสมาชิกในบ้านดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และมีความยืดหยุ่นในใช้งานระหว่างภายนอกภายในมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะสนุกกับการวิ่งเล่นในสนามหญ้าได้ตลอดเวลา (ที่ฝนไม่ตก)

ลานภายในหรือคอร์ทยาร์ทนี้ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับกิจกรรมของครอบครัวแล้ว ยังช่วยกระจายแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาสู่ห้องโดยรอบอย่างเต็มที่ ตัวบ้านใช้สีที่เป็นกลางและสีอุตสาหกรรมเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแบบเรียบง่ายถ่อมตัว ผนังด้านในเป็นสีขาว ยิ่งช่วยกันสะท้อนให้แสงธรรมชาติให้ส่องผ่านได้ทั่วถึงอย่างเท่าเทียมกัน

อีกหนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ผนังโค้งๆ ที่เราเห็นตั้งแต่บริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นโถงบันไดที่ออกแบบให้ลอยตัวอยู่เหนือลาน โค้งเชื่อมต่อจากชั้น 2 ลงมาบรรจบที่ห้องนั่งเล่นในชั้น 1 ดูเหมือนปากถ้ำที่ชวนให้รู้สึกถึงความลึกลับน่าสนุก ชวนให้เดินขึ้นลงได้บ่อยไม่มีเบื่อ